น้องมั่งคั่ง : พี่มั่นคงคะ น้องจำได้ว่าพี่มั่นคงเคยบอกไว้ว่า เป้าหมายสำคัญของคนเรา คือ การใช้ชีวิตหลังเกษียณอย่างมีความสุขใช่ไหมคะ? แบบนี้ถ้าเราเก็บเงินก้อนไว้ใช้ตอนเกษียณเรียบร้อยเมื่อไร ก็แปลว่าสบายใจได้แล้วหรือเปล่าคะ?

พี่มั่นคง : ใช่ครับน้องมั่งคั่ง ชีวิตหลังเกษียณที่มีความสุขและอิสระ ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ แต่ต่อให้เราเตรียมเงินก้อนเอาไว้พร้อมใช้แค่ไหน พอถึงเวลาจริงก็อาจจะไม่พอก็ได้นะจ๊ะ

น้องมั่งคั่ง : อ้าววว ทำไมถึงเป็นแบบนั้นล่ะคะ พี่มั่นคง?

พี่มั่นคง : ตั้งใจฟังนะจ๊ะน้องมั่งคั่ง เดี๋ยวพี่จะเล่าให้ฟัง

เมื่อพูดถึง คำว่า เป้าหมายทางการเงิน นักวางแผนหรือผู้เชี่ยวชาญการเงินทั้งหลาย มักจะแนะนำให้เราตั้งเป้าหมายไว้ที่การเกษียณเป็นหลัก ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ถูกต้องและสำคัญมากๆ สำหรับการใช้ชีวิตให้ไม่ลำบากในยามที่เราไม่มีรายได้ในวัยเกษียณ

แต่… เราเคยสงสัยไหมว่า เงินเตรียมเกษียณที่เรามีนั้น มันเพียงพอจริงๆ แล้วหรือยัง เพราะเราไม่สามารถรู้อนาคตของตัวเองได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง การเตรียมเงินไว้ใช้ในวัยเกษียณที่ด้วยเงินก้อนที่มีนั้น นึกขึ้นมาแล้วก็น่าห่วงเหมือนกันว่าอาจจะไม่พอ อย่างที่เขาว่ากันไว้ว่า “เรื่องน่าเศร้าของชีวิตคือตายไปแล้วใช้เงินไม่หมด แต่สุดแสนจะน่าสลดถ้าหากเงินหมดแล้วแต่ไม่ตาย” ถ้าเป็นไปได้เราทุกคนก็คงขอเลือกแบบแรก คือ จากไปทั้งที่ยังมีเงินเหลือแถมยังเผื่อมรดกให้กับลูกหลานได้อีกด้วย

เพราะเรื่องของอนาคตนั้น ไม่มีใครคาดเดาได้ว่าจะเป็นอย่างไร ยิ่งสมัยนี้มีวิทยาการรักษาพยาบาลที่ทันสมัยมากขึ้น อีกทั้งเทคโนโลยีที่เข้ามาช่วยเหลือให้ชีวิตคนเรายืนยาวขึ้น ทำให้คาดการณ์ได้เลยว่าในอนาคตอันใกล้นี้ประชากรของโลกส่วนใหญ่จะมีสัดส่วนของผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน  และเมื่อเป็นเช่นนั้น เรายิ่งต้องมีค่าใช้จ่ายหลังเกษียณในส่วนของค่ารักษา และค่ากินอยู่เลี้ยงดูเพิ่มขึ้นอีกไม่รู้ตั้งเท่าไร

ดังนั้นสิ่งที่เราทำได้คือการเตรียมความพร้อมให้ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มเติมจำนวนเงินที่ต้องการใช้หลังเกษียณ ด้วยการนำเงินที่มีอยู่ไปลงทุนให้ถูกที่เพื่อรับผลตอบแทนที่สูงขึ้น และที่ขาดไม่ได้เลย คือ การป้องกันความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตด้วยการทำประกันอย่างเหมาะสม เรามาดูกันแต่ละวิธีกันเลยดีกว่าครับ

BLA1 (1)-01


1. การเพิ่มเติมจำนวนเงินที่ต้องการ ควรวางแผนการออมและหมั่นทบทวนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายการเกษียณที่วางไว้ หากในระหว่างทางคิดว่าน้อยเกินไปก็ควรจะปรับเพิ่มเติมให้เหมาะสมกับความต้องการ หรืออาจจะต้องลดความต้องการลงไปแทน

2. ลงทุนให้ถูกที่ การลงทุนที่เหมาะสมก็สำคัญ เพราะจะช่วยให้เราสามารถเตรียมเงินเพื่อใช้ยามเกษียณตามเป้าหมายได้รวดเร็วขึ้น และที่สำคัญต้องลงทุนให้เหมาะสมกับผลตอบแทนที่ต้องการ โดยคำนึงถึงความเสี่ยงที่สามารถยอมรับได้ด้วยครับ เช่น ในวัยที่อายุมากขึ้นอาจจะต้องเลือกการลงทุนที่มีความเสี่ยงน้อยลงและให้ผลตอบแทนที่มั่นคงขึ้น

3. ทำประกันอย่างเหมาะสม การทำประกันคือการป้องกันความเสี่ยงจากเรื่องไม่คาดคิด ไม่ว่าจะเป็นการปกป้องชีวิต ปกป้องรายได้ ดูแลสุขภาพ หรือคุ้มครองอุบัติเหตุ ซึ่งควรเลือกให้เหมาะสมกับแต่ละช่วงชีวิต ไม่ว่าจะเป็นช่วงก่อนวัยเกษียณ หรือวัยเกษียณ การมีประกันเพื่อคุ้มครองความเสี่ยงนั้นถือว่าสำคัญอย่างมาก เพราะประกันนี่แหละจะช่วยรักษาเงินที่เราอุตส่าห์เก็บมาทั้งชีวิตไว้ไม่ให้ต้องถูกใช้ไปกับเรื่องที่ไม่คาดฝันเหล่านี้นั่นเอง อย่างประกันชีวิตแบบบำนาญ ถือเป็นตัวช่วยสำคัญในการเตรียมความพร้อมก่อนเกษียณ เพราะการันตีได้ว่าหลังอายุ 60 ปี เราจะมีเงินใช้อย่างแน่นอน และยังได้รับความคุ้มครองชีวิตอีกด้วย

ขอเพิ่มเติมอีกนิดครับ พี่มั่นคงแนะนำว่า ประกันบำนาญนั้นยิ่งเริ่มทำเร็วเท่าไรก็ยิ่งดี เพราะเบี้ยประกันเพิ่มขึ้นตามอายุ อายุน้อยกว่า เบี้ยก็ถูกกว่า และมีเวลาสะสมเงินได้นานกว่า...สบายกว่าเยอะเลย นอกจากนี้ เบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญยังสามารถนำไปใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้อีก สูงสุดถึง 200,000 บาท ตามหลักเกณฑ์ที่กรมสรรพากรกำหนดไว้ ถือว่าวางแผนครั้งเดียวได้ประโยชน์ทั้งตอนนี้และอนาคตเลยครับ

การวางแผนการเงินเพื่อเตรียมสำหรับวัยเกษียณนั้น ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกคนไม่ควรจะละเลย แต่อย่าลืมครับว่า อีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน คือทบทวนเป้าหมาย ร่วมกับการวางแผนชีวิตให้สอดคล้องกับเงินที่เราต้องใช้ เพื่อให้เราทุกคนมีความสุขได้ในทุกๆวัยของชีวิตครับ

น้องมั่งคั่ง : พี่มั่นคงคะ น้องขอบคุณมากเลยนะคะที่เล่าให้ฟัง หนูจะเริ่มวางแผนเตรียมเกษียณตั้งแต่วันนี้เลย พออายุ 60 แล้วก็จะได้สบาย ใช้ชีวิตได้อย่างไม่ต้องกังวล

พี่มั่นคง : ใช่ครับน้องมั่งคั่ง ถ้าเริ่มวางแผนเร็วก็สบายใจได้ตั้งแต่ตอนนี้ แล้วอย่าลืมหมั่นทบทวนแผนด้วยนะครับ