COVID-19 นับเป็นหนึ่งในวิกฤตครั้งใหญ่ที่แทบไม่มีใครรับมือได้ทัน เพราะนี่คือวิกฤตที่ไม่ได้เกิดจากปัจจัยทั่วไปอย่างปัจจัยทางเศรษฐกิจหรือการเมือง แต่มันคือวิกฤตที่มาจากโรคระบาด และต่อให้เตรียมพร้อมรับมือไว้ ก็ไม่ได้แปลว่าจะสามารถรับมือได้ดีพอจนไม่ได้รับผลกระทบเลย

ทุกธุรกิจจึงได้รับผลกระทบที่มากน้อยต่างกัน โดยเฉพาะวงการอสังหาริมทรัพย์ เพราะ COVID-19 ทำให้กำลังซื้อของผู้บริโภคลดลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากมีรายได้ลดลง หรืออาจถึงขั้นโดนเลิกจ้าง และสินทรัพย์ใหญ่ๆ อย่างบ้านหรือคอนโดมิเนียมจึงถูกชะลอการซื้อออกไปก่อน

จากการอ้างอิงของศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย วิเคราะห์ไว้ว่า หากสถานการณ์ COVID-19 ยังไม่ดีขึ้น อาจทำให้ตัวเลขคนตกงานในปี 2563 สูงถึง 2-3 ล้านคน จึงไม่แปลกเลยถ้าคนที่ยังมีงานทำอยู่จะชะลอการซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยหรือสินทรัพย์ใหญ่ๆ ออกไปก่อน โดยเฉพาะอสังหาริมทรัพย์ (https://news.thaipbs.or.th/content/295146)

ในช่วงกลางปีที่ผ่านมา ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินตลาดอสังหาริมทรัพย์ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลทั้งปี 2563 ว่าจะหดตัวถึง 32.9% คิดเป็นการหดตัวที่สูงที่สุดในรอบ 11 ปี ทำให้บรรดาผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ต่างพากันจัดโปรโมชั่นอย่างดุเดือดเพื่อหาลูกค้าให้ได้มากที่สุด จนบางโครงการเกิดการลดราคาถึง 40 – 50 % กันเลยทีเดียว (อ้างอิงจาก https://www.kaohoon.com/content/370495?fbclid=IwAR3HcQ7AzBlYT75_ROk34n7MUrh86eIHpeLdl7X9Bwh7xb1k5CK4jAGVLZ0)

ทว่าท่ามกลางวิกฤต COVID-19 ก็ยังมีความหวังให้พอมองเห็นอยู่บ้าง นั่นคือ ข่าวการผลิตวัคซีนป้องกัน COVID-19 ที่ได้รับการพัฒนาและทดสอบจนได้ผลเป็นที่น่าพอใจแล้ว ซึ่งเป็นความหวังที่คนทั่วโลกตั้งหน้าตั้งตารอมากที่สุดในปีนี้ 

แม้ผลกระทบจาก COVID-19 มันอาจรุนแรงเกินกว่าที่ใครคาดคิด แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าทุกธุรกิจจะไม่สามารถปรับตัวได้เลย เช่น การปรับตัวของธุรกิจด้านอาหารจากร้านนั่งกินสู่บริการดิลิเวอรี่หรือธุรกิจโรงแรมที่ไร้นักท่องเที่ยวก็เปลี่ยนตัวเองให้เป็นที่พักเชิง Staycation พร้อมกับโปรโมชั่นราคาพิเศษ ให้กับคนไทยโดยเฉพาะเพื่อสร้างกระแสเงินสดเข้ามาหล่อเลี้ยงธุรกิจให้ผ่านพ้นช่วงนี้ไปให้ได้

ภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ในช่วงกลางปียังมีหลายคนกังวลอยู่ว่าจะมีคนมาซื้อบ้านหรือคอนโดมิเนียมหรือไม่ เพราะทุกวันนี้ลูกค้าส่วนหนึ่งที่ซื้ออสังหาริมทรัพย์ ไม่ได้มีแต่คนไทยเท่านั้น แต่ยังมีกลุ่มชาวต่างชาติที่พักอาศัยอยู่ในประเทศไทย และต้องการซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อนำไปลงทุนต่อ ก็นับเป็นกลุ่มลูกค้าที่เป็นสัดส่วนใหญ่พอสมควรเมื่อเทียบกับจำนวนลูกค้าทั้งหมด

ล่าสุดทางศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่าอสังหาริมทรัพย์น่าจะผ่านพ้นจุดต่ำสุดมาแล้ว หลังจากที่ตัวเลขเศรษฐกิจของไทยในไตรมาส 3 จากสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สคช.) ออกมาดีกว่าที่คาดไว้ อย่างไรก็ตาม ทางศูนย์วิจัยกสิกรไทยก็ยังมองว่าในปีหน้าภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะยังทรงๆ ตัวเมื่อเทียบกับปี 2563 แต่ก็นับว่าเป็นสัญญาณที่ดีที่สถานการณ์ไม่ได้เลวร้ายไปกว่าเดิม (อ้างอิงจาก https://www.efinancethai.com/LastestNews/LatestNewsMain.aspx?release=y&ref=M&id=Y2tia1dWMkJubjA9&fbclid=IwAR0oPtmnO3vk4gdC6SBtiWnhgHZEIuJOSSzJOZCuqHTj4HC-ukOgc3uMad0)

และไม่แน่ว่า จากทั้งข่าวพัฒนาวัคซีน COVID-19 และตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาดีกว่าเดิม หลังจากนี้น่าจะเป็นช่วงเวลาทองของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ทั้งสำหรับผู้ที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัย และสำหรับผู้ที่มองหาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน

ในตอนนี้ ทาง Ananda หรือ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ภายใต้แบรนด์ IDEO, UNIO, ELIO และอีกหลายแบรนด์ชั้นนำ ได้จัดแคมเปญสุดพิเศษส่งท้ายปีสำหรับคอนโดติดรถไฟฟ้ายังไงก็ไปต่อได้และเวลานี้เป็นเวลาที่ดีเนื่องจากมีโปรดีและได้เห็นโครงการจริงก่อนตัดสินใจซื้อ และโครงการของอนันดาก็มีมาให้เลือกในราคาลดสูงสุด 43% เหมาะสำหรับคนที่อยากเป็นเจ้าของอสังหาฯ หรือมองหาโอกาสในการลงทุนปล่อยเช่า หากใครสนใจสามารถศึกษาข้อมูลและดูโปรดีส่งท้ายปีได้ที่ https://anan.ly/364QBjR

ลงทุนศาสตร์