น้องมั่งคั่ง : พี่มั่นคงคะ วันก่อนมั่งคั่งเพิ่งอ่านบทความเรื่องวางแผนภาษีไปอีกครั้ง เลยสงสัยว่า ยังมีวิธีอื่นเพิ่มเติมในการวางแผนการเงินเพื่อลดหย่อนภาษีได้อีกรึเปล่า พี่มั่นคงพอจะมีคำแนะนำให้น้องบ้างไหมคะ
พี่มั่นคง : อืมมม.. สำหรับน้องมั่งคั่งที่เรียนรู้การวางแผนภาษีแบบมืออาชีพไปแล้ว คราวนี้ลองมาดูเทคนิคการลดหย่อนภาษีแบบพิเศษกันบ้างนะครับ ซึ่งวิธีนี้พี่มั่นคงเชื่อว่าน่าจะตรงใจใครหลายคนครับ
พี่มั่นคงเชื่อว่า คุณผู้อ่านหลายคนคงจะสามารถคำนวณภาษี และวางแผนใช้ค่าลดหย่อนภาษีอย่างครบถ้วน จนสามารถนำเงินภาษีไปลงทุนต่อให้เกิดประโยชน์ได้แล้วใช่ไหมครับ แต่วันนี้พี่มั่นคงมีอีกวิธีหนึ่งมาแนะนำกัน ซึ่งไม่ได้มีประโยชน์แต่ในเรื่องของการลดหย่อนภาษีเท่านั้น แต่ยังได้ดูแลคนที่เรารักไปพร้อมๆ กันอีกด้วย นั่นคือ การดูแลคุณพ่อคุณแม่ด้วยประกันสุขภาพนั่นเอง หลายๆ คนอาจจะยังไม่ทราบว่าเบี้ยประกันสุขภาพที่เราเป็นคนจ่ายให้กับคุณพ่อคุณแม่นั้น สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้เช่นกัน โดยมีหลักเกณฑ์ดังนี้ครับ
- สำหรับคนที่จ่ายเบี้ยประกันสุขภาพให้กับคุณพ่อคุณแม่ สามารถนำเบี้ยประกันสุขภาพที่จ่ายนั้นไปใช้ลดหย่อนภาษีได้ตามจำนวนที่จ่ายจริง สูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท โดยมีข้อพิจารณาเพิ่มเติมดังนี้
- ถ้าคู่สมรสของเราไม่มีเงินได้ เราสามารถนำค่าเบี้ยประกันสุขภาพที่เราจ่ายให้พ่อแม่ของคู่สมรส มาใช้หักลดหย่อนภาษีได้ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่รวมกันสูงสุดต้องไม่เกิน 15,000 บาท
- ถ้าเรามีการจ่ายเบี้ยประกันร่วมกันกับพี่น้องคนอื่นๆ สามารถนำมาเฉลี่ยกันหักลดหย่อนภาษีได้ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่เมื่อรวมกันแล้วต้องไม่เกิน 15,000 บาท เช่น ถ้าพี่มั่นคงจ่ายเบี้ยประกันสุขภาพคุณพ่อคุณแม่ร่วมกันกับน้องมั่งคั่งเป็นจำนวน 15,000 บาท แบบนี้แต่ละคนจะมีสิทธิหักลดหย่อนเบี้ยประกันสุขภาพบิดามารดาได้คนละ 7,500 บาท
- เงื่อนไขการรับสิทธิ ต้องเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดดังต่อไปนี้
- ผู้ใช้สิทธิต้องเป็นลูกแท้ๆ ตามกฎหมายของพ่อแม่
- คุณพ่อ คุณแม่ต้องมีรายได้ทั้งปีภาษีไม่เกิน 30,000 บาท
- ตัวเราหรือพ่อแม่ต้องอยู่ในประเทศไทยครบ 180 วันในปีภาษีนั้น
โดยคำว่าประกันสุขภาพนั้น ต้องเป็นความคุ้มครองพ่อแม่ซึ่งได้แก่ ประกันภัยคุ้มครองการรักษาพยาบาลการชดเชยทุพพลภาพและสูญเสียอวัยวะเนื่องจากเจ็บป่วยหรือบาดเจ็บ หรือประกันภัยอุบัติเหตุที่คุ้มครองเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล การทุพพลภาพ การสูญเสียอวัยวะ และการแตกหักของกระดูก ประกันภัยโรคร้ายแรง หรือประกันภัยแบบดูแลระยะยาว ซึ่งตัวอย่างของแบบประกันประเภทนี้ ได้แก่ บีแอลเอ ซูเปอร์ ซีเนียร์ (เพื่อผู้สูงอายุ) จากกรุงเทพประกันชีวิต ที่คุ้มครอง 5 กลุ่มโรคร้ายแรง อุบัติเหตุ และชีวิต สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.bangkoklife.com/supersenior
และหลักฐานสำคัญที่ต้องใช้เพื่อลดหย่อนภาษีก็คือ ใบเสร็จหรือหนังสือรับรองการชำระเบี้ยประกันสุขภาพจากบริษัทประกันนั่นเอง ขอเน้นอีกทีว่า ต้องเป็นเบี้ยประกันในส่วนของสัญญาสุขภาพเท่านั้น ไม่รวมถึงเบี้ยประกันของสัญญาชีวิตนะครับ
อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่เราได้จากการทำประกันสุขภาพให้กับคุณพ่อคุณแม่นั่นก็คือ การป้องกันความเสี่ยงและดูแลคนที่เรารัก เพราะยิ่งอายุเพิ่มขึ้น ความเสี่ยงต่อโรคภัยไข้เจ็บและภาวะทางร่างกายต่างๆ ก็มากขึ้นเป็นธรรมดา ดังนั้น การมอบหลักประกันด้านสุขภาพให้กับคุณพ่อคุณแม่ จึงเป็นอีกหนึ่งวิธีในการบอกรัก และตอบแทนท่านด้วยความกตัญญู ดังนั้น พี่มั่นคงจึงอยากจะฝากไว้ให้ทุกคนอย่าลืมพิจารณาถึงความสำคัญในส่วนนี้ไว้ด้วยนะครับ
น้องมั่งคั่ง : ขอบคุณพี่มั่นคงมากนะคะ ที่มาแชร์วิธีดีๆ ให้ เป็นประโยชน์มากเลยค่ะ อีกอย่าง…ปีนี้น้องรู้แล้วล่ะว่าจะมอบของขวัญอะไรให้คุณพ่อคุณแม่ดี
พี่มั่นคง : ดีมากเลยครับ เห็นไหมครับว่าการวางแผนการเงินที่ดีและลดหย่อนภาษีให้เหมาะสมกับตัวเอง ให้ประโยชน์ได้รอบด้านจริงๆ ว่าแต่ ของขวัญคุณพ่อคุณแม่ปีนี้ เรามาออกกันคนละครึ่งดีไหมครับ (ยิ้ม)