ถ้าเราจำเป็นต้องซื้อรถเพราะขับไปทำงานได้สะดวกและสร้างรายได้ให้มากขึ้นกว่าเดิม มันก็มีคำถามเกิดขึ้นว่าควรจะดาวน์เท่าไหร่ ผ่อนสั้นๆหรือยาว จำนวนกี่ปี สุดท้ายก็มาคิดว่าเราจะผ่อนไหวมั้ย ทั้งหมดนี้ถ้าเรามีข้อมูลและซ้อมออมเงินก่อนซื้อรถจริงๆ เพราะจะทำให้เรามั่นใจมากขึ้นและลดการสร้างปัญหาหนี้สินล้นพ้นตัวนะคะ
เงินดาวน์และระยะเวลาผ่อน
ในตารางซ้ายมือเป็นตัวอย่างตารางผ่อนรถยนต์ยี่ห้อหนึ่ง มีให้เลือกตั้งแต่ดาวน์ 15 – 25% และจำนวนเดือนที่จะผ่อน 48 – 72 เดือน บางบริษัทมีให้ผ่อนถึง 84 เดือนนานจนลืมกันเลยทีเดียว ตารางนี้เป็นเพียงรถยนต์รุ่นเดียวเท่านั้น ส่วนรถรุ่นอื่นๆ ควรสอบถามตัวแทนขายรถยนต์จ้า
สมมติว่าเราสนใจรถยนต์ราคา 659,000 บาท เราได้ตารางผ่อนรถมาดูก่อนตัดสินใจ โดยเปรียบเทียบว่าเงินดาวน์มากน้อยและการผ่อนสั้นยาวนั้น เราจ่ายดอกเบี้ยแตกต่างกันประมาณเท่าไหร่
=> ดาวน์น้อย ผ่อนนาน
จ่ายดอกเบี้ยจำนวนมาก
ในช่องสี่เหลี่ยมสีส้ม เราดาวน์ 15% ใช้เงิน 98,850 บาทและกู้เงิน 560,150 บาท ผ่อนนาน 72 เดือน(6 ปี) ถ้าผ่อนครบแล้วสรุปว่าเราจ่ายดอกเบี้ย 100,522 บาท
=> ดาวน์มาก ผ่อนสั้น
จ่ายดอกเบี้ยน้อยลง
ในช่องสี่เหลี่ยมสีเขียว เราดาวฯ 25% ใช้เงิน 164,750 บาทและกู้เงิน 494,250 บาท ผ่อนนาน 48 เดือน(4 ปี) ถ้าผ่อนครบแล้วสรุปว่าเราจ่ายดอกเบี้ย 39,366 บาท
สรุปว่า...ดาวน์มากและผ่อนสั้นทำให้เราประหยัดดอกเบี้ยจ่าย 100,522 - 39,366 = 61,156 บาท
วางแผนซื้อรถแบบนี้ ผ่อนครบแน่นอน
ถ้าเราอยากรู้ว่าตัวเองจะผ่อนรถไหวมั้ย ก็ต้องเก็บข้อมูลแล้วซ้อมออมเงินก่อน เริ่มจาอาจจะถามเพื่อนร่วมงานหรือค้นหาในสื่อออนไลน์ว่าซื้อรถ 1 คันน่าจะมีค่าใช้จ่ายอะไร เท่าไหร่ เช่น ค่างวด ค่าน้ำมัน ค่าประกัน ค่าดูแลรถ แต่งรถ ค่าที่จอด ฯฯ
ตัวอย่าง ค่าใช้จ่ายน้ำมัน
นำรายจ่ายมาประมาณคร่าวๆว่าหลังจากซื้อรถมาแล้ว เราจะมีรายจ่ายเฉลี่ยเดือนละกี่บาท คิดเป็นกี่ % ของรายได้ เพราะเราไม่ควรมีภาระหนี้เกิน 40% ของรายได้เพื่อชีวิตจะได้มีอากาศให้หายใจบ้าง เช่น รายได้เดือนละ 40,000 บาท ควรมีหนี้สินไม่เกินเดือนละ 16,000 บาท ส่วนที่เหลืออีก 24,000 บาทเป็นเงินออมและรายจ่ายส่วนตัว
สมมติว่าเราเก็บตัวเลขมาได้ประมาณนี้...
=> ค่าผ่อนรถ 11,117 บาทต่อเดือน
=> ค่าน้ำมัน (จากภาพข้างบน) ประมาณ 3,000 บาทต่อเดือน
=> ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ประมาณ 2,000 บาทต่อเดือน
รวมรายจ่ายประมาณเดือนละ 16,117 บาท นั่นแปลว่า เราควรซ้อมออมเงินเดือนละ 16,117 บาท นั่นเองจ้า สิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้มี 2 แบบ คือ
แบบที่ 1 เราทำได้ : หากเราทำได้มากกว่า 6 เดือน แปลว่าการผ่อนอีก 48 เดือนข้างหน้า เราน่าจะปลดหนี้รถได้ แล้วนำเงินออมนี้มาเป็นเงินดาวน์รถเพิ่มขึ้นด้วย บางครั้งอาจจะโชคดีที่วันเซ็นสัญญารถยนต์อาจจะราคาลดลง เราก็จะได้ซื้อรถราคาถูกลงด้วย
แบบที่ 2 เราทำไม่ได้ : ถ้าเราซ้อมออมเงินไป 1 – 2 เดือน แล้วรู้สึกอึดอัด ไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับเงินที่เหลือน้อยลงได้ มันเป็นสัญญาณแรกว่าเราอาจจะผ่อนไม่ไหวและมีโอกาสสร้างหนี้ก้อนอื่นๆตามมาอีกในอนาคต ตอนนี้ก็ต้องมานั่งคิดแล้วว่าควรมองรถที่ราคาถูกลงหรือหารายได้เพิ่มขึ้น
สรุปว่า...
- ควรดาวน์มาก ผ่อนสั้นเพราะเราจ่ายดอกเบี้ยน้อย
- ซ้อมออมเงินให้มั่นใจก่อนเริ่มต้นซื้อรถจริงๆ
-----
PR : E-book ความรู้การเงินและ Workshop
สำหรับคนที่ต้องการเริ่มต้นจริงกับการจัดการเงินของตัวเองเพื่อเตรียมพร้อมตัวองให้ผ่านไปได้ทุกวิกฤต รู้ว่าเพดานหนี้ของเราควรมีเท่าไหร่จะได้ไม่สร้างหนี้เกินความจำเป็น รวมถึงวิธีนำความรู้การเงินไปประยุกต์ใช้กับเป้าหมายการเงินของตัวเอง
แอดมินเขียนไว้ใน E-book “วิธีจัดการเงินขั้นเทพ ฉบับลงมือทำ” อ่านรายละเอียด E-book ได้ที่ลิงค์นี้นะคะ https://bit.ly/3dCv58z ถ้าซื้ออีบุ๊คไป อ่านแล้วมีคำถามเพิ่มเติมหรือสงสัยอะไรสอบถามได้ทันทีเลยจ้า