“ความมั่งคั่งทางการเงิน”


สิ่งที่มนุษย์ทุกคนต้องการมาทุกยุคทุกสมัย แต่ที่แตกต่างกัน ก็คงเป็นเรื่องของวิธีการได้มาซึ่งความมั่งคั่งนั้น

ในยุคสมัยก่อน ยุคของคนที่มีอายุ 50 ปี ขึ้นไปในปัจจุบัน หรือที่หลายๆ คน รู้จักกันว่ายุค babyboomer ยุคสมัยที่สงครามพึ่งสิ้นสุด ร่วมด้วยกับเทคโนโลยีที่ได้พัฒนาขึ้นมาอย่างก้าวกระโดด ส่งผลให้เศรษฐกิจของหลายๆ ประเทศโตไวอย่างก้าวกระโดดเช่นกัน

หลายคนเลยได้ลืมตาอ้าปาก ได้สัมผัสสิ่งที่เรียกว่า “ความมั่งคั่งทางการเงิน” อย่างไม่คิดไม่ฝัน

แต่เมื่อเวลาผ่านไป เข้าสู่ยุคของคน GEN Y (เจนวาย) การที่จะได้สัมผัส “ความมั่งคั่งทางการเงิน” ด้วยตัวเอง เหมือนรุ่นพ่อรุ่นนั่นเป็นไปได้ยากเหลือเกิน ในยุคที่เศรษฐกิจเริ่มโตจนใกล้เต็มที่แล้ว ในยุคที่ทุนนิยมครอบครองเศรษฐกิจแทบทั้งหมด ยุคที่ธุรกิจใหม่ๆ เติบโตได้ยากเหลือเกิน

“คนที่รวยก็รวยมากขึ้น แต่จำนวนคนที่รวยกลับลดลง”


ถึงแม้การเป็นมนุษย์เงินเดือน จะมีค่านิยมด้านลบมากมายในกลุ่มคนเจนวาย แต่พอเรียนจบกันมา
ต่างก็ก็มานั่งอยู่หน้าจอคอมในออฟฟิตเย็นๆ แบบไม่มีทางเลือกเท่าไหร่นั

ปัญหาสำคัญของการไม่ประสบความสำเร็จทางการเงิน คงไม่เกี่ยวกับว่าเราเป็นมนุษย์เงินเดือนหรือเปล่า แต่ถุงเงินว่าอาจจะเป็นกับดักทางความคิดต่างๆ ของคนเจนวายอย่างเราๆ มากกว่า


-- ความคิดว่าออมอย่างเดียวก็รวยได้ --


ออมเงิน ออมเงิน ออมเงิน
เป็นสิ่งที่คนยุคเจนวายแทบทุกคน ถูกปลูกฝังกันมาตั้งแต่เด็กๆ แต่การออมเงินอย่างไม่มีการวางแผนเลยนั่นไม่ช่วยให้รวยหรอกนะ จะวางแผนเกษียณแต่เริ่มเก็บเงินตอนอายุ 40 ปี จะวางแผนซื้อรถแต่เก็บเงินเดือนละแค่ 1,000 บาท แล้วเมื่อไหร่จะถึงเป้าหมายล่ะเนี้ย


-- คิดว่าเก็บเงินไว้ในธนาคารนั่นคือการลงทุนแล้ว --


เงินเฟ้อเฉลี่ยปีละ 3 - 4% ถ้าเราถือเงินไว้เฉยๆ นั่นเท่ากับว่ามูลค่าเงินขอเรากำลังลดลงทุกๆ ปี การฝากประจำในธนาคารที่มีอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยไม่เกิน 1% นั่นก็ไม่ได้ช่วยให้เราชนะเงินเฟ้อได้ การลงทุนให้ได้ผลตอบแทนนอกจากจะช่วยเอาชนะเงินเฟ้อได้แล้ว ยังช่วยเพิ่มเงินที่เรามีอยู่ได้อีกด้วย ยิ่งเวลายิ่งมาก ผลตอบแทนจากการทบต้นก็ยิ่งมีมูลค่ามาก


-- แนวคิดกล้าได้กล้าเสีย กับการลงทุน --


ด้วยความกดดันที่น้อยกว่า ทำให้ความเสี่ยงของการศูนย์เงินจึงแทบไม่มีผลเลยสำหรับชาวเจนวายอย่างเรา และ ด้วยแนวคิดพื้นฐานส่วนใหญ่ของคนเจนวาย ที่ชื่นชอบการแสวงหาความตื่นเต้นในชีวิต ทำให้การลงทุนของพวกเขาที่ไม่ค่อยจะคำนึงถึงความเสี่ยง จึงไม่ค่อยประสบความสำเร็จมากนัก


-- ความสุขตรงหน้าสำคัญกว่าสิ่งใด --


เงิน ไม่ตายก็หาใหม่ได้ เมื่อโอกาสในการหาความสุขมาอยู่ตรงหน้า คนเจนวายจึงไม่ลังเลที่จะใช้เงินเพื่อแลกมันมา

แนวคิดใกล้เคียงสุขนิยมแบบนี้ เป็นกับดักทางความคิดที่เป็นศัตรูตัวฉกาจกับความมั่งคั่งทางการเงินอย่างเต็มตัว การจะมีความมั่งคั่งทางการเงิน จำเป็นที่จะต้องมีทุน การสะสมทุนก็จะต้องมีพื้นฐานมาจากออมเงิน การยอมสละความสุข ณ ปัจจุบันเพียงไม่เท่าไหร่ อาจจะหมายถึงความสบายอย่างมากในวัยชราได้


-- แรงผลักดันทางความคิดน้อยกว่าคนยุคก่อนมาก --


น้อยคนนักในยุคเจนวายจะเกิดมาลำบาก ความกลัวและแรงผลักดันที่จะหนีความลำบากจึงน้อยกว่าคนในยุคก่อนมากนัก ความต้องการประสบความสำเร็จในชีวิตของคนเจนวาย อาจจะเพื่อต้องการการยอมรับทางสังคม ซึ่งนั่นจะไม่มีทางเทียบเท่ากับแรงผลักดันเพื่อต้องการหนีจากความลำบากได้เลย


ถ้าคนเจนวายคนไหนมีนิสัยเสียเหล่านี้ควรแก้ซะนะ ใช้พลังด้านบวกเสริมเข้าไป เพราะคนเจนวายมีพลังด้านบวกทางความคิดสร้างสรรค์ มีความทะเยอทะยาน เพียงแค่ต้องรู้จักตัวเอง รู้จักถึงปัญหาของตัวเอง และปรับปรุงแก้ไขมัน “ทันที” !!!

“เพราะสำหรับเรื่องการเงิน ยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งได้เปรียบ”

ถุงเงินขอเป็นกำลังใจให้กับมะนุดเจนวายทุกคน ประสบความสำเร็จทางด้านการเงินนะครับ


และที่สำคัญเจ้ามะนุดทุกคนสามารถเรื่องราวทางการเงินดีๆ อีกมายมาย ได้ที่ Page Money Ideas


https://www.facebook.com/moneyideasth/photos