สวัสดีครับผม!!! อัศวินกองทุน ยุค Digital กลับมาแล้วครับ
สำหรับสัปดาห์นี้ ตลาดหุ้นที่น่าสนใจ “ซื้อ” คือหุ้นไทย ส่วน “สะสม” ต่อไปคือหุ้นจีน ทำไมถึงเป็นเหตุผลแบบนั้น แล้วตลาดอื่นเป็นยังไงกันบ้าง?
สรุปประเด็นทุกตลาดสำคัญทั้งหมด และติดตามได้ในบทความนี้เลยครับ
Focus ประเทศน่าลงทุนประจำสัปดาห์ที่ 11 - 15 มิถุนายน 2561
สัปดาห์นี้แนะนำให้ทยอยสะสมหุ้นกลุ่มประเทศส่งออกอย่าง ไทย เกาหลี และสะสมจีนเพิ่มเติม
- Focus : เกาหลี ไทย จีน
- ความน่าสนใจ : โอกาสในการส่งออก และเติบโตจากการฟื้นตัว ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และจีนที่ปรับตัวดีขึ้น สะท้อนถึงความต้องการ นำเข้าสินค้า รวมถึงจีนเองยังลงทุนในตลาด New Economy อีกด้วย
Scan การปรับตัวตลาดหุ้นทั่วโลก
- สัปดาห์นี้ ผมยังแนะนำให้ทยอยสะสมหุ้นประเทศที่มีสัดส่วนการส่งออกในระดับสูง เช่น เกาหลีและไทย จากดัชนีชี้นำเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และจีนที่ปรับตัวดีขึ้น ซึ่งเป็นการสะท้อนถึงความต้องการนำเข้าสินค้า เป็นปัจจัยบวกต่อเศรษฐกิจประเทศที่เน้นการส่งออก ส่วนประเทศอื่นๆ สามารถทยอยสะสมได้เช่นกันครับ
- ส่วนทางฝั่งตราสารหนี้ แนะนำตราสารหนี้ระยะสั้น High Yield สหรัฐฯ จากเศรษฐกิจในประเทศที่แข็งแกร่ง บวกกับนโยบายลดภาษี จะทำให้โอกาสในการผิดนัดชำระหนี้ของตราสารหนี้ที่ออกโดยภาคเอกชนลดลงครับ
Insight ตลาดหุ้นสหรัฐฯ
สำหรับฝั่งสหรัฐฯ สัปดาห์นี้สามารถสะสมหุ้นสหรัฐฯได้ต่อเลยครับ เนื่องจากเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง จากการบริโภคในประเทศและการลงทุนเอกชน ที่สำคัญนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจจะส่งผลบวกต่อการขยายตัวเศรษฐกิจต่อเนื่อง เป็นปัจจัยสนับสนุนผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนต่อไปจ้า
สรุปสั้นๆ : สะสมต่อได้เลยครับ
Insight ตลาดหุ้นยุโรป
สัปดาห์ก่อนเบรกกันไป ส่วนในสัปดาห์นี้แนะนำให้ทยอยสะสมหุ้นยุโรปกันได้แล้วครับ เนื่องจากพรรคการเมืองอิตาลีมีท่าทีประนีประนอมต่อกันมากขึ้น ทำให้โอกาสที่จะสามารถตั้งรัฐบาลใหม่มีมากขึ้น และลดความไม่แน่นอนทางการเมืองลง ดังนั้นสถานการณ์โดยรวมเหมือนจะเป็นโอกาสให้เราสะสมต่อได้ครับผม
สรุปสั้นๆ : กลับมาทยอยสะสมได้ครับ
Insight ตลาดหุ้นญี่ปุ่น
สัปดาห์นี้ผมยังแนะนำให้ทยอยสะสมหุ้นญี่ปุ่นต่อไปครับ เนื่องจากมุมมองเดิมตามสัปดาห์ก่อนยังคงอยู่เหมือนกันครับ ทั้งทางธนาคารกลางญี่ปุ่นที่มีแนวโน้มที่จะคงมาตรการ QE ต่อไปเนื่องจากเศรษฐกิจไตรมาสแรกของญี่ปุ่นกลับมาหดตัวลง -0.2% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งเป็นผลดีต่อตลาดหุ้นญี่ปุ่นครับ
คงต้องรอดูกันต่อไปว่าไตรมาสต่อไปจะเป็นอย่างไร แต่สถานการณ์โดยรวมแล้วสามารถไปต่อได้ สะสมต่อไปเรื่อยๆ ได้ครับผม
สรุปตอนนี้ ยังทยอยสะสมต่อไปได้ครับ ลุยครับผม
Insight ตลาดหุ้นอินเดีย
สัปดาห์นี้กลับมาได้แล้วครับ หลังราคาได้มีการปรับฐานจากความกังวลต่อนโยบายการจัดเก็บภาษีจากกำไรการขายหุ้นแล้ว ตอนนี้นักวิเคราะห์ได้มีการปรับประมาณการรายได้ของบริษัทจดทะเบียนเพิ่มขึ้นตามทิศทางเศรษฐกิจที่ขยายตัวได้ดีขึ้น ซึ่งถือเป็นโอกาสในการกลับมาสะสมหุ้นอินเดียได้แล้วครับ
สรุปสั้นๆ : กลับมาสะสมได้แล้วครับผม
Insight ตลาดหุ้นเกาหลี
สัปดาห์นี้แนะนำให้ทยอยสะสมหุ้นเกาหลีกันต่อ จากตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อของเดือนที่ผ่านมาของประเทศคู่ค้าหลัก เช่น สหรัฐฯ และจีนมีสัญญาณปรับตัวดีขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนภาคการส่งออกเกาหลี โดยตลาดหุ้นเกาหลีมักปรับตัวขึ้นในช่วงที่ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องครับ
สรุปสั้นๆ : สะสมต่อไปได้แล้วครับ
Insight ตลาดหุ้นไทย
![สรุปภาพรวมการลงทุน ช่วงวันที่ 11-15 มิถุนายน 2561 [WEEKLY OUTLOOK กับอัศวินกองทุน]](/pic/spacer.gif)
สัปดาห์นี้โอกาสมาถึงหุ้นไทยแล้วครับ เพราะภาพรวม เศรษฐกิจในประเทศที่มีสัญญาณดีขึ้นจากทั้งการบริโภคครัวเรือน และการลงทุนเอกชน จะช่วยให้รายได้บริษัทจดทะเบียนในภาพรวมยังคงขยายตัวได้ดีขึ้นครับ
อย่างที่บอกไว้ครับว่า.. ตอนนี้มาถึงจุดที่ตลาดซึมซับข่าวร้ายไว้ส่วนหนึ่งแล้วครับ ดังนั้นเหมือนเป็นโอกาสที่จะแนะนำให้ซื้อ เพราะปัจจัยอื่นๆ ยังเป็นบวกหมดต่อตลาดหุ้นไทยครับ
สรุปสั้นๆ : ซื้อหุ้นไทยกันได้เลยจ้า
Insight ตลาดหุ้นจีน
ยังสะสมต่อไปได้ครับ ผมมองว่าเศรษฐกิจของจีนมีแนวโน้มที่ปรับตัวดีขึ้น สะท้อนถึงความต้องการในการนำเข้าสินค้า รวมถึงกลุ่มหุ้นจีนที่เน้นลงทุนใน New Economy นั้นน่าสนใจมากครับผม
สรุปสั้นๆ : สะสมกันต่อไปได้เลยครับผม
แนะนำการลงทุนประจำสัปดาห์ จากอัศวินกองทุน
- ตลาดตราสารทุน : สะสมได้ทุกตลาด ทั้งหุ้นสหรัฐฯ ญี่ปุ่น, ยุโรป, ไทย, H-Share, A-Share, หุ้นเกาหลี และอินเดีย
- ตลาดตราสารหนี้ : แนะนำลงทุนตราสารหนี้ High Yield สหรัฐฯ ส่วน ตราสารหนี้ไทย แนะนำให้ซื้อตราสารหนี้ไทยช่วงอายุ 1-3 ปี
- สินทรัพย์ทางเลือก : ทยอยสะสมทั้งทองคำและน้ำมัน
เรามาดูสัดส่วนการลงทุนที่แนะนำประจำสัปดาห์กันบ้างครับ
สัดส่วนการลงทุนประจำสัปดาห์ : ระดับความเสี่ยงต่ำ
พอร์ตการลงทุนระยะยาว (การวางแผนการลงทุนในระยะยาว)
- หุ้นไทย 12%
- ตราสารหนี้ต่างประเทศ 44%
- ตราสารหนี้ไทย 44%
พอร์ตการลงทุนระยะสั้น (การปรับพอร์ตตามสถานการณ์)
- หุ้นไทย 15%
- ตราสารหนี้ต่างประเทศ 40%
- ตราสารหนี้ไทย 45%
สัดส่วนการลงทุนประจำสัปดาห์ : ระดับความเสี่ยงกลาง
พอร์ตการลงทุนระยะยาว (การวางแผนการลงทุนในระยะยาว)
- หุ้นต่างประเทศ 24%
- หุ้นไทย 30%
- ตราสารหนี้ต่างประเทศ 20%
- ตราสารหนี้ไทย 20%
- สินค้าโภคภัณฑ์ 6%
พอร์ตการลงทุนระยะสั้น (การปรับพอร์ตตามสถานการณ์)
- หุ้นต่างประเทศ 24%
- หุ้นไทย 32%
- ตราสารหนี้ต่างประเทศ 16%
- ตราสารหนี้ไทย 22%
- สินค้าโภคภัณฑ์ : ทองคำ 3%
- สินค้าโภคภัณฑ์ : น้ำมัน 3%
สัดส่วนการลงทุนประจำสัปดาห์ : ระดับความเสี่ยงสูง
พอร์ตการลงทุนระยะยาว (การวางแผนการลงทุนในระยะยาว)
- หุ้นต่างประเทศ 40%
- หุ้นไทย 42%
- ตราสารหนี้ต่างประเทศ 5%
- ตราสารหนี้ไทย 5%
- สินค้าโภคภัณฑ์ 8%
พอร์ตการลงทุนระยะสั้น (การปรับพอร์ตตามสถานการณ์)
- หุ้นต่างประเทศ 40%
- หุ้นไทย 44%
- ตราสารหนี้ต่างประเทศ 3%
- ตราสารหนี้ไทย 5%
- สินค้าโภคภัณฑ์ : ทองคำ 4%
- สินค้าโภคภัณฑ์ : น้ำมัน 4%
หมายเหตุ : “ควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน” ข้อมูลจาก Bloomberg ณ วันที่ 7 มิถุนายน 2561
ทั้งนี้ เอกสารนี้จัดทำโดย นางนันท์มนัส เปี่ยมทิพย์มนัส ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ กลุ่มจัดสรรสินทรัพย์และกองทุนต่างประเทศ เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับเผยแพร่ทั่วไป โดยข้อคิดเห็นและบทความในเอกสารฉบับนี้ เป็นการแสดงความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียน ผู้ใช้ข้อมูลนี้จึงต้องใช้ความระมัดระวังด้วยวิจารณญาณของตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นด้วยตนเอง
อ่านบทความ อัศวินกองทุน ย้อนหลัง 1 สัปดาห์ : https://aommoney.com/stories/อัศวินกองทุน/สรุปภาพรวมการลงทุน-ช่วงวันที่-4-8-มิถุนายน-2561-weekly-outlook-กับอัศวินกองทุน/1909