วันนี้กรุจะมาพูดคุยเรื่อง Ice Bucket Challenge แบบเน้นๆในสไตล์ของพี่เกรย์ให้ฟังกันสัส ว่ามันดีไม่มีหรือมีปัญหาอย่างไร เพราะตอนนี้มันกลายเป็นกระแส Talk Of The Town ไปแล้วไงสัส และที่สำคัญเมื่อวันก่อนก็มีแควนเพจหลังไมค์มาถามว่า กรุมีความคิดเห็นกับกรณีนี้อย่างไรบ้าง

อันดับแรกนะสัส พวกมรุงต้องเข้าใจก่อนว่า Ice Bucket Challenge คืออะไร มันไม่ใช่เอาน้ำแข็งมาราดสาดกัน เหมือนที่พวกมรุงชอบทำกันในวันสงกรานต์ แต่มันเป็นโครงการช่วยเหลือ "ผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง (ALS)"  เพื่อรณรงค์ให้คนทั้งหลายตืนตัวและรู้ถึงอันตรายของโรคนี้ โดยคนเริ่มต้นแคมเปญนี้คือ Pete Frates อดีตนักกีฬาเบสบอลระดับมหาวิทยาลัยผู้ป่วยโรคนี้นั่นเอง และมันก็ลุกลามไปถึงดารา นักร้อง นักกีฬา นักแสดง และคนอื่นๆอีกมากมายจนถึงประเทศไทย

ทีนี้มาดูมุมมองกรุบ้างสัส มรุงรู้ไหมว่า Ice Bucket Challenge มันทำให้เราทุกคนมองเห็นอะไร

ข้อแรก ถ้าอยากตามกระแสแต่ต้องรู้วัตถุประสงค์

อย่างที่บอกไปสัส แคมเปญนี้มันไม่ใช่เอามาเล่นกันเล่นๆแต่มันทำให้เห็นว่า การเอาน้ำเย็นเจี๊ยบ (น้ำแข็ง) ราดหัวตัวเอง มันทำให้มรุงหนาวจนตัวสั่นและควบคุมไม่ได้ ซึ่งมันคืออาการคล้ายๆกับโรค ALS ที่ไม่สามารถควบคุมกล้ามเนื้อได้จนไปถึงระบบการหายใจได้ลำบาก เรียกได้ว่าเป็นการเรียนรู้ชีวิตคนป่วยไงล่ะสัส

แต่ผลดีดกลับของกระแสก็คือ การสร้างความรู้สึกผิดบาปไงสัส คนดังบางคนแม่มอาจจะไม่ได้อยากทำ ลำพังงานแม่มก็ยุ่งจะตายห่าน แต่มันก็ต้องทำเพราะคำว่า "ความดี" มรุงลองคิดสิ ถ้ามีใครสักคนออกมาบอกว่า "ไม่ทำ" กระแสสังคมแม่มจะกลับด้าน และถ้ามรุงยิ่งเป็นคนของประชาชน กรุรับประกันได้เลยว่า มรุงเตรียมตัวโดนบูชายันได้เลยสัส ส่วนไอ้พวกตามกระแสทั้งหลายที่ทำไปโดยไม่รู้อะไร มรุงจงรีบไปบริจาคเหอะสัส

ข้อสอง อย่าด่าไปก่อนล่วงหน้า ระวังจะกลายเป็นหมาหน้าเงิบ

บางคนแม่มด่าก่อนเลยว่า ทำห่านอะไรไร้สาระ จริงอยู่มันอาจจะไร้สาระในสายตาของพวกมรุง แต่ถามว่ามันได้ประโยชน์ไหม แน่นอนสัส มันได้แน่นอน ทั้งเรื่องของเงินบริจาคที่มากขึ้นอย่างรวดเร็ว และการพูดปากต่อปากให้คนรู้จักเรื่องราวของโรคนี้อีกหลายทอด

สิ่งที่มรุงควรจะนำมาเตือนใจก็คือ การบริจาคมันทำได้เสมอโดยที่ไม่มีกิจกรรม ไม่ต้องมีแคมเปญ แต่มันต้องมาจากจิตใจที่อยากจะแบ่งปันให้กับคนอื่นแทนต่างหากสัส ไม่ว่าเค้าจะทำอะไรบ้าบอก็ตาม (โดยไม่ทำร้ายคนอื่น) แต่ถ้าผลที่ได้นั้นมันเป็นประโยชน์ มันก็ถือว่าเป็นเรื่องราวดีๆ #สัสกรุแม่มพระเอกชัดๆ และกรุอยากจะย้ำว่า ที่พวกมรุงมีชีวิตแบบนี้ ได้อ่านบทความกรุ ได้เล่นเฟสด่ากรุ มันดีแค่ไหน ดังนั้นอย่าด่าทอสัส แต่คิดไปเลยว่า มรุงจะช่วยอะไรโลกห่วยๆใบนี้ได้บ้าง นอกจากคอมเม้นท์ด่าเรื่องภาษาของกรุไงดวกส์

ข้อสาม เป็นโอกาสเรียนรู้เรื่อง marketing

แคมเปญนี้แม่มคือตัวอย่างของ Viral Marketing ชั้นดี เพราะกฏมันกำหนดให้ว่าเราต้อง Tag ชื่อเพื่อน 3 คนใน Social Network และมันต้องทำภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากถูก Tag แถมยังต้อง Tag ไปเรื่อยๆอีกต่อเนื่อง แถมที่มันดัง แม่มดังเพราะคนดังทำอีกต่างหาก มันก็ยิ่งสนุกสนานไปกันใหญ่

ตอนนี้ไปๆมาๆมันกลายว่าคนที่ทำไม่ได้บริจาคเพราะโรค ALS แต่ไปบริจาคให้องค์กรต่างๆที่ไม่เกี่ยวข้องกับแคมเปญนี้ ซึ่งถามว่ามันผิดไหม มันก็ไม่ผิดกฏหมายหรอกสัส แต่มันผิดวัตถุประสงค์ และมันยิ่งชี้ชัดไปอีกว่า วันหนึ่งถ้าสิ่งที่มรุงทำมันดัง มรุงไม่มีวันเป็นตัวของตัวเองได้ มันจะถูกบิดเบี้ยวเพี้ยนไปให้แล้วแต่ใจของ Viral นั้นปรารถนา

ก่อนนอนคืนนี้ พี่เกรย์อยากบอกพวกมรุงว่า
จงเรียนรู้อยู่อย่างแตกต่าง เพราะโลกกว้างนั้นมากกว่ากะลาที่ครอบมรุงอยู่