ถ้าเอ่ยถึงชื่อต่อชื่อแขกรับเชิญคนต่อไปนี้ ในแวดวงของวงการบันเทิง เราเชื่อว่าไม่มีใครไม่รู้จัก “เทพ โพธิ์งาม” แน่นอนครับ แต่หลายๆ คนโดยเฉพาะเด็กรุ่นใหม่อาจจะไม่ทราบว่า ป๋าเทพมีอีกฉายาที่ได้รับในวงการธุรกิจ นั่นก็คือ “เทพแห่งความล้มเหลว” ผลพวงจากการล้มเหลวทางธุรกิจมากกว่า 7 ธุรกิจ อาทิ เช่น ธุรกิจน้ำข้าวกล้อง ร้านเสริมสวย ร้านอะไหล่รถยนต์ โรงงานเซรามิค ร้านหมูกะทะ เป็นต้น 

และเนื่องจากทีมงานได้มีโอกาสเข้าไปสัมภาษณ์ป๋าเทพในวัย 70 ปี เพื่อเล่าถึงมุมมองชีวิตและบทเรียนชีวิตด้านการเงินที่ผ่านมา เราจึงขอสรุปมาเป็นบทความอ่านง่ายๆ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับเพื่อนๆ ทุกคนในการใช้ชีวิตกันอย่างไม่ประมาทครับ 


ออกไปเรียนรู้โลกข้างนอกตั้งแต่อายุ 12

เทพ โพธิ์งาม : ตั้งแต่ป๋าอายุ 12 ปี ตอนนั้นออกจากบ้านมามีเงินอยู่ 7-8 บาท ประสบการณ์ที่ได้มา ก็คือชีวิตที่เราออกไปเรียนรู้มา เหมือนเราเรียนหนังสือนั่นแหละ ยากแต่ต้องทำให้ได้ไง ถามว่าเพื่อนมึงทำได้เปล่า คนข้างๆ เขาก็ทำได้ เออ....แล้วทำไมมึงทำไม่ได้ เราก็ต้องทำให้ได้ 

มุมมองในการทำธุรกิจปัจจุบัน 

เทพ โพธิ์งาม : เศรษฐกิจตอนนี้กับการทำธุรกิจ ตอนนี้ป๋าว่ามันยังแย่อยู่ ลำบากหน่อย ไม่เหมือนเมื่อสิบกว่าปีหรือยี่สิบกว่าปีมาแล้ว มันยังไม่หนักหนาสาหัสถึงขนาดนี้ การทำอะไรทุกอย่างตอนนั้นมันยังคล่องตัวอยู่ เราก็ต้องปรับตัว เราก็ต้องประคองตัวยังไงให้อยู่ได้

บทเรียนชีวิตการเงินที่จำขึ้นใจ คือ อย่าประมาท

เทพ โพธิ์งาม : อย่าประมาท เพราะการประมาท มันทำให้เราต้องเจ๊ง ต้องเสียหาย เมื่อเราอยู่ไปแล้วได้เรียนรู้ เราจะรู้ว่าเราควรอยู่จัดไหน ตรงไหนที่อยู่ได้  มันไม่ใช่เป็นจุดที่ประสบความสำเร็จหรือที่มั่นคง ตอนนี้ขอแค่เพียงเอาให้มันอยู่รอดได้ แล้วข้างหน้าจะเจออะไร เราก็ค่อยๆ แก้ไขไป ป๋าไม่ได้คิดว่าอีก 10 ปีข้างหน้า กูจะรวยหรืออะไร  แต่พรุ่งนี้กูต้องอยู่ให้ได้ พอวันนี้ได้แล้ว พรุ่งนี้ทำยังไงให้อยู่ได้อีก แค่นั้นเอง

ความล้มเหลวในอดีตกับทุกธุรกิจที่ผ่านมา 

เทพ โพธิ์งาม : มันล้มไปแล้วก็ล้มไปไง มันผ่านไปแล้วจะมานั่งเสียดายเสียใจอะไร พอเราเสียใจปุ๊บ เรื่องเก่ามันก็ไม่ออกจากสมองหรอก มันก็ขังอยู่อย่างนั้น เหมือนน้ำ เวลาน้ำเก่าๆ ขังจนเต็ม เราจะเติมน้ำใหม่เข้าไปได้ยังไง เราต้องทิ้งไปเลย เปิดทิ้ง เพื่อให้น้ำใหม่ได้เข้ามา แล้วมันจะมีช่องว่างที่ทำให้เราได้คิดและได้วางแผน ชีวิตมันไม่ได้หมดแค่นั้น พลาดครั้งเดียวไม่ได้หมายความว่าจบ คนที่เขาประสบความสำเร็จ บางคนเขาก็เจ๊งมาเยอะแยะ แต่เขาไม่ยอมแพ้  เชื่อมั้ยว่าคนทำหมื่นคน จริงๆ มันมีคนพลาดเกือบ 9 พันกว่าคน สำเร็จออกมาไม่ถึง 10 คน แต่สุดท้ายก็อยู่ตรงที่ตัวมึงอีกว่าจะพัฒนามั้ย 

ทำอะไรทำพอประมาณ อย่าทำเกินตัว 

เทพ โพธิ์งาม : อย่าไปมองธุรกิจอะไรที่มันยิ่งใหญ่เกินตัว เอาเท่าที่กำลังเรามีอยู่ในวันนี้ สมมุติเราทำเงินเดือนหมื่นกว่าบาท แต่ดันไปทำซะ โอ้โห...ล้านกว่าบาทอย่างนี้ ก็ต้องไปหากู้เขาอีก นั่นคือความประมาท เราจะซวยเอา มันจะดีไม่ดี มันอยู่ที่เราจะจัดแจงยังไงให้มันถูกต้อง

ไม่คิดอยากย้อนเวลา ไม่คิดอยากแก้ไขอดีต 

เทพ โพธิ์งาม : โอ้ย มาย้อนเวลาย้อนอดีตอะไรอีก แบบนั้นคือคนแม่งทิ้งไม่ออกไง มาคิดถึงอดีตทำไมอีก ถ้าย้อนเวลาได้ มึงจะย้อนทำส้นตีนอะไรอีก จะย้อนทำเหี้ยอะไรอีก ก็มันผ่านไปแล้ว คิดให้มันรกสมองทำไม ไม่ต้องไปคิด กูเจ๊งไปแล้ว เดี๋ยวกูจะเอาใหม่เนี่ย ก็แค่นั้นเอง กูลงทุนเท่าที่กูทำได้ กูมีพันนึง กูก็ทำชีวิตกูพันนึง ค่อยๆ เพิ่มค่อยๆ เติม แค่นั้นเอง อย่าไปคิดถึงอดีต เพราะชีวิตมันมีลงมีขึ้น ไม่ต้องไปท้อ ถ้าไปท้อ มันก็จบแล้วนะ มันไปไม่ได้หรอก 

อยู่กับปัจจุบันทำวันนี้ให้ดีที่สุด 

เทพ โพธิ์งาม : เรามองถึงปัญหาวันนี้ที่เราจะต้องแก้ไข ถ้าประสบความสำเร็จก็ถือว่าเป็นเรื่องโชคดีแล้วกัน แต่เรื่องที่เราต้องคิด คือ ปัจจุบัน ต้องคอยแก้ปัญหา เพราะบางทีบางปัญหามันทำให้เราเดินต่อไม่ได้เหมือนกัน บางวันขายได้ 2 พัน เอากันใหม่ คิดกันใหม่ อยู่อย่างนี้ตลอด แต่อย่าไปยอมแพ้มัน เดี๋ยวมันไปได้เองแหละ

ภูมิใจกับสิ่งที่มีในวันนี้

เทพ โพธิ์งามป๋าเทพ : ก็ภูมิใจเท่าที่เรามีเท่านั้นเอง อย่างน้อยก็ดีกว่าไม่รู้จะไปทำอะไร เดี๋ยวค่ารถมา ค่าบ้านมา ค่าอะไรมา และไม่เพิ่มในสิ่งที่เป็นภาระ เมื่อก่อนมีเท่าไหร่ลงหมดเลย ป๋าเคยทำ มันเสี่ยง พอมันล้ม มันไม่มีอะไรค้ำเลย มีเท่าไหร่ก็อย่าไปทำเกินตัวแล้วกัน

ฝากข้อคิดถึงคนรุ่นหลัง

เทพ โพธิ์งาม : จะทำอะไร มันต้องมีการวิเคราะห์ สมัยก่อนที่ป๋าเจ๊งมาตลอด ก็มาจากส่วนหนึ่งเราไม่ได้คิด เราจ้องแต่จะกระโดดอย่างเดียว เรามองภาพสวยงาม เช่น ทำตรงนี้ได้กำไรเท่านี้แน่เลย แต่ไม่ได้คิดว่าถ้าเกิดขายไม่ได้จะทำยังไง ไปหวังแต่สิ่งที่คิดว่าจะได้ พอมันพลาดก็เสียใจ เพราะว่าเราไม่ได้รอบคอบ เราไม่ได้เรียนรู้มาก่อน สุดท้ายเราต้องสู้ ถ้ากูยอม กูก็อด อย่าไปท้อ


ดูบทสัมภาษณ์เวอร์ชั่น VDO 


และนี่คือเรื่องราวของ “เทพ โพธิ์งาม” อดีตนักแสดงตลกที่ aomMONEY นำมาฝากเพื่อนๆ กันครับ ปัจจุบันป๋าเทพทำธุรกิจขายขนมเปี๊ยะ ชื่อร้าน ขนมเปี๊ยะขั้นเทพ มีรายได้แบบพออยู่พอกิน และยังมีใจที่สู้ ไม่เคยคิดยอมแพ้ 

ก็หวังว่าเรื่องราวของป๋าเทพในวันนี้ที่ทีมงานนำมาฝากเพื่อนๆ จะเป็นประโยชน์และสร้างแรงบันดาลใจให้เพื่อนๆ สู้และเดินต่อไปข้างหน้าพร้อมๆ กันนะครับ aomMONEY พร้อมเป็นกำลังใจให้กับนักสู้ทุกท่านครับ


วัชรินทร์ ศิระวัฒนานนท์ (ผู้เขียน)

รฐาพัชร์ ตุลยพิทักษ์ (บ.ก. aomMONEY)

ทีมงาน aomMONEY Interview


เทพ โพธิ์งาม


ติดตามความรู้เรื่องการเงินการลงทุนจาก aomMONEY

? Website : www.aomMONEY.com

? Youtube : https://www.youtube.com/AommoneyTH

? กลุ่มกองทุนไหนดี : https://www.facebook.com/groups/SelectedFund/