“ทำอะไรก็เป็น Passive Income ได้หมดแหละ ถ้ารู้วิธีสร้าง “ระบบ” ให้คนอื่นช่วยทำงานได้” - The Money Coach -

 

ลูกศิษย์ผมคนหนึ่งเปิดร้านขายข้าวมันไก่อยู่หน้ามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในกรุงเทพ ขายดิบขายดีเป็นเทน้ำเทท่า แต่ก็เหนื่อยทุกวัน เพราะสองสามีภรรยาต้องนั่งเฝ้าร้านทั้งวันตั้งแต่สายๆยันหัวค่ำ

 

ครั้นจะไว้ใจลูกจ้างชาว AEC แล้วปล่อยให้ทำกันเองหรือก็ใช่ที่ เพราะถ้าเผลอไม่ยืนเฝ้า มีหวังสับไก่แบบลดแลกแจกแถม หรือไม่ก็ทำงานใจลอย ไม่เรียกไม่ชวนลูกค้าเข้าร้าน ฯลฯ

 

พอได้นั่งคุยกัน เขาบอกว่าตัวเขาเองอยากกลับไปอยู่บ้านเกิดที่ขอนแก่น แต่ติดว่าเสียดายร้านที่กรุงเทพ เพราะมีลูกค้าขาประจำอยู่มาก รายได้ดี เดือนๆหนึ่งกำไรหลายหมื่นบาท

 

ได้ยินเรื่องของเขา ผมก็อุตริแนะว่าให้กลับบ้านเลย ยกร้านให้ลูกจ้างดู แบ่งกำไรกับเขาไปเลย วันหนึ่งขายใช้ไก่กี่ตัว ถ้าขายหมดควรได้กำไรเท่าไหร่ ก็บอกเลยว่า เราขอวันละเท่านี้ โอนเงินให้เราทุกวัน ที่เหลือเท่าไหร่ก็เอาไป

 

เราอุตริพูดแนะนำไป ... แต่มันเอาจริง

 

ไม่นานหลังจากคุยกัน ลูกศิษย์ผมคนนี้ได้ย้ายกลับไปบ้านเกิดที่ขอนแก่น โดยไม่ต้องปิดร้านที่กรุงเทพ รายได้จากร้านข้าวมันไก่ส่งเข้ากระเป๋าเป็นประจำ แม้จะลดลงจากตอนที่ต้องเฝ้าต้องลงมือสับไก่เอง แต่ก็ไม่ต้องเหนื่อยทุกวัน มีเวลาจัดการชีวิตด้านต่างๆ มากขึ้น

 

เมื่อถามว่าไม่กลัวลูกจ้างที่กรุงเทพโกงรึ ... เขาตอบทันทีว่า แค่โอนเงินให้ช้า หรือน้อยกว่าปกติ เราก็น่าจะรู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น 2-3 วันก็ตรวจสอบได้แล้ว และเดี๋ยวนี้กรุงเทพ-ขอนแก่นเดินทางไม่นาน มีอะไรก็บินลงมาเคลียร์ได้ ไม่ถือว่าช้าเกินไป

 

แค่ปลดล๊อคความเชื่อว่า เราทำเองดีที่สุด เราทำเองกำไรที่สุด เปลี่ยนเป็นให้โอกาส ให้คนอื่นมีงานทำ มีรายได้เพิ่ม เพิ่มความรู้สึกเป็นเจ้าของให้กับลูกจ้างหรือคนที่ทำงานให้เรา มีระบบตรวจสอบตรวจทานความผิดปกติได้

 

เพียงเท่านี้เราก็สามารถเปลี่ยนธุรกิจส่วนตัวที่ต้องทำทั้งหมดด้วยตัวเอง เป็น​ “ทรัพย์สิน”​ ที่สร้าง Passive Income ได้แล้ว

 

แล้วอย่างนี้ไม่กลัวลูกจ้างยักยอกเงินบ้างเหรอ?

 

เรื่องแบบนี้ทำใจไว้ได้เลยครับว่า มีรั่วไหลบ้างแหละ ขนาดบริษัทใหญ่ๆ ยังโดนฝ่ายจัดซื้อโกง หรือหาผลประโยชน์ให้ตัวเองได้เลย ดังนั้นโจทย์ของการจัดการร้านแบบนี้ ก็เหมือนกับเราลงทุนให้หุ้นส่วน (ลูกจ้าง) โดยเขาออกแรง เราออกเงิน แล้วแชร์ผลประโยชน์กัน กำหนดผลตอบแทนการลงทุนให้ชัด ที่เหลือคนออกแรงเอาไป เท่านั้นก็จบ

 

หลักคิดง่ายๆของการสร้าง Passive Income จากธุรกิจ ก็คือ DO NOTHING, CONTROL EVERYTHING หรือสร้างธุรกิจให้มีระบบที่เราไม่ต้องลงมือทำเอง แต่ควบคุมและตรวจสอบได้ทั้งหมด

 

เริ่มจากกิจการที่มีกำไรมากพอ พอที่จะจ้างคนอื่นทำงานได้ (และได้กำไรตามต้องการ) จากนั้นก็แค่ วางระบบ - วางมือ - วางใจ ... เพียงเท่านี้ เราก็ทำธุรกิจเป็นทรัพย์สินที่สร้างกระแสเงินสดได้แล้ว

 

อีกกรณีเป็นเจ้าของกิจการไส้กรอกอีสาน จากเดิมที่ต้องขี่มอเตอร์ไซต์ขายไส้กรอก 6 ลูก 20 บาท พร้อมด้วยผักหยิบมือและพริกสดนิดหน่อย (นึกถึงแล้วเปรี้ยวปาก 555) ตระเวนไปทั่วย่านที่ตัวเองพักอาศัย ตรงโน้นที ตรงนี้ที

 

เริ่มเปลี่ยนแนวด้วยการลงทุนออกมอเตอร์ไซต์ (ซึ่งออกกันง่ายเหลือเกินบ้านเรา) แล้วรับไส้กรอกมาขายมากขึ้นกว่าเดิม จ้างคนขาย 5-6 คน วิ่งขี่มอเตอร์ไซต์ขายไส้กรอกแทนตัวเอง

 

ขายยังไงก็ได้ จะแถม จะโปรโมชั่นได้หมด สุดท้ายต่อวันขอแบ่งรายได้กันตามกำหนด เช่น วิ่งขายทั้งวันขอ 800 บาท ที่เหลือคนขายเอาไปหมดเลยก็ยังได้ (อารมณ์ประมาณให้เช่าแท็กซี)

 

ฟังแล้วเลยถามว่า ไม่กลัวเขาขี่มอเตอร์ไซต์หนีไปเลยเหรอ?

 

คำตอบ คือ เรารู้จักคนที่มาขายให้ ติดต่อติดตามได้ไม่ยาก แต่ถ้าสุดท้ายโชคร้ายจริงๆ เต็มที่ก็แค่กัดฟันส่งมอเตอร์ไซต์เขาไปทุกเดือน 555

 

วางระบบ: จัดเตรียมพาหนะ สินค้าที่พร้อมจะขาย มีระบบตรวจสอบรายได้ที่ควรจะเป็นจากของที่เหลือจำหน่าย

 

วางมือ: ให้คนอื่นออกไปขายแทน ทำแทน แบ่งปันกำไรที่ควรจะได้ให้เขาไป แต่เราก็ทำงานได้มากขึ้น จากจำนวนคนและเวลาที่เพิ่มขึ้น

 

วางใจ:  กำไรคงมีรั่วไหลบ้าง แต่ก็ตรวจจับได้ ดูแลลูกค้าอาจไม่ดี 100% เท่าเรา แต่เอาเหอะ เรื่องแบบนี้ฝึกและสอนกันได้

 

ในอีกมุมหนึ่ง การเปลี่ยนรายได้จากกิจการส่วนตัว ไปสู่ธุรกิจที่เป็นทรัพย์สินและสร้าง Passive Income ไอเดียจะคล้ายกันกับแนวคิด เงินสี่ด้าน (ESBI) ของโรเบิร์ต คิโยซากิ (ผู้เขียนหนังสือขายดี “พ่อรวยสอนลูก”) ที่ว่า

 

การย้ายจากด้านกิจการส่วนตัว (S) ไปสู่ด้านธุรกิจที่เป็นทรัพย์สิน (B) นั้นจุดแตกต่างสำคัญ คือ การลงมือทำงานเอง หรือใช้เวลาคนอื่น และให้คนอื่นทำงานให้ (Other People’s Time, OPT) ซึ่งหัวใจก็คือ การสร้างระบบควบคุม นั่นเอง

 

และก็อย่างที่เห็น คำว่า​ “ระบบ” ที่ว่านี้ หาใช่อะไรที่ซับซ้อนแต่อย่างไร ตรงกันข้ามกับเรียบง่ายและสบายๆ เสียด้วยซ้ำ

 

มองในอีกมุมหนึ่ง Passive Income จึงไม่ใช่อะไรที่ยาก หรืออะไรที่ใหม่เลย และใครๆก็สามารถมีมันได้ เพียงเข้าใจหลักคิดสำคัญเพียงนิดเดียว ... นิดเดียวจริงๆครับ

 

moneyCoach-01