ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่คนไทยนิยมลงทุนกันมาอย่างยาวนาน ด้วยวิธีการซื้อเก็บไว้เพื่อเกร็งกำไรในระยะยาว แต่ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไปรูปแบบการลงทุนทองคำ ก็มีเพิ่มมากขึ้น เพื่อเป็นทางเลือกให้เราได้ลงทุนกัน ซึ่งบางรูปแบบก็อาจมีมิจฉาชีพแฝงตามมาด้วย ซึ่งหากเราไม่ได้ศึกษาข้อมูลการลงทุนทองคำในปัจจุบันอย่างเข้าใจและรู้เท่าทัน ก็อาจทำให้เรามีโอกาสสูญเสียเงินทองให้กับมิจฉาชีพจนถึงขั้นเป็นหนี้ได้เลย วันนี้ aomMONEY จึงจะมาเปิดเคสเตือนภัยออมทองเพื่อศึกษาความผิดพลาดในอดีต พร้อมชวนเช็กให้ชัวร์ก่อนเริ่มลงทุนกัน

โดยเริ่มแรกเราขอเตือนภัยออมทองด้วยการพาไปรู้จักรูปแบบการออมทองที่ต้องระวังกันก่อน ว่าจะมีรูปแบบเป็นอย่างไรบ้าง และจะสร้างความความหายอย่างไรได้บ้าง

รูปแบบการออมทองที่ต้องระวัง

โดยรูปแบบการออมทองที่เรามักจะโดนหลอกกันได้ง่ายในปัจจุบันนั้น จะเป็นหลักการ ‘เเชร์ลูกโซ่’ ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ หรือ Social Media ต่าง ๆ โดยจะมีหลัก ‘การจูงใจ’ อย่างไรบ้าง ดังนี้

  • แชร์ลูกโซ่จะหลอกให้หาเพื่อนร่วมลงทุน แชร์ลูกโซ่มักจะชักชวนให้ผู้ลงทุนหาสมาชิกมาอยู่ในทีมเพิ่มขึ้น ซึ่งหากเรายิ่งหาได้เพิ่มมากเท่าไร เราก็จะยิ่งได้รับผลตอบแทนมากขึ้นตามไปด้วย การจูงใจออมทองในลักษณะแบบนี้นับได้ว่าเป็นแชร์ลูกโซ่อย่างแน่นอน เราจึงขอเตือนภัยผู้ที่สนใจออมทองว่าอย่าหลงเชื่อวิธีการหลอกลงทุนด้วยการหาสมาชิกแบบนี้ เพราะนอกจากจะสร้างความเสียหายให้กับตัวเราในฐานะผู้ลงทุนแล้ว ยังเสี่ยงสร้างความเสียหายให้กับผู้ที่ถูกชักชวน และเสี่ยงถูกคดีความฟ้องร้องอีกด้วย
  • แชร์ลูกโซ่จะหลอกว่าได้ผลตอบแทนสูงเกินจริง หากเราเจอข้อความในลักษณะ ‘ออมทองคำวันละ 500 บาท รับเงินปันผลทุกสัปดาห์ 250 บาท’ เราจึงขอเตือนภัยได้เลยว่าเป็นการหลอกลงทุนแชร์ลูกโซ่แน่นอน เนื่องจากปกติแล้วการออมทองจะไม่มีการจ่ายปันผลหรือได้ดอกเบี้ยใด ๆ เพราะการลงทุนในทองคำคือการซื้อทองคำสะสมซื้อมาเก็บ ซึ่งผลตอบแทนจะมาจากการเปลี่ยนแปลงของราคาทองคำ ซึ่งไม่เหมือนกับการลงทุนหุ้นที่จะได้รับเงินปันผลตามผลกำไรที่บริษัททำได้นั่นเอง
  • แชร์ลูกโซ่จะมาในแพลตฟอร์มออมทองออนไลน์เถื่อน แพลตฟอร์มออมทองออนไลน์เถื่อนจะมีลักษณะเหมือนแพลตฟอร์มออมทองออนไลน์ที่ถูกกฎหมายทั่วไป เราจึงขอเตือนด้วยการสังเกตบัญชีปลายทางที่เราจะโอนเงินว่าเป็นบัญชีประเภทไหน เป็นชื่อบริษัทหรือนิติบุคคลที่จดทะเบียนของบริษัทที่เราจะลงทุนหรือไม่ โดยเราควรเลี่ยงการโอนเงินผ่านบัญชีบุคคลเพราะอาจเป็นบัญชีม้าที่หลอกเหยื่อแล้วพร้อมโอนเงินออกทันทีที่เราโอนเงินเข้าไปได้ 
  • แชร์ลูกโซ่จะมีหน้าม้ามาอวดอ้างความน่าเชื่อถือ หากเราเจอข้อความในลักษณะ ‘ทำมานานเเล้วได้เงินจริงมาตลอดนะ ไม่โกงหรอกแน่นอน’ หรือมีการจัดฉากอบรมสัมมนาแสดงถึงความสำเร็จ ใช้โฆษณาชวนเชื่อ ซึ่งตรงนี้ควรจะสังเกตข้ออื่น ๆ ร่วมด้วย

ซึ่งหลังจากที่เราได้รู้จักรูปแบบการออมทองที่ต้องระวังกันแล้ว เราจะขอพาไปดูเคสตัวอย่างที่โดนกลโกงหลอก เพื่อศึกษาความผิดพลาดในอดีต และป้องกันตัวเองกัน

ถอดบทเรียนเคสบ้านออมทอง มูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่าพันล้านบาท

วันที่ 23 ธ.ค.2565 ผู้เสียหายเคสบ้านออมทอง จ.สระบุรี กว่า 130 คน เดินทางไปรวมตัวกันที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เพื่อขอให้ช่วยเหลือกรณีลงทุนกับเพจที่อ้างตัวว่าสามารถลงทุนในทองคำที่เรียกว่า ‘การออมทอง’ ชื่อว่า ‘บ้านแม่จ๋า’ หรือ ‘นางวรรษมณ’ โดยรูปแบบการลงทุนกับบ้านออมทองแห่งนี้จะสามารถแบ่งออกมาได้เป็น 3 ช่วง ดังนี้

  • ช่วงแรก นางวรรษมณยังไม่มีหน้าร้าน ตั้งเงื่อนไขว่าทองที่ออมมีราคาบาทละ 23,000 บาท แบ่งช่วงการผ่อนออม 4-10 เดือน หากปิดยอดก่อนจะได้ทองในราคาตามท้องตลาด แต่หากรอตามกำหนด เช่น 4 เดือน จะได้ในราคา 23,000 บาท โดยผู้เสียหายระบุว่าช่วงแรกได้ทอง 96.5% จริง และยังได้รางวัลเป็นทองอีกครึ่งสลึง ทำให้รู้สึกว่าอยากลงทุนต่อ และมีการเปลี่ยนจากลูกค้ากลายมาเป็นตัวแทน เนื่องจากได้ ‘ค่าคอมมิชชั่น’ หากมีผู้มาลงทุนมากขึ้น
  • ช่วงกลาง นางวรรษมณเริ่มปรับระยะการออมทองสั้นลงเป็น 3 เดือน 1 เดือน จนถึง 7 วัน ซึ่งตามปกติแล้ว ปิดยอดวันไหนจะจ่ายผลตอบแทนในวันนั้น แต่ปรากฎว่าในช่วงเดือน ก.ย. เริ่มมีปัญหาจ่ายช้ามาเรื่อย ๆ ซึ่งอ้างว่าเป็นเพราะมียอดเข้ามามาก แต่ก็ไม่หายไปจากเพจของร้านแน่นอน
  • ช่วงท้าย เปิดหน้าร้านเริ่มมีภาพลูกค้าไปซื้อทองที่ร้าน แต่ผู้เสียหายระบุว่าทองที่ร้านมีไม่มาก เพราะนางวรรษมณใช้วิธีการให้ร้านทองอื่น ๆ ส่งทองให้ลูกค้า เช่น คนที่อยู่ในต่างจังหวัด และโอนเงินให้ร้านทองนั้น ๆ แทน จนกระทั่งต้นเดือน ธ.ค. เริ่มไม่จ่ายและขาดการติดต่อไป

ซึ่งจากกรณีเคสออมทอง ‘บ้านแม่จ๋า’ หรือ ‘นางวรรษมณ’ นี้ มีจุดการเตือนภัยออมทองที่สังเกตได้หลายจุด เราจึงจะขอพาทุกคนไปดูสรุปสัญญาณเตือนภัยออมทองที่ได้จากเคสบ้านออมทองนี้กัน

สรุปสัญญาณเตือนภัยออมทอง! จากเคสบ้านออมทอง

  • ผลตอบแทนสูงเกินจริง บ้านออมทองบ้านแม่จ๋ามีการตั้งเงื่อนไขว่า หากออมทองได้ตามระยะเวลาที่กำหนดจะได้ทองคำในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาด ซึ่งความเป็นจริงไม่มีโอกาสที่เราจะได้ผลตอบแทนที่สูงเกินความจริงแบบนี้ได้ 
  • มีรางวัลจูงใจ บ้านออมทองบ้านแม่จ๋านี้ได้หลอกผู้เสียหายด้วยการให้รางวัลเป็นทองครึ่งสลึง ทำให้ผู้ลงทุนรู้สึกว่าอยากลงทุนต่อไปอีก 
  • ต้องหาสมาชิกเพิ่ม บ้านออมทองบ้านแม่จ๋าได้ให้ ‘ค่าคอมมิชชัน’ กับผู้ลงทุน หากมีผู้มาลงทุนมากขึ้น เพื่อจูงใจให้ผู้ลงทุนหาสมาชิกเพิ่ม
  • แรงกดดันให้ตัดสินใจเร็ว มีการเร่งรัดให้ตัดสินใจด้วยการเริ่มปรับระยะการออมทองสั้นลงเป็น 3 เดือน 1 เดือน จนถึง 7 วัน 
  • ข้อมูลไม่ โปร่งใส บ้านออมทองบ้านแม่จ๋านี้ระบุว่าทองที่ร้านมีไม่มาก ต้องให้ร้านทองอื่น ๆ ส่งทองให้ลูกค้า เช่น คนที่อยู่ในต่างจังหวัดและโอนเงินให้ร้านทองนั้น ๆ แทน 

ซึ่งแม้ว่าการออมทองจะมีมิจฉาชีพแฝงเข้ามาหาประโยชน์จากเรามากมาย แต่การออมทองนั้นไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด เพราะถือเป็นหนึ่งในรูปแบบการลงทุนทองคำ ที่สามารถนำไปพิจารณาได้ และหากเรานำสัญญาณเตือนภัยออมทองไปสังเกตและระวังตัวก่อนเริ่มออมทองกัน วันนี้เราจึงมีวิธีออมทองอย่างปลอดภัยมาฝากกัน

แนะนําวิธีออมทองอย่างไรให้ปลอดภัย?

  • เลือกจากความน่าเชื่อถือ ถ้าหากจะซื้อทองคำแท่งหรือทองรูปพรรณที่ร้านทองต้องมีใบอนุญาต การเปิดร้านทองชัดเจน ส่วนหากเราต้องการลงทุนในทองคำผ่านกองทุนรวม บลจ. ที่เราจะไปลงทุนก็ต้องมีความน่าเชื่อถือ ส่วนออนไลน์เราสามารถสังเกตได้จากหน้าเว็บไซต์หลัก หรือโทรสอบถามเจ้าหน้าที่โดยตรง และอย่าลืมเปรียบเทียบค่าธรรมเนียมการให้บริการต่าง ๆ ของแต่ละที่ เพื่อให้คุณออมทองได้อย่างคุ้มค่ามากที่สุดด้วย
  • รู้ก่อนว่าเราเหมาะกับสไตล์ไหน ก่อนเริ่มลงทุนทองคำเราควรศึกษารายละเอียด และทำความเข้าใจเงื่อนไขวิธีการออมทองกับร้านทองอย่างรอบคอบ เพื่อให้การออมทองประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย สร้างผลตอบแทน และความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว โดยควรรู้ก่อนว่าการลงทุนทองคำมีมากมายหลายแบบทั้งทองคำแท่ง ทองรูปพรรณและหุ้นทองคำ ซึ่งการลงทุนทองคำแต่ละประเภทนั้น ก็จะมีวิธีการลงทุนที่แตกต่างกัน และไม่ได้เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์ ซึ่งเราสามารถอ่านเพิ่มเติมต่อในบทความของธนาคารกรุงศรี ‘ลงทุนทอง' เลือกแบบไหนที่ใช่สไตล์เราได้เลย

อย่างไรก็ตาม การเตือนภัยออมทองที่เรานำมาฝากกันนี้ เป็นเพียงทริกหนึ่งที่จะช่วยเราตัดสินใจ และหลีกเลี่ยงการโดนมิจฉาชีพได้ส่วนหนึ่ง แต่การหลอกลวงมักจะเล่นกับความโลภของเรา ดังนั้น สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือเราควรมีสติให้มากที่สุด ยับยั้งชั่งใจและศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจจัดีที่สุด นอกจากนี้ การลงทุนทุกอย่างมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้รอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน

warning-for-investment-in-gold1

บทความนี้เป็น Advertorial

Ref

- https://www.thansettakij.com/news/551234#google_vignette

- https://www.thaipbs.or.th/news/content/322852

- https://punpin.suratthani.police.go.th/แชร์ลูกโซ่-บ้านออมทองเป/