สวัสดีครับผม!!! อัศวินกองทุนยุค Digital กลับมาแล้วครับ
สำหรับสัปดาห์ที่ผ่านมาความผันผวนจากนโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ กับจีนยังคงส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นทั่วโลกกันอีกแล้ว
แหม่.. ทำไมไม่คุยกันให้จบๆ ไปทีเดียว ส่วนไทยเองก็ลงหนักไม่ใช่เล่น เล่นเอาใครหลายคนกุมขมับ
ไม่ต้องตกใจไป มาลองดูกลยุทธ์การลงทุนในสัปดาห์นี้กันดีกว่าครับ
Focus ประเทศน่าลงทุนประจำสัปดาห์ที่ 9-13 เมษายน 2018![สรุปภาพรวมการลงทุน ช่วงวันที่ 9-13 เมษายน 2561 [WEEKLY OUTLOOK กับอัศวินกองทุน]](/pic/spacer.gif)
- Focus : ตลาดหุ้นไทย
- ความน่าสนใจ : ราคาที่ลงมาเหมาะกับการเริ่มสะสม และมีปัจจัยที่กระทบจำกัด
สัปดาห์นี้ยังเป็นอีกหนึ่งสัปดาห์ที่สามารถทยอยสะสมหุ้นได้หลายตลาดครับ (ยกเว้นจีน A-SHARE และเกาหลี) แต่สัปดาห์นี้ผม "อัศวินกองทุน" มองว่าตลาดหุ้นไทยน่าสนใจครับ
สาเหตุเพราะการปรับตัวลดลงนั้นมาจากกลุ่มธนาคารพาณิชย์เป็นหลัก ซึ่งมองแล้วว่าจริงๆ ภาพรวมนั้นยังจำกัดอยู่ครับ นอกจากนั้นแนวโน้มเศรษฐกิจไทยยังไปต่อได้อยู่ครับ
Scan การปรับตัวตลาดหุ้นทั่วโลก
ตลาดหุ้นตอนนี้ยังคงได้รับความผันผวนจากนโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ หลังจากทรัมป์ได้ประกาศเรียกเก็บภาษีจากจีนเพิ่มขึ้น เพื่อลดการขาดดุลทางการค้า ทำให้จีนมีการตอบโต้โดยจะขึ้นภาษีสิ้นค้าที่นำเข้าจากสหรัฐฯ งานนี้น่าจะซัดกันไปอีกระยะหนึ่งเลยล่ะครับ
อีกด้านหนึ่งผลการประชุมของ FED มีการปรับขึ้นดอกเบี้ยตามที่ตลาดคาดไว้ และมีมุมมองที่ดีขึ้นกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งก็ยังเป็นเหมือนสัปดาห์ที่แล้วที่ผมมองไว้
ตอนนี้แนะนำให้ระมัดระวังลงทุนในตลาดที่มีสัดส่วนของรายได้จากการค้าโลกในระดับสูง ซึ่งอาจโดนแรงเทขายเพื่อลดความเสี่ยงของนักลงทุนครับ
ส่วนงานนี้ตราสารหนี้อาจจะกลายเป็นพระเอกที่ได้รับความน่าสนใจมากขึ้นครับ เพราะตลาดได้ซึมซับข่าว FED ขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ไว้มากแล้ว และความไม่แน่นอนจากนโยบายการค้าสหรัฐฯ นี่แหละยังจะทำให้กลับมาน่าสนใจอยู่
Insight ตลาดหุ้นสหรัฐฯ
ถ้ามองในระยะยาว สัปดาห์นี้ ยังสามารถทยอยสะสมหุ้นสหรัฐฯ ต่อไปครับ ตอนนี้ปัจจัยหลักๆ ที่ส่งผลกระทบ มาจากความกังวลต่อผลกระทบของมาตรการการกีดกันทางการค้าเป็นหลัก แต่ภาพรวมแล้วยังสามารถสะสมได้จากสภาวะเศรษฐกิจครับ
สรุปสั้นๆ : สะสมกันต่อไปครับผม
Insight ตลาดหุ้นยุโรป![สรุปภาพรวมการลงทุน ช่วงวันที่ 9-13 เมษายน 2561 [WEEKLY OUTLOOK กับอัศวินกองทุน]](/pic/spacer.gif)
สัปดาห์นี้ยังเหมือนเดิมครับ ผมแนะนำให้เริ่มทยอยสะสมหุ้นยุโรปได้แล้วครับ หลังจากที่ตอนนี้ราคาได้ลงมามากแล้ว ในขณะที่สหรัฐฯ ได้ยกเว้นการขึ้นภาษีเหล็กและอลูมิเนียมสำหรับทวีปยุโรป ทำให้ยุโรปไม่โดนผลกระทบจากการขึ้นภาษีในครั้งนี้ โดยยังแนะนำให้ลงทุนในหุ้นเล็กยุโรป small cap ซึ่งมักจะให้ผลตอบแทนสูงกว่าหุ้นใหญ่ในช่วงค่าเงินยูโรแข็งค่าแบบนี้ครับ และตอนนี้คือช่วงที่ปรับตัวลงจนราคาน่าสนใจครับ
สรุปสั้นๆ : ทยอยสะสมต่อไปครับ
Insight ตลาดหุ้นญี่ปุ่น
สำหรับสัปดาห์นี้สถานการณ์ของตลาดหุ้นญี่ปุ่นยังคงลงอย่างต่อเนื่องครับ แต่มองในระยะยาวดูเหมือนว่าตอนนี้เป็นโอกาสที่ดีที่จะไปต่อได้ครับ ยังคงแนะนำให้สะสมต่อไปครับ
ดังนั้น ทยอยสะสมตามภาพได้เลยครับผม
Insight ตลาดหุ้นอินเดีย
สำหรับสัปดาห์นี้ ยังแนะนำให้ทยอยสะสมหุ้นอินเดียต่อไปเหมือนสัปดาห์ก่อนครับ เนื่องจากภาพรวมของตลาดหุ้นอินเดียที่ผ่านมามีความผันผวนอยู่เหมือนกับตลาดในเอเชียกลุ่มอื่นๆ ซึ่งผลกระทบจากสหรัฐฯและจีนเป็นเรื่องชั่วคราวครับ ระยะยาวนั้นไปต่อได้อยู่ครับ
สรุปสั้นๆ : สะสมเพิ่มต่อไปครับผม
Insight ตลาดหุ้นเกาหลี
สัปดาห์ที่แล้ว ผมแนะนำให้สะสมหุ้นเกาหลีเพิ่มขึ้นจากความสำเร็จในการเจรจาทางการค้ากับสหรัฐฯ ทำให้เกาหลีได้รับการยกเว้นจากกำแพงภาษีการนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมใช่ไหมครับ แต่สัปดาห์นี้ต้องบอกเลยว่าขอให้กลับไปชะลอก่อนดีกว่าครับ เพราะมีปัจจัยเข้ามาแทรกคือตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อของเดือนที่ผ่านมาของประเทศคู่ค้าหลัก เช่น สหรัฐฯ ญี่ปุ่น และยุโรป ออกมาชะลอตัวลง และเกาหลีเป็นประเทศที่มีการส่งออกสูงครับ อาจจะได้รับผลกระทบจากศึกสงครามของสหรัฐฯ และจีนมากเป็นพิเศษครับ
สรุปสั้นๆ : ชะลอก่อนนะครับ
Insight ตลาดหุ้นไทย
แม้ว่าสัปดาห์ก่อนหน้าจะปรับตัวลงแบบเล่นเอาหลายคนใจหาย และสัปดาห์ที่ผ่านมาจะปรับตัวจนเกือบลืมหายใจ แต่ผมยังแนะนำให้ทยอยสะสมหุ้นไทยต่อไปครับ
โดยสาเหตุของสัปดาห์นี้ที่ปรับตัวลงนั้น เป็นเพราะตลาดปรับตัวลงจากความกังวลต่อหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ แต่ผมมองว่าการปรับลดค่าธรรมเนียมจะมีผลกระทบต่อรายได้ของกลุ่มธนาคารค่อนข้างจำกัดอยู่ครับ
เชื่อเถอะครับว่าในภาพรวมนั้นเศรษฐกิจไทยยังมีแนวโน้มขยายตัวดีขึ้นจะช่วยสนับสนุนผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนอื่นๆ
สรุปสั้นๆ : จะลงแค่ไหนเราไม่หวั่นทยอยสะสมต่อไปครับผม!!
Insight ตลาดหุ้นจีน
คำแนะนำผมในสัปดาห์นี้คือให้ชะลอการลงทุนหุ้นจีน A-Share
เนื่องจากสงครามการค้าที่เริ่มรุนแรงขึ้นกับสหรัฐฯ โดยหลังจากสหรัฐฯ ขึ้นกำแพงภาษีนำเข้าสินค้าหลายชนิดจากจีน จีนก็ได้มการตอบโต้โดยการขึ้นกำแพงภาษีสินค้าเกษตรจากสหรัฐฯ เช่นกัน ทำให้ตลาดหุ้นจีนยังมีความเสี่ยงสูงอยู่ครับ รอดูท่าทีน่าจะดีกว่าในตอนนี้ครับ
สรุปสั้นๆ : หุ้นจีน H-Share ยังไปได้ต่อ แต่ตอนนี้ขอให้พักหุ้น A-Share ก่อนนะครับ
คำแนะนำเพิ่มเติม : หุ้นตลาดเกิดใหม่ และหุ้นโกลบอล Global Population Trend
สัปดาห์นี้แนะนำทั้งหุ้นเกิดใหม่และ หุ้นโกลบอล Global Population Trend เนื่องจากหุ้นทั้งสองกลุ่มนี้จะได้ประโยชน์จากแนวโน้มเศรษฐกิจโลก และราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวดีขึ้น พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างประชากรโลก ทั้งการเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากรที่มากขึ้นในอนาคตนี้ครับ
สรุปสั้นๆ : สะสมไว้ เป็นอีกกลุ่มที่น่าสนใจ!!
แนะนำการลงทุนประจำสัปดาห์ จากอัศวินกองทุน
- ตลาดตราสารทุน : แนะนำให้ทยอยสะสมทุกตลาดยกเว้นจีน A-Share และเกาหลี
- ตลาดตราสารหนี้ : แนะนำคงการลงทุนตราสารหนี้ high yield และ หุ้นกู้เอกชนสำหรับตราสารหนี้สหรัฐฯ ส่วนตราสารหนี้ไทย เน้นหุ้นกู้เอกชนเป็นหลัก
- สินทรัพย์ทางเลือก : หาจังหวะทยอยสะสมทั้งทองคำและน้ำมันเพิ่มเติม
เรามาดูสัดส่วนการลงทุนที่แนะนำประจำสัปดาห์กันบ้างครับ
สัดส่วนการลงทุนประจำสัปดาห์ : ระดับความเสี่ยงต่ำ
พอร์ตการลงทุนระยะยาว (การวางแผนการลงทุนในระยะยาว)
- หุ้นไทย 12%
- ตราสารหนี้ต่างประเทศ 44%
- ตราสารหนี้ไทย 44%
พอร์ตการลงทุนระยะสั้น (การปรับพอร์ตตามสถานการณ์)
- หุ้นไทย 12%
- ตราสารหนี้ต่างประเทศ 40%
- ตราสารหนี้ไทย 48%
สัดส่วนการลงทุนประจำสัปดาห์ : ระดับความเสี่ยงกลาง
พอร์ตการลงทุนระยะยาว (การวางแผนการลงทุนในระยะยาว)
- หุ้นต่างประเทศ 24%
- หุ้นไทย 30%
- ตราสารหนี้ต่างประเทศ 20%
- ตราสารหนี้ไทย 20%
- สินค้าโภคภัณฑ์ 6%
พอร์ตการลงทุนระยะสั้น (การปรับพอร์ตตามสถานการณ์)
- หุ้นต่างประเทศ 24%
- หุ้นไทย 30%
- ตราสารหนี้ต่างประเทศ 13%
- ตราสารหนี้ไทย 27%
- สินค้าโภคภัณฑ์ : ทองคำ 3%
- สินค้าโภคภัณฑ์ : น้ำมัน 3%
สัดส่วนการลงทุนประจำสัปดาห์ : ระดับความเสี่ยงสูง![สรุปภาพรวมการลงทุน ช่วงวันที่ 9-13 เมษายน 2561 [WEEKLY OUTLOOK กับอัศวินกองทุน]](/pic/spacer.gif)
พอร์ตการลงทุนระยะยาว (การวางแผนการลงทุนในระยะยาว)
- หุ้นต่างประเทศ 40%
- หุ้นไทย 42%
- ตราสารหนี้ต่างประเทศ 5%
- ตราสารหนี้ไทย 5%
- สินค้าโภคภัณฑ์ 8%
พอร์ตการลงทุนระยะสั้น (การปรับพอร์ตตามสถานการณ์)
- หุ้นต่างประเทศ 40%
- หุ้นไทย 42%
- ตราสารหนี้ต่างประเทศ 2%
- ตราสารหนี้ไทย 8%
- สินค้าโภคภัณฑ์ : ทองคำ 4%
- สินค้าโภคภัณฑ์ : น้ำมัน 4%
หมายเหตุ : “ควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน” ข้อมูลจาก Bloomberg ณ วันที่ 5 ม.ย. 2561
ทั้งนี้ เอกสารนี้จัดทำโดย นางนันท์มนัส เปี่ยมทิพย์มนัส ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ กลุ่มจัดสรรสินทรัพย์และกองทุนต่างประเทศ เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับเผยแพร่ทั่วไป โดยข้อคิดเห็นและบทความในเอกสารฉบับนี้ เป็นการแสดงความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียน ผู้ใช้ข้อมูลนี้จึงต้องใช้ความระมัดระวังด้วยวิจารณญาณของตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นด้วยตนเอง
อ่านบทความ อัศวินกองทุน ย้อนหลัง 1 สัปดาห์ :
https://aommoney.com/stories/อัศวินกองทุน/สรุปภาพรวมการลงทุน-ช่วงวันที่-2-6-เมษายน-2561-weekly-outlook-กับอัศวินกองทุน/1665