ในปัจจุบัน หนึ่งในธุรกิจที่มีการเติบโตสูง คือ ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี จากข้อมูลพบว่ากว่า 7.83 พันล้านคนทั่วโลก มีการเชื่อมต่อกับเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง รวมถึงเราทุกคนที่กำลังอ่านบทความนี้อยู่ด้วย

นอกจากเทคโนโลยีจะเติบโตแล้ว อาชญากรรมไซเบอร์ก็เติบโตไม่แพ้กัน และเป็นหนึ่งในความเสี่ยงหลักของโลกในปัจจุบัน ทั้งการละเมิดข้อมูลต่าง ๆ การเข้าถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับความเป็นส่วนตัว การปลอมแปลงข้อมูล การเรียกค่าไถ่เพื่อแลกกับไฟล์ข้อมูล รวมถึงการไม่ชำระเงิน หรือการไม่ส่งมอบสินค้า  ซึ่งส่งผลกระทบต่อความเสียหายทั้งชื่อเสียงและความเสียหายด้านการเงินมากมาย ทั้งในส่วนของบุคคลทั่วไปจนถึงธุรกิจขนาดใหญ่  และจากสถิติที่ผ่านมาจะพบว่ามีการละเมิดข้อมูลกว่าหนึ่งพันครั้งในแต่ละปี และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ อีกด้วย

จากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและอาชญากรรมไซเบอร์ที่เพิ่มมากขึ้น ส่งผลต่อธุรกิจที่เกี่ยวกับ Cyber Security เช่นเดียวกัน เนื่องจากการใช้ชีวิตของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป มีการใช้เวลาในโลกออนไลน์มากขึ้นทำงานนอกออฟฟิศมากขึ้น นำมาซึ่งความท้าทายในการจัดการความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของผู้ใช้งานที่เพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลให้มีการใช้ Cloud ในรับส่งข้อมูลหรือจัดเก็บข้อมูลเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และถือเป็นปัจจัยสนับสนุนในระยะยาวสำหรับการลงทุนเพื่อความมั่งคงปลอดภัยทางไซเบอร์  แม้ว่าปัจจุบันมูลค่าการลงทุนด้าน Cyber Security จะยังค่อนข้างต่ำ แต่ในอนาคตมีแนวโน้มที่จะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้บริษัทต่างๆ ยังได้ให้ความสำคัญและมีการลงทุนเพื่อป้องกันปัญหาด้าน Cyber Security เพิ่มสูงขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายทั้งด้านชื่อเสียงและด้านการเงินที่จะตามมาอีกด้วย   

จากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ความซับซ้อนของกฎระเบียบ และรูปแบบการโจมตีของอาชญากรรมไซเบอร์ที่พัฒนาขึ้นต่อเนื่อง  จึงมีการคาดการณ์กันว่าตลาด Cyber Security จะเติบโตที่ระดับ 12.6% ต่อปี จนถึงปี 2573 กันเลยทีเดียว

อย่างไรก็ตาม เมื่อได้ยินคำว่า Cyber Security หลายคนอาจจะนึกถึงแค่ระบบป้องกันต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบออนไลน์ แต่จริงๆ แล้ว การป้องกันของ Cyber Security นั้นมีมากถึง 5 ระดับด้วยกัน คือ

  • Perimeter  Security เป็นระบบการป้องกันชั้นนอกสุด อย่าง Firewall ต่างๆ หรือส่วนที่ต้องมีการเชื่อมต่อระหว่างเครือข่าย
  • Network Security  เป็นการปกป้องเครือข่าย หรือเน็ตเวิร์กจากผู้ใช้ภายนอก โดยป้องกันด้านการเชื่อมต่อข้อมูลทั้ง Hardware และ Software
  • Endpoint Security เป็นการป้องกันจุดที่มีการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ของผู้ใช้งาน โดยป้องกันไม่ให้มัลแวร์เข้ามาทำลายอุปกรณ์ของเราได้
  • Application Security เป็นการป้องกันความปลอดภัยในการเข้าถึง website การป้องกันในระดับแอปพลิเคชัน เพื่อปกป้องข้อมูลของผู้ใช้งานและ Code ต่าง ๆ ภายในแอปฯ
  • Data Security เป็นการปกป้องข้อมูลดิจิทัล และฐานข้อมูล (Database) โดยมีการพิสูจน์ตัวตนของผู้ใช้งานว่ามีสิทธิ์ในการเข้าถึงข้อมูลมากน้อยเพียงใด

ถ้าลองพิจารณาต่อ เราจะพบว่าแต่ละกลุ่มของ Cyber Security นั้นมีโอกาสเติบโตตามการใช้งานที่เพิ่มขึ้นอย่างที่กล่าวมา รวมถึงการแพร่ระบาดของ Covid-19 ได้เป็นตัวกระตุ้นให้คนมาใช้เทคโนโลยีในการติดต่อสื่อสารกันมากยิ่งขึ้น

ดังนั้น จะดีไหม ถ้าหากเราสามารถลงทุนในเทคโนโลยีเหล่านี้ได้ด้วยกองทุนเดียว เพื่อโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีจากการเติบโตของธุรกิจ Cyber Security ที่มีโอกาสเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคต

โดยการลงทุนที่ว่านี้เป็นการลงทุนผ่าน กองทุน KFCYBER  (กรุงศรีไซเบอร์ซีเคียวริตี้)ที่ลงทุนในกองทุนหลัก Allianz Global Investors Fund - Allianz Cyber Security ซึ่งเน้นลงทุนในบริษัทที่มีรายได้หลักจากด้าน Cyber Security โดยตรง พร้อมกระจายการลงทุนในหุ้นหลากหลายขนาดและหลายกลุ่มอุตสาหกรรม เพื่อเข้าถึงโอกาสเติบโตของธุรกิจในกลุ่ม Cyber Security เพื่อให้เห็นภาพในการลงทุนของกองทุน รวมถึงผลตอบแทนที่ผ่านมา เราสามารถดูข้อมูลพอร์ตการลงทุนหลัก และผลตอบแทนที่ผ่านมาได้ตามรูปด้านล่างนี้

จากรูปจะเห็นว่า กองทุนหลักสามารถทำผลตอบแทนได้ดีเมื่อเปรียบเทียบกับผลตอบแทนในกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกัน และมีการกระจายการลงทุนในหลากหลายธุรกิจ ซึ่งถ้าหากเป้าหมายของเราคือการลงทุนในธุรกิจสำคัญในโลกเทคโนโลยีและพร้อมรับความเสี่ยงจากการลงทุนได้ KFCYBER ถือเป็นอีกกองทุนที่น่าสนใจที่ควรมีไว้ในพอร์ตการลงทุนของเรา

กองทุน KFCYBER (กรุงศรีไซเบอร์ซีเคียวริตี้)เปิดเสนอขายครั้งแรก (IPO) ตั้งแต่วันที่ 7-15 กุมภาพันธ์ 2565 ซึ่งสามารถเริ่มต้นได้ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 500 บาทเท่านั้น

สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมพร้อมขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ บลจ.กรุงศรี โทร. 02-657-5757 หรือเว็บไซต์ www.krungsriasset.com หรือ ติดต่อธนาคารกรุงศรีอยุธยาทุกสาขา

ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวมมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต

KFCYBER มีนโยบายลงทุนใน Allianz Global Investors Fund - Allianz Cyber Security, Class RT (USD) (กองทุนหลัก) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ความเสี่ยงระดับ 6: เสี่ยงสูง และกองทุนการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน

กองทุนนี้ลงทุนกระจุกตัวในหมวดอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก

บทความนี้เป็น Advertorial