สวัสดีครับ กลับมาพบกับผม TAXBugnoms เจ้าเก่าเจ้าเดิม เพิ่มเติมบทความเกี่ยวกับ ภาษีธุรกิจ กันอีกครั้งครับ สำหรับบทความในคอลัมน์วันนี้ เป็นอีกบทความหนึ่งที่มีคนถามเข้ามาบ่อยมากๆครับผม หลังจากที่ออกบทความเรื่องเกี่ยวกับการจดบริษัทหรือนิติบุคคลเข้าไป ทำให้หลายคนสงสัยครับว่า แล้วถ้าหากตัดสินใจจะจดบริษัทฯจริงๆแล้ว เราควรจะทำยังไงให้ประหยัดภาษีมากที่สุด!!
หลายๆคนอาจจะได้อ่านบทความเรือง “เปิดกิจการใหม่!! ควรรู้จักภาษีธุรกิจอะไรบ้าง” ไปแล้วครับ แต่อาจจะไม่เห็นภาพสักเท่าไร ดงันั้นบทความนี้จะตอบแบบเตือนใจกันอีกครั้งครับว่า จะต้องทำยังไงดี เอาล่ะครับ มาเริ่มตั้งแต่หลักการแรกกันเลยดีกว่า
จะจดบริษัทฯ หรือ ห้างหุ้นส่วนดี
คำถามแรก คือ ถ้าตัดสินใจจะจดแล้ว เราควรจะจดในรูปแบบไหนดี ระหว่างห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทฯ เรามาเริ่มต้นจาก "ความหมาย" กันก่อนครับ
บริษัทจำกัด คือ การจัดตั้งธุรกิจขึ้นมาโดยแบ่งทุนออกเป็นหุ้น มีมูลค่าหุ้นละเท่า ๆ กัน โดยมีผู้ถือหุ้นต่างรับผิดจำกัดไม่เกินจำนวนเงินที่ตนยังส่งใช้ไม่ครบมูลค่าหุ้นที่ตัวเองถือ
ห้างหุ้นส่วนจำกัด คือ การจัดตั้งธุรกิจขึ้นมาเหมือนกัน แต่มีผู้เป็นหุ้นส่วนอยู่ 2 ประเภท คือ ผู้เป็นหุ้นส่วนคนเดียวหรือหลายคนที่จำกัดความรับผิดเพียงไม่เกินจำนวนเงินของตัวเอง (หุ้นส่วนจำกัดความรับผิด) และ ผู้เป็นหุ้นส่วนคนเดียวหรือหลายคนที่ต้องรับผิดร่วมกันในบรรดาหนี้ของห้างหุ้นส่วนไม่จำกัดจำนวน (หุ้นส่วนไม่จำกัดความรับผิด)
นอกจากนั้นยังมีห้างหุ้นส่วนอีกประเภทหนึ่ง เรียกว่าห้างหุ้นส่วนสามัญจดทะเบียนอีกครับ แต่ว่าในบทความนี้ขอไม่พูดถึงนะครับ เพราะปัจจุบันไม่ค่อยมีคนจดทะเบียนสักเท่าไรแล้วครับ :)
เห็นไหมครับว่า นิยามของธุรกิจ 2 ประเภทนั้นแตกต่างกัน แต่ในปัจจุบัน คนส่วนใหญ่มักจะเลือกจดทะเบียนธุรกิจในรูปแบบบริษัทมากกว่าเนื่องจากเรื่องการจำกัดความรับผิดไม่เกินมูลค่าหุ้น และไม่มีผลกระทบถึงตัวของเราได้ง่ายๆ เหมือนห้างหุ้นส่วนจำกัด (เพราะเจ้าของมักจะต้องเป็นหุ้นส่วนไม่จำกัดความรับผิด)
ทีนี้ถ้าอยากจะประหยัดจริงๆ ผมอยากให้พิจารณาตั้งแต่ค่าจดทะเบียนบริษัทและความมั่นใจในการจดทะเบียนว่าคุ้มกันหรือเปล่าครับ โดยเริ่มจากการวางแผนต่อไปนี้ครับ
1. จดทะเบียนเองเป็นประหยัดกว่า อะฮ่า โดยปกติแล้วค่าใช้จ่ายที่เห็นนั้นจะมีค่าบริการต่างๆประกอบด้วยครับ แต่ถ้าหากจดเองก็จะประหยัดส่วนนี้ไปได้ ซึ่งวิธีการจดก็ง่ายๆโดยการจดผ่านอินเตอร์เน็ตได้ด้วยตัวเองครับ
2. วางแผนจากการประหยัดค่าทำบัญชี ส่วนนี้ให้เช็คราคาก่อนครับว่า บัญชีเจ้าไหนให้คุณภาพที่คุ้มค่าราคาที่สุด ฟังดีๆนะครับ ไม่ใช่เลือกรายที่ถูกที่สุด แต่ให้เลือกรายที่มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยผมให้หลักการสั้นๆ 3 ข้อครับ (หลักการนี้ผมไปรวบรวมสอบถามมาหลายที่แล้ว ฮ่าๆ ได้คำตอบว่า 3 ปัจจัยหลักตามนี้ครับ)
ความน่าเชื่อถือ : ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อนะครับว่า ความสำคัญเรื่องแรกคือความน่าเชื่อถือ ซึ่งความน่าเชื่อถือนั้นมาจาก 2 ปัจจัยหลัก คือ
ความรู้ความสามารถ เราควรมองหานักบัญชีที่มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องนั้นๆ อย่างแท้จริง ซึ่งการวัดความรู้นั้นอาจจะดูผลงานที่ผ่านมา หรือสอบถามพูดคุยความรู้ความเข้าใจในเรื่องนั้นๆได้เป็นอย่างดี
มีคนแนะนำมา ร้อยละ 75 จากสถาบันวิจัยของผมเอง (มีที่ไหนล่ะ) พบว่าคนส่วนใหญ่หานักบัญชีจากคำแนะนำของเพื่อนๆพี่ๆน้องๆ ซึ่งตรงนี้มันก็มาจากความรู้ความสามารถในปัจจัยแรกนี่แหละครับผม
ประโยชน์อื่นๆที่ได้จากการทำบัญชี ส่วนนี้ให้ดูประโยชน์ส่วนเพิ่มอื่นๆที่ได้รับจากการทำบัญชีด้วยครับ เช่น การวางแผนภาษี บริการต่างๆ ด้านที่ปรึกษาด้านธุรกิจ วางแผนระบบบัญชีต่างๆ ซึ่งตรงนี้อยู่ที่ความจำเป็นของกิจการเราครับ
ความสามารถของเรา สิ่งที่ทำให้เราประหยัดค่าทำบัญชีของเรานั้น คือ ความสามารถในการจัดการเอกสารหลักฐานทางบัญชีและภาษี ซึ่งยิ่งเราทำเองได้มากแค่ไหน ค่าทำบัญชีจะยิ่งถูกลงแน่นอนครับ ลองดูรายละเอียดเพิ่มเติมในบทความนี้ครับ : เศรษฐกิจแบบนี้ มาประหยัดค่าทำบัญชีให้ธุรกิจกันดีกว่า
สำหรับตอนนี้จะเป็นตอนแรกที่ปูพื้นฐานเรื่องของการวางแผนประหยัดภาษีเบื้องต้นครับ โดยเริ่มจากการประหยัดค่าใช้จ่ายก่อนให้เรียบร้อยครับ และอย่างที่ผมเคยย้ำเสมอว่า อย่าวางแผนแค่จะประหยัดภาษี แต่ให้วางแผนประหยัดค่าใช้จ่ายทั้งหมดไปด้วยคร้าบ
สุดท้ายนี้ฝากติดตามเรื่องนี้ต่อในบทความต่อไปกันด้วยนะคร้าบบบบ