ผ่า 5 กองทุน LTF ภาค 2

 

หลังจากครั้งที่แล้วที่เราได้รู้จักกองทุน LTF กันแล้ว

คราวนี้เรามาต่อกันว่า 5 กองทุนที่เรียกได้ว่าเป็นกองทุนแนะนำนั้นคือกองอะไรบ้าง

ผมได้เลือกกองทุนจาก สุดยอด website ที่ผมคิดว่าดีมาก ๆ ในการดูผลตอบแทนกองทุนรวมครับ

ลองเข้าไปดูได้ที่นี่เลย ซึ่ง 5 อันดับแรกที่ให้ผลตอบแทนระยะ 5 ปี

(ที่ผมดู 5 ปีเพราะ LTF เป็นกองทุนที่ต้องถือยาวอย่างต่ำ 5 ปี) เชิญทัศนาตามด้านล่างนี้เลยครับ

http://siamchart.com/fund-compare/LTF_EQ ขอขอบคุณ siam-chart มา ณ ที่นี้ด้วย (-/-)

ผ่า 5 กองทุน LTF ภาค 2

 

 

1. แต่เราก็ดูเฉพาะผลตอบแทนไม่ได้นะครับ ต้องดูด้วยว่ากองทุนที่เราเลือกนั้น

ให้ผลตอบแทนที่สม่ำเสมอด้วยรึเปล่านะครับ

 

สิ่งที่เราพอจะดูได้ว่ากองทุนนั้นให้ผลตอบแทนที่สม่ำเสมอรึเปล่านั้นก็คือ Rolling Returns ครับ (คล้าย ๆ วงดนตรีรึเปล่า....นั่นมัน Rolling Stone !!! )

ไอ้เจ้า Rolling Returns นั้นคืออะไร ผมจะอธิบายง่าย ๆ อย่างนี้ครับ

 

จุดแต่ละจุดที่ท่านเห็นในกราฟด้านล่างนั้น คือ ผลตอบแทนเฉลี่ย 3 ปี 1 เดือน ครับ ดังนั้น แต่ละจุดนั้นจะบอกเรื่องราวของการลงทุนที่มากกว่า แค่ว่ากองทุนให้ผลตอบแทนในแต่ละปีเท่าไหร่ครับ

จุด 1 จุดที่เราเห็นจะแสดงให้เราเห็นว่า การลงทุนย้อนไป 3 ปีนั้นกองทุนทำงานได้ดีแค่ไหนครับ ดังนั้นถ้าเราเห็นกราฟที่จุดแต่ละจุดไม่ แกว่งขึ้นลงมากนัก ก็แสดงว่าผลตอบแทนที่เราได้ค่อนข้างที่จะสม่ำเสมอ กว่าเส้นกราฟที่แต่ละจุดนั้นขึ้น ๆ ลง ๆ ครับ 

จากที่ผมเห็นในกราฟ ดูเหมือนว่ากองทุน B-LTF นั้นน่าจะให้ผลตอบแทนที่สม่ำเสมอกว่ากองทุนอื่น

 

ผ่า 5 กองทุน LTF ภาค 2

 

 

 

 

 

ส่วนตารางถัดไป จะแสดงให้เห็นว่า 5 กองทุนที่ให้ผลตอบแทนที่ดูดีที่สุดในระยะ 5 ปี

นั้นจะมีการลงทุนที่ค่อนข้างแตกต่างกัน (คนละสไตล์)

2. เอาละครับ งั้นเรามาดูกันดีกว่า แต่ละกองทุนมีสไตล์อย่างไรครับ

 

1. CG-LTF -ลงทุนเน้นหุ้นขนาดกลาง และมีการเติบโตสูงมาก (จุดเขียว)

2. ABLTF - ลงทุนในกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่ที่มีความมั่นคง ซึ่งมีทั้งหุ้นเติบโตอยู่ในสัดส่วนใกล้เคียงกับ หุ้นที่มีการปันผลและราคาถูก (จุดแดง)

3. MS-CORE LTF - ลงทุนในกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่มากกว่า กองทุนอื่น ๆ ที่ทางผมนำมาเปรียบเทียบกัน และอยู่ระหว่างหุ้นเติบโต และราคาถูก (จุดฟ้า)

4. B-LTF - ลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่และเป็นกลุ่มธุรกิจที่มีการเติบโตสูงควบคู่ไปด้วย (จุดน้ำเงิน)

5. KFLTFDIV - ลงทุนในหุ้นกลุ่มขนาดกลางค่อนข้างใหญ่ และค่อนข้างจะชัดเจนว่ากองทุนนั้นจะค่อนไปทางด้านที่มีหุ้นปันผลมากกว่ากองทุนอื่น ๆ เพราะชื่อกองทุนเองก็ชัดเจนมากคือ กองทุนจะมีการให้ Dividend(ปันผล) และราคาไม่แพง นั่นเองครับ (จุดส้ม)

ผ่า 5 กองทุน LTF ภาค 2

ที่มา : Morningstar Direct

 

 

 

 

3. อีกจุดที่น่าสนใจในการเปรียบเทียบกองทุนคือ อัตราการเปลี่ยนแปลงหุ้นในกองทุนของแต่ละกองทุนเป็นเท่าไหร่กัน (Turnover ratio %)

ท่านที่เป็นนักลงทุนมือใหม่ทั้งหลายไม่ต้องตกใจนะครับ

 Turnover ratio % ก็คือการซื้อหุ้นตัวใหม่เข้ามา หรือขายหุ้นตัวเก่าในกองทุนออกไป นั่นเองครับ และดูว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปกี่ % ครับ

 

ถ้าเปลี่ยนแปลงไป 100 % นั้นหมายความว่า ใน 1 ปี กองทุนนั้นจะมีการซื้อ-ขายหุ้น จนหน้าตาของพอร์ตการลงทุนของกองทุน ไม่เหมือนเดิมเลยครับ คือไม่มีหุ้นเก่าเหลืออยู่เลย

แต่ถ้า % น้อยจะหมายความถึง กลยุทธ์ของกองทุนนั้นจะเป็นแบบ Buy and Hold คือซื้อและถือเก็บไว้จนมูลค่าหุ้นเติบโตไปเรื่อย ๆ

ส่วน % ยิ่งมากแล้วละก็ จะหมายถึง การซื้อหา หุ้นตัวใหม่ ๆ ที่มีโอกาสเติบโตเข้ามาอยู่ในกองทุนนั้นเองครับ

 

ผ่า 5 กองทุน LTF ภาค 2

ที่มา : Morningstar Direct

 

ซึ่งจากตารางนี้จะเห็นได้ว่ากองทุน CG-LTF และกองทุน MS-CORE LTF มีอัตราการเปลี่ยนแปลงหุ้นที่ถือครองใน 1 ปีค่อนข้างที่จะมากกว่ากองทุนอื่น ๆ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการหา หรือเลือกหุ้นที่ดีได้ตลอดเวลาครับ ตัองยกนิ้วให้ผู้จัดการกองทุนครับ

 

ส่วนกองทุน ABLTFมีการเปลี่ยนแปลงการลงทุน หรือซื้อหุ้นใหม่ ขายหุ้นเก่าออกไปน้อยมาก เมื่อเปรียบเทียบกับกองทุนอื่น ๆ ครับ ซึ่งการลงทุนในสไตล์ของ Aberdeen จะเน้นแสวงหา หุ้นพื้นฐานดี และถ้ามูลค่าของธุรกิจของหุ้นในกองทุนยังดีและเหมาะสมอยู่ก็จะถือไว้นานครับ

 สรุป จากสไตล์การลงทุนและผลตอบแทนของแต่ละกองทุนจะเห็นได้ว่า

แม้ว่ากองทุนจะมีการดำเนินนโยบายของกองทุนที่แตกต่างกัน

แต่ก็สามารถที่จะทำผลตอบแทนได้ดีใกล้เคียงกันได้

ทั้งนี้ขึ้นกับความชอบของแต่ละบุคคลว่า จะชอบการลงทุนในสไตล์ไหน กันครับ

แต่การปรับเปลี่ยนหุ้นในกองทุนบ่อย ๆ ก็มีแนวโน้มที่จะทำให้ค่าธรรมเนียมของกองทุนสูงขึ้นไปด้วยครับ

ซึ่งนักลงทุนทุกท่านโปรดตรวจสอบค่าธรรมเนียมก่อนลงทุนกันด้วยนะครับ

 

 

4. ต่อมาคือ การเลือกกองทุนที่ดี เราต้องรู้ด้วยว่าความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นนั้น จะเป็นอย่างไร และเรารับได้ไหม

กราฟด้านล่างจะแสดงให้เห็นว่ากองทุนแต่ละกองทุนจะมีการขาดทุนได้เหมือนกันนะครับ อย่าเผลอดูแต่ตอนมันขึ้นละครับ ซึ่งทั้งหมดนั้นจะให้ผลตอบแทนที่ดีในระยะ 5 ปี

แต่ท่านผู้อ่านต้องลองคิดดูว่า หากขาดทุน 25%, 20 % , 15 % แล้วยังกินอิ่มนอนหลับได้หรือไม่ ถ้าทนได้ก็ลุยกองทุนที่ชอบกันได้เลยครับ

อย่างเช่นถ้าผู้ลงทุนรับความผันผวนได้มาก ถ้าเลือกกองทุน CG-LTF แล้วละก็อาจจะเห็นความผันผวนที่ค่อนข้างมากกว่ากองทุนอื่น ๆ

แต่ก็ให้ผลตอบแทนที่ดีมากเรียกได้ว่า ขึ้นแรง ลงแรง ครับ ส่วนกองทุนอื่น ๆ ท่านผู้อ่านสามารถที่จะดูจากกราฟได้เลยครับ

 

ผ่า 5 กองทุน LTF ภาค 2

ที่มา : Morningstar Direct

 

 

 

5. ใกล้จะจบแล้วครับ ในส่วนของ ค่าสถิติต่าง ๆ ก็สำคัญไม่แพ้กันครับ

เพราะว่าจะเป็นตัวช่วยที่ทำให้เราสามารถท

Dr.Nut

Dr.Nut

GURU aomMONEY ผู้เชี่ยวชาญทางด้านกองทุน การลงทุน และการเงิน

Related Story