สวัสดีครับ วันนี้กลับมาพบกับผม หมอนัท @ คลินิกกองทุน กันอีกครั้งแล้วนะครับ วันนี้ผมจะมารีวิวกองทุนที่น่าสนใจลงทุน ในช่วงที่เศรษฐกิจทั่วโลกผันผวนสุด ๆ อย่างในช่วงนี้กันครับ ผมเชื่อว่ากองทุนนี้ น่าจะช่วยลดความผันผวนได้เยอะทีเดียว
ในช่วงที่ผ่านมาเศรษฐกิจไทยเริ่มชะลอตัวลง แถมด้วยมีการดิ่งลงของราคาหุ้นไทย จากนั้นก็ผันผวน ไม่ไปไหน หลายคนถึงกับต้องหนีออกจากหุ้นไทย แล้วไปลงทุนในต่างประเทศกันมากขึ้น โดยอาจจะผ่านกองทุนรวม หรือ ไปลงทุนกันโดยตรงก็มี แต่ในต่างประเทศเองก็มีความผันผวนเช่นกัน หลังจากจีนได้ประกาศตัวเลขเศรษฐกิจที่ดูแล้วไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แถมตัวเลขการส่งออกจากทางฝั่งญี่ปุ่นที่ออกมาไม่เฟี้ยวอีกต่างหาก
ล่าสุด ธนาคารกลางสหรัฐ ฯ ก็ยังออกมาประกาศว่าจะยังไม่เพิ่มอัตราดอกเบี้ยในช่วงนี้ ด้วยเหตุผลว่าตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐเองก็ดีขึ้น แต่ไม่ถูกใจคณะกรรมการซักเท่าไร่ พร้อมกับผลกระทบจากเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวลงเล็กน้อย
หลังจากที่มีสถานการณ์ทางเศรษฐกิจแบบนี้ ทำให้มีคำถามเข้ามามากมายว่า แล้วเราควรทำอย่างไร ควรขายหุ้นออกมาแล้วถือเงินสดไหม หรือยังมีทางเลือกอื่น?
ใช่แล้ว! เรายังพอมีทางเลือกครับ
เชื่อหรือไม่ครับว่า แม้ตลาดหุ้นทั่วโลกจะย่อตัวลง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าหุ้นทุกตัวในทุกกลุ่มอุตสาหกรรมจะต้องดิ่งลงเหวกันไปหมด หุ้นที่ยังมีโอกาสดี ๆ ยังมีในโลกอยู่นะครับ ลองมาดูกราฟนี้กัน
จากกราฟ เป็นการเปรียบเทียบระหว่าง Global infrastructure equities และ Global equities เราจะเห็นได้ว่าในส่วนที่เป็น Global infrastructure นั้นมีเปอร์เซ็นต์ความผันผวนน้อยกว่า หากใครยังนึกไม่ออก เอาแบบนี้ครับ ลองหลับตาลง แล้วลองนึกภาพตามสิ่งที่ผมกำลังจะเขียนต่อไปนี้นะครับ
……...(แล้วจะอ่านต่อไปยังไงเล่า !!) เอาใหม่ ๆ ลืมตาอ่าน แล้วจิตนาการตามนะครับ
สมมุติมีเราทำงานในออฟฟิศอยู่ที่สีลม ในขณะที่บ้านของเราอยู่แถวอนุสาวรีย์ฯ โดยปกติแล้วเราจะเดินทางมาทำงานด้วยรถไฟฟ้า
เมื่อตอนต้นปีเราจ่ายค่าโดยสารเป็นรายเที่ยวในราคาเที่ยวละ 22 บาท แต่อยู่มาวันหนึ่ง
ทางบริษัท รถไฟฟ้าได้ขอปรับค่าโดยสารเพิ่มจากเที่ยวละ 22 บาทเป็นเที่ยวละ 25 บาท คุณจะทำอย่างไร? จึงจะคุ่มค่าที่สุด
- เลิกใช้รถไฟฟ้าแล้วขึ้นรถเมย์แทน ซึ่งแม้ว่าจะมีค่าใช้จ่ายเพียง 13 บาท แต่เขาอาจต้องใช้เวลาเดินทางถึง 1 ชม แทน
- ยังคงใช้รถไฟฟ้าเหมือนเดิม และยอมจ่ายค่าโดยสารในราคา25 บาท
หมดเวลาครับ
เฉลย : เราก็ซื้อกิจการรถไฟฟ้า และเป็นเจ้าของสิครับ ทั้งนี้ก็เพื่อรับผลตอบแทนจากการลงทุน และค่าโดยสารที่เพิ่มขึ้น !!! 555+ (อย่าเพิ่งปิดจอหนีนะครับ)
กรณีตัวรถไฟฟ้าที่ผมพูดถึงนี้นับว่าเป็นหนึ่งในตัวอย่างของบริการที่มีความจำเป็นสูง ซึ่งสิ่งเหล่านี้เองเป็นคุณสมบัติหนึ่งของสิ่งที่เขาเรียกกันว่า “โครงสร้างพื้นฐาน” ครับ
อยากลงทุนอย่างยั่งยืน ต้องลงทุนกับโครงสร้างพื้นฐาน
แล้วนอกจากรถไฟฟ้าแล้วก็ยังมี กิจการโครงสร้างพื้นฐานอื่น ๆ อีก ดังนั้น มารู้จัก “โครงสร้างพื้นฐาน” กันดีกว่า… โครงสร้างพื้นฐานคืออะไร?
โครงสร้างพื้นฐาน จริงๆแล้วประกอบด้วยสินค้าหรือบริการหลายประเภท ทั้งบริการภาคการขนส่งอย่างสนามบิน ท่าเรือ ทางด่วน รถไฟ ฯลฯ หรือจะเป็นบริการเกี่ยวกับสาธรณูปโภค เช่น น้ำไฟ ท่อส่งก๊าซ รวมถึงสินค้าละบริการอื่นๆที่มีความจำเป็นต่อการขับแคลื่อนเศรษฐกิจด้วยครับ
ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานนั้นมีจะต้องใช้เงินจำนวนมากในตอนเริ่ม แต่หลังจากนั้นจะมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานค่อนข้างต่ำ
ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น ทางด่วน ที่ต้องใช้เงินลงทุนค่าก่อสร้างมหาศาล แต่เมื่อทางด่วนสร้างเสร็จแล้ว รถวิ่งได้แล้ว บริษัททางด่วนกลับแทบจะไม่มีค่าใช้จ่ายที่น้อยมาก แต่กลับมีรายได้ที่ไม่แปรผันตามภาวะเศรษฐกิจ เพราะว่าทุกคนจำเป็นต้องใช้ครับ
และยังสามารถเป็นเครื่องมือในการป้องกันเงินเฟ้อที่ดีได้ด้วยครับ ลองคิดดูนะครับว่าเมื่อ 10 ปีก่อนค่าทางด่วนราคา 30 บาท แต่วันนี้ค่าทางด่วนเท่าไหร่แล้ว จำนวนเราเห็นรถบนทางด่วนน้อยลงบ้างไหมละครับ ^^
เห็นไหมว่า “โครงสร้างพื้นฐาน” แต่ละอย่างนั้นนับว่าเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจกันจริง ๆ ความจำเป็นเหล่านี้ทำให้รายได้ของธุรกิจที่ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเหล่านี้ค่อนข้างแน่นอนและมั่นคง
ด้วยความจำเป็นของ “โครงสร้างพื้นฐาน” นั้น น่าจะทำให้ราคาของหุ้นลงทุนธุรกิจกลุ่มนี้ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก ดังนั้นถ้าเรามีโอกาสได้ลงทุน กับกองทุนโครงสร้างพื้นฐานน่าจะเป็นทางทางเลือกที่จะช่วยกระจายความเสี่ยงได้ดีเลยทีเดียวเลยครับ
คราวนี้เรามาทำความรู้จักกับกองทุนพระเอกของวันนี้กันเลยดีกว่าครับ
สำหรับกองทุนที่น่าสนใจของวันนี้คือ กองทุน SCBGIF
กองทุน SCBGIF จาก บลจ. ไทยพาณิชย์จะเป็นกองทุนที่รวบรวมเงินลงทุนจากเรา (Feeder fund) ไปลงทุนในกองทุนต่างประเทศ (กองทุนหลัก) เพียงกองเดียวเท่านั้นครับ โดยกองทุนที่ SCBGIF เลือกไปลุงทุนคือ กองทุน Deutsche Invest I Global Infrastructure ของ ที่เป็น บลจ. ยักษ์ใหญ่ระดับโลก สัญชาติเยอรมันอย่าง Deutsche Asset & Wealth Management หรือ Deutsche Bank อันโด่งดัง ที่บริหาร AUM กว่า 1ล้านล้าน ยูโร (ข้อมูล ณ วันที่ 30 มิ.ย. 2015)
สไตล์การลงทุน - กองทุนจะเน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทที่ประกอบธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่และขนาดยักษ์ของเอกชนหรือรัฐวิสาหกิจจากทั่วโลก
และจากที่ผมเข้าไปสำรวจพอร์ตของกองทุนนี้มา ค่อนข้างจะเน้นลงทุนในอเมริกาและแคนาดามากกว่าที่อื่นๆ ครับ และเป็นหุ้นที่มีความจำเป็นและสามารถสร้างรายได้ในรูปกระแสเงินสดได้อย่างมั่นคง สม่ำเสมอ เช่น ธุรกิจประเภทท่อส่งก๊าซ ถังเก็บน้ำมัน ธุรกิจไฟฟ้า ธุรกิจ Wireless ฯลฯ รวมถึง REITs ที่ค่อนข้างเฉพาะทาง ทั้งยังมีกา