ช่วงนี้มีคำถามเข้ามาเยอะครับ ว่ากองทุนตลาดเงินนั้น มีข้อดี ข้อเสีย ต่างจาก บัญชีเงินฝากไม่ประจำอย่างไร
และอันไหนดีกว่ากันครับ ซึ่งผมก็ต้องบอกว่าขึ้นกับผู้ใช้แหละครับ ว่าชอบแบบไหน
แต่ก่อนที่เราจะตัดสินใจ เรามาดูข้อมูลต่าง ๆ ก่อนดีกว่าครับ
ก่อนอื่น เรามารู้จัก เงินฝากออมทรัพย์ประเภทจ่ายคืนเมื่อทวงถาม แบบไม่กำหนดระยะเวลา หรือ
ที่เราเห็นกันบ่อย ๆ และมีคำถามเข้ามามากเหลือเกินครับ คือ ME by TMB
จุดที่น่าสนใจของ บัญชีแบบนี้คือ อัตราดอกเบี้ยค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับเงินฝากออมทรัพย์ธรรมดาแบบอื่นครับ รายละเอียดคือ
- ยอดเงิน 10 ล้านบาทแรก ได้ดอกเบี้ยเท่ากับ 3.00% ต่อปี
- ยอดเงินส่วนที่เกิน 10 ล้านบาทขึ้นไป เท่ากับ 0.50% ต่อปี
** แต่ทั้งนี้อัตราดอกเบี้ยที่ได้รับอาจแตกต่างไปจากอัตราที่กล่าวถึงข้างต้น โดยขึ้นอยู่กับการจัดโปรแกรมส่งเสริมการขายของธนาคารในแต่ละช่วงเวลา
จุดที่น่าสนใจอื่น ๆ
- ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี ไม่มีขั้นต่ำ ฝาก-ถอนเมื่อไหร่ก็ได้
- ความถี่ในการรับดอกเบี้ย : 6 เดือนครั้ง (ดอกเบี้ยคำนวณทุกวัน) หลังเดือนมิถุนายน และธันวาคมของทุกปี
- การฝากเงิน สามารถทำได้โดยการโอนเงินเข้า การฝากเงินสดที่เครื่องฝากเงินอัตโนมัติของธนาคารทหารไทย และการฝากเช็คที่สาขาของ ME by TMB
- ท่านสามารถใช้บริการได้ 1 ท่าน ต่อ 1 บัญชีเท่านั้น โดยหากทำการปิดบัญชีแล้ว จะไม่สามารถสมัครใช้บริการใหม่ได้อีก
- ไม่มีความเสี่ยงเนื่องจากไม่สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และการโอนเงินต้องโอนเข้าบัญชีที่ผูกไว้ซึ่งเป็นชื่อของท่านเท่านั้น
- โอนเงินภายใน TMB : ไม่มีค่าธรรมเนียม
- โอนเงินต่างธนาคาร
- - โอนทันที 0 – 20,000 บาท : 25 บาทต่อการโอน และ 20,000.01 - 50,000 บาท : 35 บาทต่อการโอน
- - โอนวันทำการถัดไป : ฟรีค่าธรรมเนียมสองครั้ง ต่อเดือน
- ครั้งที่ 3 เป็นต้นไป 0 - 100,000 บาท : 20 บาทต่อการโอน และ 100,000.01 - 500,000 บาท : 75 บาทต่อการโอน
หมายเหตุ: ค่าธรรมเนียมอื่น ๆ จากการใช้บริการ บัญชี ME ฝากไม่ประจำ นอกเหนือจากข้างต้น (ถ้ามี) ให้ถือตามประกาศอัตราค่าธรรมเนียมของธนาคาร
คำเตือน : เงินฝากนี้ได้รับความคุ้มครองจากสถาบันคุ้มครองเงินฝากตามจำนวนที่กำหนดไว้ในกฎหมาย โดยในปัจจุบันคือสูงสุดไม่เกิน 50 ล้านบาท จนถึง 10 ส.ค.2558 และหลังจากนั้นจะลดลงเหลือไม่เกิน 25 ล้านบาท จนถึง 10 ส.ค.2559 และไม่เกิน 1 ล้านบาท ตั้งแต่ 11 ส.ค.2559
ข้อมูลจาก https://www.mebytmb.com/product#product-step01
ส่วนกองทุนตลาดเงินมีรายละเอียดดังนี้ครับ
กองทุนรวมตลาดเงิน (Money Market Fund) ก็คือการที่กองทุนไปซื้อผลิตภัณฑ์ทางการเงินระยะสั้น ที่มีความคล่องตัวคล้ายเงินสด(แต่ก็ไม่ถึงขนาดเงินสดนะครับ) โดยเป็นกองทุนที่มี นโยบายการลงทุนในเงินฝากของธนาคารต่าง ๆ ทั้งนอกและในประเทศ ตั๋วเงิน รวมถึงตราสารหนี้ที่อายุคงเหลือไม่เกิน 1 ปี
กองทุนตลาดเงินเป็นกองทุนที่มีความเสี่ยงต่ำที่สุด แต่ผมไม่ได้หมายความว่าไม่มีความเสี่ยงนะครับ ความเสี่ยงของกองทุนตลาดเงิน ก็มีความเสี่ยงใกล้เคียงกับการเงินฝากบัญชีออมทรัพย์ และ ฝากประจำ ร่วมกับความเสี่ยงของตราสารหนี้ระยะสั้น นั่นแหละครับ คือถ้าแบงค์ล้มเราก็ล้มด้วยครับ หรือถ้าคนที่ออกตราสารหนี้เบี้ยวหนี้แล้วหนีไป เราก็จะไม่ได้รับเงินคืนนั่นเองครับ
ส่วนเรื่องความเสี่ยงเพิ่มเติม ของกองทุนตลาดเงิน และ พรบ คุ้มครองเงินฝากที่กำลังจะมาถึง ไปอ่านกันได้ได้เลยครับ กดที่นี่
ตารางสรุปความแตกต่างคราว ๆ ครับ
จากตารางจะเห็นได้ว่า
จุดเด่นของบัญชีแบบฝากไม่ประจำอย่าง Me by TMB คือ การที่ได้รับดอกเบี้ยค่อนข้างสูง ซึ่งคงที่กว่าการซื้อกองทุนรวมตลาดเงิน และเหมาะกับคนที่ใช้ internet อยู่เป็นประจำครับ เพราะว่าสามารถโอนเงินไปบังบัญชีต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดายอีกด้วย ที่สำคัญ ไม่มีบัตรเดบิต หรือ การถอนเงินสดโดยตรง ซึ่งจะเหมาะกับคนที่อยากเก็บเงินจริง ๆ แบบไม่ต้องการถอนออกมาใช้บ่อย ๆ ครับ เหมาะกับการสะสมเงินออมแบบระยะยาว หรือเหมาะกับคนที่มีการวางแผนในการใช้เงิน รวมถึงสร้างวินัยในการเก็บเงินด้วยครับ
ส่วนถ้าคนไหนที่มีเงินสะสมไม่มากก็สามารถค่อย ๆ ทยอยสะสมเข้าบัญชีได้ เนื่องจากไม่มีค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ในการฝาก และไม่มีขั้นต่ำด้วยครับว่าต้องฝากเท่าไหร่ แต่ส่วนเรื่องสภาพคล่อง อาจจะต้องวางแผนการโอนเงินซักเล็กน้อยครับ จะได้ไม่เสียค่าธรรมเนียมในการโอนเงินครับ
ส่วนจุดเด่นของการลงทุนกับกองทุนตลาดเงิน คือ กองทุนตลาดเงินนั้น จะไม่มีการคิดภาษีจากการขายกองทุนครับ (ดอกเบี้ยที่ได้รับจากตราสารต่าง ๆ ในกองทุน ไม่โดนคิดภาษี) ถึงแม้จะมีค่าบริหารจัดการกองทุน แต่ดอกเบี้ยที่ได้รับ ก็ไม่น้อยทีเดียวครับ มากกว่าฝากออมทรัพย์ทั่วไปอย่างแน่นอน ที่สำคัญมีสภาพคล่องค่อนข้างดีครับ คือขายกองทุนวันนี้ พรุ่งนี้ได้เงินทันที (แต่ให้ระวังวันหยุดของ ธนาคารหน่อยนะครับเดี๋ยว ได้เงินไม่ตรงวันที่จะใช้ครับ 55+) แต่อาจจะต้องตรวจสอบเรื่องขั้นต่ำในการซื้อกองทุนก่อนนะครับ เพราะว่าแต่ละที่มีขั้นต่ำในการซื้อกองทุนไม่เท่ากันครับ
จุดสำคัญของการลงทุนกับกองทุนตลาดเงินก็คือ การได้ทดลองซื้อกองทุนรวม ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการลงทุนผ่านกองทุนรวมนั่นเองครับเรียกได้ว่า เป็นการ วอร์มอัพ นั่นเองครับ
ดังนั้น ท่านผู้อ่านต้องเลือกแล้วละครับ ว่าอยากเก็บเงินของตัวเองไว้ที่ไหน
กว่าจะพบกันครั้งหน้า ขอให้ทุกคนโชคดีกับการเก็บออม และลงทุนนะครับ