สวัสดีครับ กลับมาเจอกันอีกแล้วกับอัศวินกองทุน ที่นี่ ที่เดิม ที่จะทำให้คุณทราบถึงกลยุทธ์ในการลงทุนประจำสัปดาห์ เพื่อความมั่งคั่งในระยะยาวกันครับผม สำหรับสัปดาห์นี้จะเป็นยังไง ควรปรับพอร์ตแบบไหน และทิศทางการลงทุนจะเป็นอย่างไร ถ้าพร้อมแล้ว เรามาเริ่มกันเลยครับ
ภาพรวมของตลาด
ตลาดหุ้นในช่วงที่ผ่านมามีความผันผวนจากความกังวลการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) และทรัป์ที่เริ่มส่งสัญญาณนโยบายกดดันการค้า ซึ่งเป็นประเด็นที่ยังต้องจับตาอย่างใกล้ชิด แต่ทั้งนี้ตลาดหุ้นโดยรวมยังคงมีความน่าสนใจ อย่างไรก็ตาม ยังไม่แนะนำให้นักลงทุนเพิ่มการลงทุนในตราสารหนี้ระยะยาว เนื่องจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องและนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่อาจนำไปสู่การเร่งตัวของอัตราเงินเฟ้อที่เป็นปัจจัยลบต่อตราสารหนี้ระยะยาว
กลยุทธ์ลงทุนในตลาดตราสารทุน
ตลาดหุ้นไทย แม้ว่าจะปรับตัวเป็นระยะ มีความผันผวนเรื่อยๆ ให้หลายคนใจสั่น แต่มุมมองนั้นยังดีอยู่ครับ คำแนะนำ คือ หาจังหวะซื้อจากเศรษฐกิจที่มีสัญญาณดีขึ้นในหลายภาคส่วน โดยเฉพาะการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนที่ส่งสัญญาณฟื้นตัว ในขณะที่การใช้จ่ายภาครัฐที่คาดว่าเม็ดเงินในปี 61 จะสูงขึ้น รวมทั้งโครงการ EEC จะช่วยกระตุ้นความเชื่อมั่นในภาคธุรกิจและการลงทุนต่อไปครับ
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ คำแนะนำในสัปดาห์นี้ยังคงเป็น หาจังหวะซื้อหุ้นสหรัฐฯ เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจยังออกมาสูงกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่ออกมาอย่างต่อเนื่อง จะเป็นอีกปัจจัยซึ่งช่วยให้ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนดีขึ้นมาเรื่อยๆ มุมมองของผมยังถือว่าเป็นโอกาสอยู่ครับ
ตลาดหุ้นญี่ปุ่น หาจังหวะซื้อหุ้นญี่ปุ่น เนื่องจากตลาดปรับตัวลงจากค่าเงินเยนแข็งค่าจากความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ valuation ของตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับลงมาในระดับที่น่าสนใจ ขณะที่นโยบายการเงินของ BOJ ยังมีทิศทางผ่อนคลายต่อไป หลังจากนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นสนับสนุนให้นาย Haruhiko Kuroda ดำรงตำแหน่งเป็นประธาน BOJ อีกสมัยหนึ่ง ถ้าใครสนใจหุ้นญี่ปุ่น ตอนนี้ก็เป็นอีกโอกาสหนึ่งจะจับจังหวะในการลงทุนครับ
ตลาดหุ้นเอเชีย เนื่องจากตลาดหุ้นเกิดใหม่ได้รับประโยชน์จากแนวโน้มเศรษฐกิจโลกและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวดีขึ้น ช่วยสนับสนุนผลประกอบการบริษัท ขณะที่ทิศทางค่าเงินดอลลาร์ที่ยังคงอ่อนค่าจะช่วยสนับสนุน fund flow ให้เข้าลงทุนในตลาดหุ้นเกิดใหม่ โดยเฉพาะที่เอเชีย ดังนั้นหาจังหวะซื้อในตอนนี้ถือว่าดีครับ เพราะยังไปต่อได้ครับผม
ตลาดหุ้นจีน หาจังหวะซื้อหุ้นจีนทั้ง A-Share และ H-Share จากเศรษฐกิจที่ยังขยายตัวดีต่อเนื่อง แม้ว่าในระยะสั้นตลาดหุ้นจีนจะโดนกดดันจากนโยบายกีดกันทางการค้าจากสหรัฐฯ เช่น เหล็ก โดยมูลค่าการส่งออกเหล็กไปยังประเทศสหรัฐฯ ก็ตาม แต่ยังถือว่าเป็นสัดส่วนน้อยเมื่อเทียบกับปริมาณการส่งออกทั้งหมดของประเทศอยู่ ดังนั้นมุมมองถือว่ายังไปต่อได้ครับ
หุ้นโกลบอลเทคโนโลยี ยังคงเหมือนเดิมเหมือนก่อน เนื่องจากหุ้นในกลุ่มนี้จะได้ประโยชน์มากที่สุดจากการปฏิรูปนโยบายภาษีสหรัฐฯ นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีเป็นอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มขยายตัวสูง จากแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงรสนิยมของผู้บริโภคที่ใช้อินเตอร์เน็ตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านๆ มา ตรงนี้แนะนำให้สะสมไปเรื่อยๆ เพื่อสร้างโอกาสในระยะยาวครับ
จะเห็นว่าโดยรวมแล้วตลาดหุ้นทั้งหมดที่ว่า ค่อนข้างน่าสนใจในการลงทุนช่วงนี้ครับ ดังนั้นสิ่งที่ต้องมีและแนะนำคือ หาจังหวะซื้อสะสมไปเรื่อยๆ ครับผม
กลยุทธ์ลงทุนในตลาดตราสารหนี้
ตราสารหนี้ต่างประเทศ คำแนะนำยังไม่เปลี่ยนแปลงไปครับ ผมยังอยากให้เน้นลงทุนตราสารหนี้บริษัทเอกชนประเภท High Yield สหรัฐฯ จากเศรษฐกิจที่ขยายตัวดีต่อเนื่อง สนับสนุนผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน โดยเน้นให้ลงทุนในตราสารระยะสั้น เพื่อลดผลกระทบจากภาวะดอกเบี้ยขาขึ้นจากนโยบายการเงินตึงตัวในหลายประเทศตอนนี้ครับ
ตราสารหนี้ไทย เช่นเดียวกันครับ คำแนะนำเดิมที่ยังได้ผลคือเน้นลงทุนในหุ้นกู้เอกชน เพื่อเพิ่มผลตอบแทน เนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยมีอัตราผลตอบแทนค่อนข้างต่ำ นอกจากนี้ เงินเฟ้อไทยยังคงต่ำกว่ากรอบของธนาคารแห่งประเทศไทย ทำให้ธนาคารแห่งประเทศไทยไม่จำเป็นต้องรีบขึ้นดอกเบี้ยในตอนนี้ ดังนั้นหุ้นกู้เอกชนทั้งหลายถือว่าน่าสนใจครับ
ส่วนของตราสารหนี้นั้นเป็นแบบนี้มาสักพักแล้วครับ และผมคาดการณ์ว่าจะเป็นไปอีกสักพักใหญ่ๆ ดังนั้น ถ้าใครสะดวกใจอาจจะเลือกลงทุนผ่านกองทุนรวมที่มีการลงทุนในตราสารหนี้เหล่านี้ก็ได้ครับ เพื่อความสะดวกและประหยัดเวลาในการติดตามข่าวสารครับผม
กลยุทธ์ลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือก
ทองคำ คำแนะนำในตอนนี้คือ ทยอยสะสมทองคำเพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยงในการลงทุนครับ เนื่องจากทองคำยังเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยที่มักปรับตัวขึ้นในช่วงที่ตลาดหุ้นมีความผันผวนอย่างตอนนี้ ดังนั้นอย่าลืมแบ่งพอร์ตมาสะสมในทองคำบ้างนะครับ
น้ำมัน หลังจากราคาน้ำมันปรับตัวลงมามากกว่า 10% จากตัวเลขปริมาณสำรองน้ำมันดิบในสหรัฐฯ ออกมาสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดแล้ว และตัวเลขการผลิตน้ำมันจากสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น อย่างไรก็ตามความต้องการน้ำมันดิบที่เพิ่มสูงขึ้น และการลดกำลังการผลิตของกลุ่ม OPEC จะเป็นปัจจัยหนุนต่อราคาน้ำมันได้ ตอนนี้จึงเป็นโอกาสที่จะเข้าทยอยสะสมน้ำมันครับ
ภาพรวมโดยสรุปของสัปดาห์นี้
สำหรับกลยุทธ์ในสัปดาห์นี้ จะมีเพิ่มเติมส่วนของหุ้นเทคโนโลยี กับตลาดเกิดใหม่เอเชียครับ มากันให้ครบทุกตลาดและภูมิภาคกันเลยทีเดียว ยังไงก็อย่าลืมกระจายความเสี่ยงให้ดีและสะสมตามความเข้าใจในการลงทุนของแต่ละคนด้วยนะครับ
ผมมักจะเน้นเรื่องการจัดพอร์ตลงทุนทุกครั้งที่เขียนบทความทุกสัปดาห์แบบนี้ แต่สิ่งหนึ่งที่ผมอยากจะเพิ่มให้เป็นข้อคิดก็คือ...
ถ้ามีการลงทุน สิ่งที่คุณต้องมีคือกำไร ดังนั้นขอให้ทุกคนจัดการพอร์ตให้มีกำไรกันทุกคนนะครับผม
แล้วพบกันใหม่ในสัปดาห์หน้าครับ!