การสร้างความมั่งคั่งของคนสมัยใหม่ไม่ได้จำกัดอยู่ที่การออมเงินไว้ในบัญชีเงินฝากเท่านั้น เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยเงินฝากในปัจจุบันไม่ได้สูงเหมือนในอดีต หลายคนจึงมองหาช่องทางในการเปลี่ยนเงินออมเป็นเงินลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนให้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในหุ้น กองทุนรวม อสังหาริมทรัพย์ และการลงทุนทางเลือกอื่นๆที่เกิดขึ้นใหม่อยู่ตลอดเวลา 

แต่ต้องอย่าลืมว่าการลงทุนนั้นมีความเสี่ยงอยู่เสมอ แม้อาจสร้างผลตอบแทนให้เกิดกำไรได้ แต่ลงทุนไปแล้วก็สามารถขาดทุนได้เช่นกัน

สิ่งที่สำคัญในการลงทุนนั้นคือการศึกษาให้เข้าใจว่าเรากำลังลงทุนกับอะไร ความเสี่ยงในการลงทุนนั้นเป็นอย่างไร การรู้ข้อมูลและการกระจายความเสี่ยงจึงเป็นการปิดประตูความเสี่ยงให้กับตัวเราและช่วยสร้างความสำเร็จในการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ


"รับซื้อฝาก" ก็เป็นวิธีการลงทุนอีกอย่างหนึ่งที่สามารถสร้างผลตอบแทนให้กับนักลงทุนได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการสร้างกระแสเงินสดให้กับนักลงทุนอย่างสม่ำเสมอ โดยมีการกำหนดค่าตอบแทนที่รับรองจากกฎหมายการขายฝากไม่เกิน 15% ต่อปี โดยมีอสังหาริมทรัพย์เป็นหลักประกัน หากผู้ขายฝากนั้นมีการผิดนัดสัญญา ผู้รับซื้อฝากก็จะได้ทรัพย์สินมาครอบครองโดยสมบูรณ์ (ทำความเข้าใจ : ขายฝากคืออะไรต่างกับจำนองอย่างไร?)


เพราะฉะนั้นแล้วใน การรับซื้อฝาก หรือ ลงทุนในการขายฝาก นั้น การเลือกอสังหาริมทรัพย์ที่ดีจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก สิ่งที่จะต้องพิจารณาในการลงทุนเพื่อเลือกทรัพย์สินที่ดีมีดังนี้


1. ต้องเป็นอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ในทำเลที่ดี 

การเติบโตของมูลค่าอสังหาริมทรัพย์จะเกิดขึ้นได้เมื่ออยู่ในทำเลที่ดี เช่น ถ้าเป็นอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัยจะต้องอยู่ในย่านที่มีความต้องการซื้อขายสูง มีระบบสาธารณูปโภคเข้าถึง และอยู่ใกล้แหล่งคมนาคมและห้างสรรพสินค้าที่เดินทางได้อย่างสะดวก และในกรณีที่เป็นอสังหาริมทรัพย์เพื่อการทำธุรกิจนั้นจะต้องเป็นแหล่งที่มีผู้คนเดินผ่านไปมาเป็นจำนวนมากเหมาะกับการประกอบกิจการให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายของคนในพื้นที่นั้นๆได้ อสังหาริมทรัพย์ที่มีทำเลดีจะทำให้เรามีชัยไปครึ่งหนึ่งในการสร้างการเติบโตในมูลค่าได้


2. ต้องเป็นอสังหาริมทรัพย์ในราคาที่ถูกและเหมาะสม :

ก่อนการทำสัญญาขายฝากนั้น นักลงทุนจะต้องประเมินมูลค่าของอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นหลักประกันก่อนการรับซื้อฝากเสมอ ไม่ควรลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่มีราคาแพงเกินไปเพราะจะกลายเป็นต้นทุนในการลงทุนที่สูงของนักลงทุนเอง ทั้งนี้การประเมินราคาทรัพย์สินที่เหมาะสมนั้นขึ้นอยู่กับประสบการณ์และวิสัยทัศน์ของนักลงทุนแต่ละคน การเลือกอสังหาริมทรัพย์นั้นจึงควรเลือกในราคาที่ถูกและเหมาะสมต่อการลงทุน และราคาลดลงค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับราคาซื้อขายในตลาดหรือราคาประเมินจากกรมที่ดิน 


3. ต้องเป็นอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ในสภาพดี :

แม้ว่าอสังหาริมทรัพย์จะอยู่ในทำเลที่ดีและมีราคาที่น่าสนใจก็ตาม นักลงทุนเองก็ควรจะหาข้อมูลและตรวจสอบสภาพของอสังหาริมทรัพย์ที่ต้องการลงทุนด้วยเช่นกัน หากอสังหาริมทรัพย์นั้นอยู่ในสภาพที่ดี ก็จะสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นการอยู่อาศัยเอง ปล่อยเช่า หรือนำไปประกอบธุรกิจต่างๆ แต่ถ้าหากทรัพย์สินอยู่ในสภาพที่ไม่ดีจะต้องใช้เงินทุนและใช้เวลาในการซ่อมแซมและปรับปรุงอสังหาริมทรัพย์นั้นๆ

ในอดีตนั้นผู้รับซื้อฝากที่ต้องการลงทุนจะต้องตรวจสอบคุณภาพทรัพย์สินด้วยตัวเอง ตกลงเงื่อนไขกับคู่สัญญาและดำเนินการต่างๆด้วยตัวเอง แต่ในปัจจุบัน ZAZZET (ซีแอซเซ็ท) ได้เข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกทั้งกระบวนการตั้งแต่การแนะนำบริษัทประเมินสินทรัพย์ที่ได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) หรือ หน่วยงานราชการ มีการใช้ระบบการจับคู่ผู้ขายฝากกับผู้รับซื้อฝากซึ่งจะทำให้เกิดประโยชน์และความเป็นธรรมต่อ 2 สองฝ่ายมากยิ่งขึ้น ตลอดจนเป็นตัวกลางในการประสานงานระหว่างผู้ขายฝาก ผู้รับซื้อฝากและหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องจนมีการทำสัญญาจนสำเร็จ

จะรับซื้อฝากทั้งที จะเลือกสินทรัพย์ที่ดีต้องดูอะไรบ้าง?

การรับซื้อฝาก นั้น เป็นอีกช่องทางในการลงทุนที่น่าสนใจเพราะเป็นการลงทุนที่ได้ผลประโยชน์ตอบแทนอย่างสม่ำเสมอโดยมีอสังหาริมทรัพย์เป็นทรัพย์สินในการค้ำประกัน แต่ต้องอย่าลืมว่าการลงทุนมีความเสี่ยง การเลือกทรัพย์สินที่ดีเพื่อลงทุนนั้นเป็นปัจจัยหลักที่สำคัญมาก จึงควรหาทรัพย์สินที่อยู่ในทำเลที่ดี มีราคาเหมาะสมต่อการลงทุน และเป็นอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ในสภาพดี เมื่อเราลงทุนในทรัพย์สินที่มีองค์ประกอบที่ครบถ้วนในคุณภาพได้ การลงทุนย่อมประสบความสำเร็จได้โดยไม่ยาก