[WEEKLY OUTLOOK กับอัศวินกองทุน]
สรุปภาพรวมการลงทุน ช่วงวันที่ 20-24 มิถุนายน 2559
สวัสดีครับพบกับ WEEKLY OUTLOOK กับผม “อัศวินกองทุน” คนเดิมเพิ่มเติมคือข้อมูลใหม่ครับผม วันนี้ผมจะมาสรุปสถานการณ์การลงทุนทั่วโลก รวมถึงแนวโน้มที่น่าสนใจต่างๆ มาให้ท่านผู้อ่านได้อัพเดทกันเช่นเคย
และสำหรับช่วงวันที่ 20-24 มิถุนายน 2559 ผมขอพูดถึงประเด็นสำคัญๆ ของแต่ละประเทศให้ท่านผู้อ่านได้อัพเดทกันครับ ว่าสัปดาห์นี้ตลาดทั่วโลกตอนนี้ มีอะไรน่าสนใจกันบ้างครับ
สรุปภาพรวมประจำสัปดาห์ :
จับตาผลการลงประชามติของสหราชอาณาจักรในการออกจากการเป็นสหภาพยุโรป (Brexit) 23 มิ.ย. 2559 นี้
ตลาดหุ้นสหรัฐ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลงตามราคาน้ำมันและนักลงทุนยังกังวลในการทำประชามติของอังกฤษ (Brexit) และการคงมติดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) แสดงความกังวลต่อเศรษฐกิจ ดังนั้นในสัปดาห์นี้ ผมขอแนะนำให้ปรับลดการลงทุนครับผม!
ตลาดหุ้นยุโรป ตลาดปรับตัวลงจากความกังวลผลประชามติ (Brexit) เนื่องจากผลการสำรวจว่าคนส่วนใหญ่ต้องการจะออก แต่อย่างไรเศรษฐกิจยุโรปมีสัญญาณฟื้นตัวต่อเนื่อง จากมาตรการกระตุ้นของธนาคารกลางยุโรป (ECB) แบบนี้ผมว่า รอดูท่าทีกันไปก่อน คงการลงทุนไว้แบบนี้ดีที่สุดครับ
ตลาดหุ้นจีน ตลาดปรับตัวลงจากประเด็น Brexit และการที่ MSCI ไม่ได้เพิ่มสัดส่วนหุ้นจีนในดัชนี แต่การที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ(FED) ชะลอการขึ้นดอกเบี้ยและมูลค่าพื้นฐานถูก เมื่อเทียบกับตลาดอื่น เป็นปัจจัยบวก ผมยังมองว่าตลาดหุ้นจีนยังคงน่าสนใจและมีโอกาสที่สดใส ดังนั้นขอให้เพิ่มสัดส่วนการลงทุนต่อไปครับผม
ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ปรับตัวลงตามทิศทางค่าเงินเยนที่แข็งค่าขึ้น และนักลงทุนกังวลเรื่อง Brexit และการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางญี่ปุ่นแบบนี้ผมว่าคงการลงทุนไปก่อนดีกว่าครับ
ตลาดหุ้นเกาหลี ปรับตัวลงจากความกังวล Brexit แต่การที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ(FED) ชะลอการขึ้นดอกเบี้ย เป็นปัจจัยบวก ทำให้เม็ดเงินนักลงทุนต่างชาติกลับมาลงทุน ประกอบกับการคาดการณ์กำไรต่อหุ้นมีแนวโน้มดีและมูลค่าพื้นฐานถูก เมื่อเทียบกับตลาดอื่น ผมมองแล้วอยากบอกตรงๆว่า ให้เพื่อนๆเพิ่มการลงทุนกันไปเลยครับ!
ตลาดหุ้นไทย ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงตามทิศทางหุ้นทั่วโลกที่กังวลผล Brexit และนักลงทุนยังคงกังวลต่อปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจ โดยความเชื่อมั่นและการส่งออกที่ลดลง เห็นทีต้องถอยกลับมาโดยการลดน้ำหนักการลงทุนในหุ้นไทยลงจะดีกว่าครับ!
ตลาดหุ้นอินเดีย เคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ จากความกังวลผล Brexit โดยอังกฤษและยุโรปเป็นประเทศคู่ค้าสำคัญของอินเดีย ดังนั้นอยู่นิ่งๆคงการลงทุนแบบนี้ และรอฟังผล Brexit กันไปก่อนดีกว่าครับ
เงินสดและตราสารหนี้ สินทรัพย์เสี่ยงมีความผันผวน เพิ่มการถือครองเงินสดและการลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้น เพื่อรอจังหวะการลงทุนที่เหมาะสมต่อไปเหมือนเช่นเคยครับ
น้ำมัน ราคาน้ำมันปรับตัวลงจากปริมาณสำรองน้ำมันดิบสหรัฐฯที่ปรับตัวลงน้อยกว่าคาด และแท่นขุดเจาะน้ำมันที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับผู้ผลิตน้ำมันในแคนาดาบางรายสามารถกลับมาผลิตได้ ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นกำลังการผลิตที่จะกลับมา แบบนี้ผมมองว่าลดการลงทุนไปดีกว่าครับผม
ทองคำ ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้น ตามทิศทางการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และกังวลผล Brexit นั่นแปลว่าเป็นโอกาสที่จะลงทุนในทองคำเพิ่มขึ้นครับ
ตราสารหนี้ไทย ราคาพันธบัตรรัฐบาลไทยช่วงอายุ 1-3 ปี ปรับตัวลง จากการปรับขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร 3 ปี ควรถือครองสินทรัพย์ปลอดภัย เช่น ตราสารหนี้รัฐบาล ไว้ส่วนหนึ่งเพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยง แนะนำว่าถ้าหากมีอยู่ ให้คงการลงทุนไว้ ดูกันไปก่อนครับ
เป็นยังไงบ้างครับ สำหรับการวิเคราะห์ภาพรวมเศรษฐกิจโลกในสัปดาห์นี้ ผมหวังว่าแนวทางต่างๆ ที่ผมวิเคราะห์ให้ฟังนั้น คงจะสามารถช่วยให้นักลงทุนทุกท่านประกอบการตัดสินใจในการลงทุนสินทรัพย์ประเภทต่างๆตามความต้องการได้อย่างเหมาะสมนะครับ
สุดท้ายนี้อย่าลืมติดตามผลการลงประชามติของสหราชอาณาจักรในการออกจากการเป็นสหภาพยุโรป (Brexit) ในวันที่ 23 มิ.ย.2559 นี้ ให้ดีนะครับ ผมขอให้คำแนะนำสั้นๆก่อนจากกันครับว่า การลงทุนทุกอย่างนั้นมีความเสี่ยง และการวิเคราะห์แนวโน้มต่างๆเหล่านี้ก็เป็นการคาดการณ์ของตัวผมเพื่อให้นักลงทุนทุกคนได้ข้อมูลดีๆในการลงทุนเท่านั้น
หมายเหตุ : *ข้อมูลจาก Bloomberg ณ วันที่ 16 มิถุนายน 2559 ทั้งนี้ เอกสาร นี้จัดทําโดย บลจ.ไทยพาณิชย์ เพื่อเป็นข้อมูลสําหรับเผยแพร่ทั่วไป ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อชักชวน ชี้นํา หรือเสนอซื้อ-ขาย หลักทรัพย์ใดๆ จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความ เห็นหรือคําแนะนําในการตัดสินใจการลงทุนทางการเงิน และทางธุรกิจแต่อย่างใดโดยสิ้นเชิง ผู้ใช้ข้อมูลนี้ต้องใช้ความระมัดระวังด้วยวิจารณญาณของตนเอง และรับผิดชอบในความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น ด้วยตนเอง