[WEEKLY OUTLOOK กับอัศวินกองทุน]
สรุปภาพรวมการลงทุน ช่วงวันที่ 20-24 มีนาคม 2560
สวัสดีครับ กลับมาอีกแล้วครับ กับผม "อัศวินกองทุน" และ Weekly Outook ในตอนที่ 7 ที่มาจะ Update และพูดคุยถึงการจัดพอร์ทลงทุนประจำสัปดาห์อย่างเช่นเคยคร้าบบบ เอาล่ะ ไม่รอช้า เรามาเริ่มกันเลยดีกว่าครับ
ภาพรวมของตลาด
สำหรับสัปดาห์นี้ หลังจากที่ Fed ปรับดอกเบี้ยขึ้นตามที่คาดการณ์ไว้ ก็ส่งผลให้ตลาดหุ้นอเมริกาปรับตัวขึ้นในทิศทางเดียวกัน ส่วนทางฝั่งตลาดหุ้นเกาหลีก็ไม่ยอมน้อยหน้า ปรับตัวขึ้นมาโดดเด่นหลังศาลรัฐธรรมนูญมีมติถอดถอนประธานาธิบดี ทำให้ความไม่แน่นอนทางการเมืองลดลงเช่นเดียวกันครับ
ส่วนตลาดเกิดใหม่ที่น่าสนใจอย่างอินเดีย ก็มาแรงไม่แพ้กันครับ ยังปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังนายกรัฐมนตรี Modi ชนะเลือกตั้งในรัฐ Utla Pradesh
ส่วนสินทรัพย์ทางเลือกอย่างน้ำมัน จะเห็นครับว่าปรับตัวลงแรงจากการกังวลเรื่องอุปทานล้นตลาด อย่างที่ผมเคยเตือนไว้ในหลายสัปดาห์ก่อนหน้านี้
เอาล่ะครับ เมื่อทิศทางภาพรวมที่ผ่านมาเป็นแบบนี้ เรามาดูกันต่อครับว่า กลยุทธ์การลงทุนในสัปดาห์นี้จะเป็นอย่างไรบ้างครับ
กลยุทธ์ลงทุนในตลาดตราสารทุน
- ตลาดหุ้นไทย สัปดาห์นี้ผมแนะนำให้เพิ่มการลงทุนในหุ้นไทยจากการปรับฐานของดัชนี ทำให้อัตราส่วนของ P/E อยู่ในระดับน่าสนใจเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยย้อนหลังครับ ดังนั้นใครที่เคยลดพอร์ทการลงทุน หรือยังไม่มีหุ้นไทยติดพอร์ทไว้ สัปดาห์นี้เริ่มน่าสนใจแล้วนะครับ
- ตลาดหุ้นจีน สำหรับทางจีน ผมแนะนำเพียงตลาดเดียวครับ คือ เพิ่มการลงทุนในตลาดหุ้น H-Share เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานดีขึ้นต่อเนื่อง NPL ในระบบธนาคารก็ดีขึ้นต่อเนื่อง และผมเชื่อว่ามีสัญญานชี้ว่าผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว จัดไปครับผม
- ตลาดหุ้นญี่ปุ่น หลังจากธนาคารกลางสหรัฐฯ ไม่ได้ส่งสัญญาณรีบขึ้นดอกเบี้ย และคาดว่า BOJ ยังไม่ทำนโยบายผ่อนคลายเพิ่มเติมทำให้เงินเยนมีแนวโน้มแข็งค่า ดังนั้นถ้าแบบนี้ควรชะลอการลงทุนได้แล้วนะครับ สำหรับสัปดาห์ก่อนที่ใครลงทุนไปแล้ว สัปดาห์นี้ขอให้จับตาดูก่อน
- ตลาดหุ้นเกาหลี ผมยังแนะนำให้ทยอยเข้าซื้อสะสมหุ้นเกาหลีต่อไปครับ เพราะมีการปรับตัวขึ้นโดดเด่นหลังศาลรัฐธรรมนูญมีมติถอดถอนประธานาธิบดี ซึ่งผลของความไม่แน่นอนทางการเมืองที่ลดลงแบบนี้ ส่งผลดีต่อตลาดหุ้นอย่างแน่นอนครับ
สรุปคำแนะนำการลงทุนในสัปดาห์นี้ : ทยอยเข้าลงทุนในตลาดหุ้นไทย ตลาดหุ้นเกาหลี และตลาดหุ้น H-SHARE โดยแนะนำให้ชะลอการลงทุนในตลาดหุ้นญี่ปุ่นครับผม
กลยุทธ์ลงทุนในตลาดตราสารหนี้
พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวปรับตัวลดลง แต่ผมยังมองว่าตราสารหนี้สหรัฐฯจะยังผ่อนคลายต่อไป โดยความเสี่ยงด้านการเมืองยุโรปที่สูงขึ้น ทำให้ความต้องการลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัยนั้นยังมีอยู่ครับ
พันธบัตรรัฐบาลไทย อัตราผลตอบแทนเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ เนื่องจากได้รับปัจจัยหนุนจากการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทย และอัตราดอกเบี้ยระยะยาวสหรัฐฯ ในขณะที่ค่าเงินบาทกลับมาแข็งค่าครับ
สรุปคำแนะนำการลงทุนในสัปดาห์นี้ : ผมอยากแนะนำให้เริ่มปรับพอร์ทโดยเพิ่มอายุเฉลี่ยของพอร์ทขึ้นเพื่อเพิ่มผลตอบแทนที่สูงขึ้น โดยหันไปลงทุนในตราสารหนี้ระยะยาวเพิ่มขึ้น ครับ
กลยุทธ์ลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือก
- ทองคำ ยังคงแนะนำเหมือนเดิมครับ ทยอยสะสมทองคำต่อไป หลังจาก Fed ไม่ได้ส่งสัญญาณรีบขึ้นดอกเบี้ยทำให้ค่าเงินดอลลาร์ขาดปัจจัยสนับสนุนให้แข็งค่าขึ้น และการลงทุนในทองคำนั้นมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากนโยบายกีดกันการค้าสหรัฐฯ และการเลือกตั้งในยุโรปครับ
- น้ำมัน นักลงทุนมีความกังวลกับปริมาณสำรองน้ำมันสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นมากเกินไป โดยการเพิ่มขึ้นของปริมาณสำรองเนื่องจากเป็นฤดูปิดซ่อมของโรงกลั่นในสหรัฐฯ ทำให้ความต้องการน้ำมันดิบลดลงชั่วคราว แต่ผมมองอีกด้านหนึ่งว่าเป็นโอกาสในการสะสมน้ำมันครับ
สรุปคำแนะนำการลงทุนในสัปดาห์นี้ : มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยครับ ผมแนะนำให้ทยอยซื้อสะสมน้ำมันหลังจากราคาปรับตัวลงมากว่า 10% ใน 1 สัปดาห์ รวมทั้งทยอยสะสมทองคำเหมือนเดิมเพื่อป้องกันความเสี่ยงด้วยเหตุผลที่กล่าวมาข้างต้นครับ
แม้ว่าตลาดเกิดใหม่จะมีโอกาสผันผวนก็ตาม แต่การที่ทาง Fed ปรับขึ้นดอกเบี้ยแบบนี้ ถือว่ายังมีโอกาสในตลาดเกิดใหม่อยู่ครับ ดังนั้นค่อยๆปรับพอร์ทการลงทุนในตลาดเกิดใหม่น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีในสัปดาห์นี้ครับ
ถ้าหากท่านผู้อ่านติดตามมาตั้งแต่แรกๆ คงจะทราบดีว่า ผมอัศวินกองทุนจะแนะนำสถานการณ์และการเปลี่ยนแปลงรายสัปดาห์ให้เห็นกัน เพื่อให้ทุกๆคนสามารถปรับพอร์ทได้อย่างที่เหมาะสมครับ ซึ่งในตอนนี้ผมอยากจะเน้นอีกอย่างว่า อย่าลืมกระจายความเสี่ยงอย่างเหมาะสม และอย่านำคำแนะนำอย่างใดอย่างหนึ่งไปทุ่มเทกับพอร์ท 100% นะครับ แต่ขอให้นำข้อมูลทั้งหมดไปพิจารณาในการปรับพอร์ทการลงทุนของตัวเองให้เหมาะสมจะดีกว่าครับ
เอาล่ะครับ มาถึงตรงนี้คงต้องลากันไปเสียที แล้วพบกันใหม่ในสัปดาห์หน้า ขอให้ทุกคนมีความสุขในการลงทุนนะคร้าบบบบ
หมายเหตุ : *ข้อมูลจาก Bloomberg ณ วันที่ 15 มี.ค. 2560 ทั้งนี้ เอกสารนี้จัดทำเพื่อเป็นข้อมูลสำหรับเผยแพร่ทั่วไป ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อชักชวน ชี้นำ หรือ เสนอซื้อ-ขาย หลักทรัพย์ใดๆ จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็นหรือคำแนะนำในการตัดสินใจการลงทุนทางการเงิน และทางธุรกิจแต่อย่างใดโดยสิ้นเชิง ผู้ใช้ข้อมูลนี้ต้องใช้ความระมัดระวังด้วยวิจารณญาณของตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจเ