[WEEKLY OUTLOOK กับอัศวินกองทุน]
สรุปภาพรวมการลงทุน ช่วงวันที่ 12-16 มิถุนายน 2560

 

สวัสดีครับ เจอกันอย่างนี้ประจำทุกสัปดาห์กับผม “อัศวินกองทุน” คนเดิมคนนี้ที่จะมาสรุปมุมมองการลงทุนทั่วโลกให้กับทุกคนเหมือนอย่างเช่นเคย ถ้าอยากรู้ว่าในแต่ละสัปดาห์ควรจะลงทุนแบบไหน จัดพอร์ทอย่างไร ขอบอกเลยครับว่า คุณคิดถูกแล้วที่แวะมาอ่านบทความนี้ครับผม
 
สำหรับกลางเดือนมิถุนายนที่ฟ้าฝนดูเหมือนจะไม่เป็นใจ เรามาดูกันครับว่า ภาพรวมของตลาดและการลงทุนในสัปดาห์นี้ ควรจะเป็นอย่างไรบ้าง
 
อัศวินกองทุน

 

ภาพรวมของตลาด

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นครับ ถึงแม้ว่าจะมีการให้การของ ‘นายเจมส์ โคมีย์’ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯ (FBI) เกี่ยวกับการแทรกแซงการเลือกตั้งในสหรัฐฯ ซึ่งอาจจะสั่นคลอนตำแหน่งประธานาธิปดี ทรัมป์ แต่นักลงทุนยังไม่ได้ให้น้ำหนักในเรื่องนี้เท่าไรครับ
 
ทางฝั่งของตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลดลง โดยล่าสุดธนาคารกลางยุโรปมีการปรับประมาณการลดลงของอัตราเงินเฟ้อ และมองว่าอาจจะขยายเวลามาตรการ QE ออกไปอีกหากมีความจำเป็น
 
กลับมาดูที่ตลาดหุ้นไทยของเรากันบ้างครับ ในสัปดาห์นี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นสอดคล้องกับตลาดหุ้นในภูมิภาค โดยเศรษฐกิจมีสัญญาณที่ดีขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป และเริ่มสร้างความมั่นใจให้กับการลงทุน
 
ทางฝั่งสินทรัพย์ทางเลือกอย่างราคาน้ำมัน ปรับตัวลดลงกว่า 5% หลังจากกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ รายงานปริมาณสำรองน้ำมันดิบในประเทศ ออกมาสูงกว่าการคาดกาณ์อย่างมาก ทำให้นักลงทุนเทขายจากความกังวลต่อภาวะอุปทานล้นตลาด ส่วนราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นจากความไม่แน่นอนทางการเมือง เช่น การให้การของนายโคมีย์ต่อวุฒิสภา ในประเด็นรัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งสหรัฐฯ และการเลือกตั้งทั่วไปของอังกฤษ
 
เอาล่ะครับ UPDATE สถานการณ์โดยรวมเป็นแบบนี้ เรามาดูกันต่อที่กลยุทธ์การลงทุนกันต่อเลยดีกว่าครับ
 

 

กลยุทธ์ลงทุนในตลาดตราสารทุน

  • ตลาดหุ้นจีน A-Share ผมแนะนำให้เริ่มต้นขายทำกำไรหลังจากตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นมามากในตอนนี้ เนื่องจากข่าวลือของการเข้าซื้อหุ้นของรัฐบาลเพื่อลดความผันผวนในตลาดหลังจาก Moody’s ปรับลดอันดับ credit rating ของพันธบัตรรัฐบาลจีนครับ ซึ่งควรขายออกมาดูท่าทีกันก่อนครับ
  • ตลาดหุ้นไทย ยังคงแนะนำให้ทยอยสะสมหุ้นไทยต่อไปครับ โดยเน้นที่หุ้นขนาดกลางและขนาดเล็ก ซึ่งเป็นผลจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ดีขึ้น โดยเฉพาะการบริโภคภาคครัวเรือน และการส่งออกครับ ซึ่งผมมองว่าตลาดหุ้นไทยยังไปได้ต่อครับผม
  • ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ผมแนะนำให้ทยอยสะสมหุ้นสหรัฐฯต่อไปครับ เนื่องจากเศรษฐกิจที่ยังคงแข็งแกร่ง ดังที่เห็นได้จากตัวเลขทางเศรษฐกิจล่าสุดที่ออกมาดีกว่าการคาดการณ์ และผลประกอบการบริษัทโดยรวมยังมีแนวโน้มขยายตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องครับ
  • ตลาดหุ้นยุโรป ยังคงแนะนำให้ทยอยซื้อสะสมหุ้นยุโรปจากการคลายความกังวลในทางการเมืองต่อไป โดยล่าสุดธนาคารกลางยุโรปได้มีการปรับประมาณการตัวเลขการขยายตัวเศรษฐกิจหรือ GDP เพิ่มขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับดัชนีชี้นำทางเศรษฐกิจยุโรปที่ชี้ถึงการขยายตัวในภาคอุตสาหกรรมและบริการ ส่งผลให้การบริโภคครัวเรือนและความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อผลประกอบการบริษัทเอกชนต่อไป ยังคงไปต่อครับผมสำหรับยุโรป
  • ตลาดหุ้นญี่ปุ่น คำแนะนำในสัปดาห์นี้ยังทยอยสะสมหุ้นญี่ปุ่นต่อไป หลังจากผลตัวเลขเศรษฐกิจล่าสุดที่ออกมาเป็นที่น่าพอใจ รวมถึงแนวโน้มค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่จะแข็งค่าขึ้น ส่งผลให้ค่าเงินเยนญี่ปุ่นมีโอกาสที่จะอ่อนตัวลง ซึ่งจะเป็นปัจจัยทางบวกต่อตลาดหุ้นญี่ปุ่นครับผม เอ้า สะสมกันต่อไปครับผม

สรุปคำแนะนำการลงทุนในสัปดาห์นี้ : สำหรับประเทศพัฒนาเน้นสะสมตลาดสหรัฐ ยุโรป และญี่ปุ่น ครับ ส่วนตลาดเกิดใหม่เน้นฝั่งเอเชีย โดยเน้นไทยเป็นหลักครับ และถ้าหากใครมีหุ้นจีน A-Share แนะนำให้ขายทำกำไรไปเลยครับ


กลยุทธ์ลงทุนในตลาดตราสารหนี้

  • พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ สำหรับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก เนื่องจากนักลงทุนยังจับตาคำให้การของนายโคมีย์ต่อวุฒิสภา และการเลือกตั้งอังกฤษ ยังคงติดตามดูกันต่อไปครับ แต่คาดว่าน่าจะส่งผลให้ปรับตัวขึ้นเร็ว ๆ นี้ครับผม 

  • พันธบัตรรัฐบาลไทย อัตราพันธบัตรรัฐบาลไทยปรับตัวลงมาใกล้ดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 1.56% ทั้งนี้ จับตาแนวโน้มค่าเงินบาท หากดอลลาร์กลับไปแข็งค่าจากประเด็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดจะส่งผลให้เป็นลบต่อตราสารหนี้ระยะยาวที่มีอายุเกินกว่า 3 ปีขึ้นไปครับ  

สรุปคำแนะนำการลงทุนในสัปดาห์นี้ : ผมแนะนำให้นักลงทุนเน้นกระจายการลงทุนในกองทุนรวมตราสารหนี้ ที่มีนโยบายลงทุนใน เงินฝาก ตราสารหนี้ที่มีคุณภาพ ตราสารหนี้ภาคเอกชน ภาครัฐ สถาบันการเงิน และให้ผลตอบแทนที่ดีแทนครับ

 

กลยุทธ์ลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือก

  • ทองคำ ผมยังคงแนะนำให้ทยอยสะสมทองคำเพื่อป้องกันความเสี่ยงตลาดหุ้นขาลงจากความตึงเครียดและความไม่แน่นอนทางการเมืองที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นครับ ส่วนปัจจัยที่จะกดดันราคาทองคำ เช่น การแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์ค่อนข้างกำจัด เนื่องจากตลาดได้คาดการณ์ความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และเฟดขึ้นดอกเบี้ยไว้ระดับหนึ่งแล้ว
  • น้ำมัน กลับมาแล้วครับ กลับมาทยอยซื้อสะสมน้ำมันได้เลยครับ เพราะตอนนี้ผมมองว่ามีปัจจัยสนับสนุนจากอัตราการใช้กำลังการผลิตโรงกลั่นน้ำมันในสหรัฐฯ และน้ำมันมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามความต้องการๆใช้น้ำมันที่สูงขึ้นในช่วงหน้าร้อน (Driving season) ซึ่งเป็นผลดีหากเริ่มต้

Related Story