[WEEKLY OUTLOOK กับอัศวินกองทุน]
สรุปภาพรวมการลงทุน ช่วงวันที่ 24-28 เมษายน 2560

 

สวัสดีครับบบบบ หลังจากที่วันหยุดยาวผ่านไปเป็นที่เรียบร้อย ถึงเวลาของผม “อัศวินกองทุน” และคอลัมน์ Weekly Outlook ในตอนที่ 11 ที่จะกลับให้ความรู้กันอีกครั้งตามคำเรียกร้องแล้วครับ

สำหรับสัปดาห์นี้ มาเริ่มกันที่ภาพรวมของตลาดกันก่อนครับว่า แนวโน้มจะเป็นอย่างไรบ้าง

 

อัศวินกองทุนคลิกเพื่อดูภาพใหญ่

 

ภาพรวมของตลาด

เริ่มที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังจากที่ ‘นายสตีเวน มนูชิน’ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์ว่าจะมีการเปิดเผยนโยบายทางด้านภาษีในไม่ช้านี้ เอาล่ะครับ ดูท่าว่าจะเป็นข่าวดีหรือเปล่า ส่วนทางฝั่งของตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลดลง จากความกังวลของผลการเลือกตั้งรอบแรกออกมาตามโพลล์โดย 'นายมาครอน' และ 'นางเลอแปง' ชนะ และจะแข่งขันกันรอบสองในวันที่ 7 พ.ค. 2560 นี้ ซึ่งอาจจะทำให้นักลงทุนกลับมากังวลหากนางเลอแปง ชนะการเลือกตั้งอันนี้ก็ต้องจับตาดูให้ดีครับ

มาดูทางฝั่งของเอเชียกันบ้างครับ ตลาดหุ้นจีน H-Share ปรับตัวลดลงจากความกังวลเรื่องมาตรการการควบคุมการปล่อยสินเชื่อในภาคการลงทุน ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อรายได้ของบริษัทในอุตสาหกรรมการเงิน ส่วนทางตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลง หลังจากการประกาศผลประกอบการของบริษัทในกลุ่มธนาคารที่แย่กว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ เนื่องจากตัวเลข NPL ยังคงอยู่ในระดับที่สูงอยู่

สถานการณ์ตลาดหุ้นรวมๆแล้วเริ่มจะต้องระวังกันมากขึ้นแล้วครับ! มาดูสินทรัพย์ทางเลือกกันบ้าง เริ่มต้นจากราคาน้ำมันปรับตัวลดลงจากความกังวลของนักลงทุนต่ออุปทานของน้ำมันที่สูงกว่าตลาดคาดการณ์  แต่ในขณะที่ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังจากที่มีความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี สงครามในซีเรีย และความไม่แน่นอนทางการเมืองในยุโรปที่เกิดขึ้น

เอาล่ะครับ เมื่อภาพรวมมันเป็นเสียแบบนี้ ก็เป็นหน้าที่ของผม อัศวินกองทุน อีกเช่นเคยครับ เรามาดูกลยุทธ์ประจำสัปดาห์ที่ผมจะแนะนำกันดีกว่าครับ

 

กลยุทธ์ลงทุนในตลาดตราสารทุน

  • ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ผมมองว่าตอนนี้ไม่ค่อยจะดีสักเท่าไร อยากแนะนำให้ชะลอการเข้าลงทุนหุ้นสหรัฐฯ เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจที่เริ่มออกมาต่ำกว่าตลาดคาดการณ์ และความไม่แน่นอนของการผลักดันนโยบายทางเศรษฐกิจของ ‘โดนัล ทรัมป์’ ที่ผ่านๆมา อาจจะทำให้เราต้องถอยมาตั้งหลักกันก่อนครับ
  • ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ในขณะที่ภาพรวมกลุ่มเอเชียจะดูเหมือนไม่ค่อยจะดีนัก แต่สำหรับญีปุ่นแล้ว ผมแนะนำให้ทยอยสะสมหุ้นญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นครับ เนื่องจากนายคุโรดะผู้ว่าการ BOJ ได้ออกมาพูดว่ามาตรการผ่อนคลายทางการเงินยังคงดำเนินต่อไป เพื่อให้บรรลุเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อที่ 2% ทำให้ค่าเงินเยนของญี่ปุ่นมีโอกาสกลับมาอ่อนค่าขึ้น ซึ่งเป็นผลดีต่อการลงทุนครับผม
  • ตลาดหุ้นไทย เช่นเดียวกันครับ ถึงแม้ว่าในสัปดาห์ที่ผ่านมาจะดูเหมือนว่าปรับตัวลดลง แต่ผมมองว่าเป็นโอกาสทยอยสะสมตลาดหุ้นไทย เนื่องจากตลาดหุ้นยังคงมีปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัว เช่น ตัวเลขการส่งออกที่ดีกว่าตลาดคาดการณ์ และการเข้าซื้อสะสมของนักลงทุนต่างชาติตั้งแต่ต้นปียังอยู่ในระดับต่ำอยู่ ดังนั้นวางแผนลงทุนดีๆ ดูกันยาวๆครับผม
  • ตลาดหุ้นอินเดียและเกาหลี ตอนนี้จังหวะไม่ค่อยดีเท่าไร ผมแนะนำให้ชะลอการเข้าลงทุนในตลาดหุ้นอินเดีย เนื่องจากตลาดมีระดับราคาที่สูงมากเมื่อเทียบกับมูลค่าพื้นฐาน ส่วนตลาดหุ้นเกาหลียังคงมีความกังวลเรื่องของโอกาสที่จะเกิดความตึงเครียดเพิ่มขึ้นกับเกาหลีเหนือ และยังมีความเสี่ยงในด้านการเมืองในประเทศ ที่จะมีการเลือกตั้งในเดือนพฤษภาคมอีกด้วยครับ

สรุปคำแนะนำการลงทุนในสัปดาห์นี้ : ผมแนะนำให้ทยอยสะสมตลาดหุ้นไทย กับญี่ปุ่นเป็นหลักก็พอครับ ส่วนใครที่ชอบตลาดหุ้นประเทศพัฒนาแล้ว ขอให้ดูสถานการณ์ไปก่อนครับ


กลยุทธ์ลงทุนในตลาดตราสารหนี้

  • พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ตอนนี้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับตัวลงจากความกังวลต่อนักลงทุนต่อความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างสหรัฐฯ และซีเรีย การก่อการร้ายในรัสเซีย และท่าทีแข็งกร้าวของสหรัฐฯ ต่อการทดสอบขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ

  • พันธบัตรรัฐบาลไทย เช่นเดียวกันครับ อัตราผลตอบแทนปรับตัวลดลงตามความผ่อนคลายของอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ

สรุปคำแนะนำการลงทุนในสัปดาห์นี้ : แนะนำให้คงอายุการลงทุนของพอร์ตการลงทุนไว้ก่อนครับ หรือลองมองหากองทุนรวมตราสารหนี้ที่มีนโยบายลงทุนใน เงินฝาก ตราสารหนี้ที่มีคุณภาพ ตราสารหนี้ภาคเอกชน ภาครัฐ สถาบันการเงิน เป็นหลักครับ



กลยุทธ์ลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือก

  • ทองคำ ผมยังคงแนะนำให้ทยอยสะสมทองคำเพื่อป้องกันความเสี่ยงตลาดหุ้นขาลงจากความตึงเครียดทางการเมืองและการก่อการร้ายทั่วโลกที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆครับ
  • น้ำมัน มองว่ายังเป็นโอกาสทยอยซื้อสะสมน้ำมันอยู่นะครับ จากแนวโน้มเศรษฐกิจโลกเร่งตัว ทำให้ความต้องการน้ำมันมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ขณะที่ประเทศผู้ผลิตน้ำมันหลายประเทศสนับสนุนให้ยืดระยะเวลาในการลดกำลังการผลิต

สรุปคำแนะนำการลงทุนในสัปดาห์นี้ : สะสมกันทั้งคู่ต่อไปอีกสักนิด ชีวิตจะได้ปลอดภัยครับผม

 

สำหรับภาพรวมโดยสรุปของสัปดาห์นี้ จะเน้นหนักไปที่ตลาดหุ้นไทย ญี่ปุ่น เป็นหลักครับ (เอาจริงๆ ยุโรปก็น่าจะพอไหวนะครับ) ส่วนตลาดอื่นๆแนะนำให้ชะลอการลงทุนดูท่าทีกันไปก่อนครับ ส่วนพันธบัตรรัฐบาลก็ยังคงอายุต่อไปเหมือนเช่นเคยครับผม และสุดท้ายที่มาแรงคือน้ำมันและทองคำครั

Related Story