น้องมั่งคั่ง : พี่มั่นคงคะ ใกล้สิ้นปีแบบนี้ใครๆ ก็พูดถึงแต่เรื่องวางแผนลดหย่อนภาษี น้องเคยซื้อแต่กองทุน ไม่รู้ว่าจะต้องวางแผนยังไงถึงจะได้ประโยชน์มากที่สุด พี่มั่นคงช่วยแนะนำทีนะคะ
พี่มั่นคง : ได้เลยจ้ะ อันที่จริงหลายๆ คนอาจมีการทำเรื่องลดหย่อนภาษีกันบ้างอยู่แล้ว แต่อาจจะไม่ได้มีการวางแผนแบบรอบด้านที่เหมาะสมกับตัวเอง และได้สิทธิประโยชน์สูงสุด ส่วนใครที่ยังไม่เคยเริ่มวางแผน บอกเลยครับว่าไม่ต้องกลัวว่าจะเป็นเรื่องยาก วันนี้พี่มั่นคงมีวิธีวางแผนภาษีแบบมืออาชีพมาฝากกันจ้ะ
เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ หลายๆ คนอาจจะนึกสงสัยว่าการวางแผนภาษีแบบมืออาชีพที่ว่านี้คืออะไร และจำเป็นต้องทำด้วยเหรอ พี่มั่นคงอยากจะแนะนำว่าการวางแผนภาษีนั้นนอกจากจะได้ประโยชน์ในหลายๆ ด้านแล้ว ยังช่วยเราประหยัดเงินได้อีกเยอะ ซึ่งเงินที่ประหยัดได้จากการวางแผนภาษีนี้ เราสามารถนำไปใช้ลงทุนเพิ่ม ออม ทำตามเป้าหมายที่ต้องการ หรือแม้แต่ให้รางวัลกับตัวเองเล็กๆ น้อยๆ ก็สามารถทำได้
เห็นไหมครับว่าการวางแผนภาษีนั้นดีอย่างไร ทีนี้สิ่งต่อมาคือการเริ่มต้นวางแผนอย่าง “ถูกต้อง” ตามที่กฎหมายกำหนดไว้ ซึ่งหลักการวางแผนภาษีนั้น พี่มั่นคงขอสรุปออกมาเป็นแนวทางสั้นๆ 3 ข้อตามนี้ครับ
- คำนวณได้ เริ่มต้นจากการคำนวณภาษีของเราให้ถูกต้อง เพื่อที่จะดูว่าทุกวันนี้เราเสียภาษีในจำนวนเท่าไร และเลือกวิธีที่เหมาะสมและคุ้มค่าในการวางแผนประหยัดภาษี
- ใช้ค่าลดหย่อนครบ อันดับแรก ดูว่าเราสามารถใช้สิทธิ์ลดหย่อนอะไรได้บ้างจากรายการที่มี เช่น ค่าลดหย่อนคู่สมรส ดอกเบี้ยเงินกู้ยืม (บ้าน) ค่าเลี้ยงดูบุตร ค่าเลี้ยงดูคนพิการ อันดับต่อมา คือกองทุนต่างๆ ที่เป็นสวัสดิการ เช่น เงินสมทบกองทุนประกันสังคม เงินสะสมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เงินสะสมกบข.สำหรับผู้ที่เป็นข้าราชการ เป็นต้น จากนั้นจึงจัดหาค่าลดหย่อนที่เป็นการออมเงินและลงทุนระยะยาวไปด้วยในตัว โดยเลือกผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เหมาะสมกับความต้องการของตัวเรา เช่น กองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) รวมถึงประกันชีวิตที่มีความคุ้มครองตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป และประกันชีวิตแบบบำนาญ ที่ให้ทั้งความคุ้มครองชีวิต เป็นเงินออม สามารถนำเบี้ยประกันไปลดหย่อนภาษี ส่วนเงื่อนไขในการลดหย่อนภาษีของผลิตภัณฑ์แต่ละประเภทก็แตกต่างกันไปดังนี้ครับ
- นำเงินภาษีไปลงทุนต่อ เพื่อให้ได้ประโยชน์ต่อยอดให้เงินนั้นงอกเงยต่อไป ไม่ว่าจะเป็นการนำไปลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ หรือนำไปลงทุนในค่าลดหย่อนที่เป็นการออมเพื่อประหยัดภาษีในปีต่อๆ ไป ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจเช่นเดียวกันครับ
สุดท้ายนี้ การวางแผนภาษีอย่างมืออาชีพนั้น ต้องไม่ลืมหลักการพื้นฐานทั้ง 3 ข้อนี้ เห็นไหมครับว่า การวางแผนภาษีไม่ใช่เรื่องยาก แต่ถ้าอยากหาตัวช่วย พี่มั่นคงขอแนะนำอีกหนึ่งทางลัดคือ “ที่ปรึกษาการเงิน” มืออาชีพ หรือเรียกย่อๆ ว่า FA ซึ่งมาจาก Financial Advisor นั่นเอง ที่ปรึกษาการเงินสามารถช่วยวิเคราะห์พื้นฐานของเรา พิจารณาสถานะทางการเงินในปัจจุบัน และช่วยวางแผนการเงินอย่างรอบด้าน รวมไปถึงแผนภาษี ด้วยผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับแต่ละคน ทั้งเสริมสร้างฐานะ และสร้างหลักประกัน เพื่อให้ตรงกับความต้องการและบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ในชีวิตได้อย่างราบลื่นและมั่นคงครับ
น้องมั่งคั่ง : ขอบคุณมากค่ะ พี่มั่นคง พอรู้แบบนี้แล้วน้องขอตัวไปวางแผนภาษีเพิ่มเติมก่อนนะคะ ถ้ามีตรงไหนไม่เข้าใจน้องจะมารบกวนถามพี่ใหม่นะคะ
พี่มั่นคง : ยินดีครับน้องมั่งคั่ง ยังไงอย่าลืมหลักการสามข้อนี้นะครับ (ยิ้ม)
อีกหนึ่งทางเลือกสำหรับการวางแผนการเงิน หรือวางแผนภาษี สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ กรุงเทพประกันชีวิต http://www.bangkoklife.com/th หรือโทร 02-777-8888