ถ้าหากใครที่เคยติดตามผมจากบทความเก่าๆก่อน ผมจะเคยสอนเทคนิคในเรื่องของการพักเงินไว้ก่อนการลงทุนนะครับ จำกันได้หรือเปล่า? หลักการของการพักเงินก็คือ โดยปกติแล้วเราอาจจะมีเงินก้อนอยู่ แต่เราไม่แน่ใจว่าเราจะเอาเงินทั้งก้อนไปลงทุนเลยดีไหม ก็อาจจะหาที่พักเงินให้ได้ผลตอบแทนมากกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากไปก่อน แล้วเมื่อเราพบจังหวะดีๆในการลงทุนไม่ว่าจะเป็นการใช้ Market Timing หรือ การทยอยลงทุนแบบ DCA ก็ค่อยหมุนเงินจากที่พักเงินสู่กองทุนรวมที่มีโอกาสให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าในอนาคต

การลงทุนในกองทุนรวม RMF ก็สามารถใช้หลักการนี้ได้เช่นกันนะครับ หลายๆคนต้องการลงทุนพร้อมๆ กับการลดหย่อนภาษีไปด้วย แต่พบว่าปัจจัยต่างๆในการลงทุนในกองทุนรวมหุ้นอาจจะยังไม่เอื้ออำนวยจากความผันผวนที่เกิดขึ้น จึงมองว่าการลงทุนในกองทุนรวมที่มีความเสี่ยงต่ำอาจจะทำให้เราปลอดภัยในระยะเวลานี้ได้มากกว่า ง่ายๆก็คือเอาเงินไปพักไว้ใน RMF ความเสี่ยงต่ำซักตัวหนึ่งก่อนนำไปลงทุนต่อใน RMF อื่นๆต่อเมื่อจังหวะการลงทุนน่าสนใจมากขึ้น

เคล็ดลับดีๆในการทำ-Market-Timing-ใน-RMF-01

เทคนิคการลงทุน

  • คำนวณเงินที่ต้องการลงทุนและผลประโยชน์ทางภาษี
  • นำเงินมาลงทุนใน RMF ความเสี่ยงต่ำเพื่อพักเงินและถือเป็นการลงทุนระยะยาวเพื่อการเกษียณ
  • เมื่อเห็นจังหวะในการลงทุนที่เหมาะสม เช่น หุ้นลงมากๆ หรือ มีแนวโน้มฟื้นตัว ก็สามารถสับเปลี่ยนเข้ากองทุน RMF ที่ลงทุนในหุ้น ตามอัตราส่วนที่เหมาะสมกับความเสี่ยงของเราครับ

ขอยกตัวอย่างกองทุนรวม KFSRMF กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ระยะสั้นเพื่อการเลี้ยงชีพ กองทุนนี้จะลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐประมาณ 26.5% ส่วนที่เหลือลงทุนในเงินฝาก หุ้นกู้ และตราสารหนี้สถาบันการเงิน ซึ่งแน่นอนว่าถ้าเรามามองผลตอบแทนและความเสี่ยงของตราสารหนี้นั้น มันจะไม่ได้ผันผวนมาก

Screen Shot 2558-12-16 at 17.51.46

ลองสังเกตดูที่ Benchmark นะครับ อันนี้เป็นเกณฑ์ของตราสารหนี้ระยะสั้น จะเห็นได้ว่าจากข้อมูลใน Morningstar Thailand กองทุนนี้ทำผลตอบแทนได้ดีมาตลอดไม่ว่าจะ 1 ปี 3 ปี หรือ Year to Date นะครับ

หน้าตาแบบนี้แหละคือ RMF ที่เหมาะสมเป็นที่พักเงินในช่วงที่เราไม่แน่ใจว่าควรลงทุนหรือเปล่า ถ้ายังไม่ได้ซื้อ RMF ในปีนี้ เพราะรีๆรอๆ หาจังหวะเข้าซื้อไม่ได้ซักทีเพราะเห็นตลาดหุ้นผัวผวนมาก ก็สามารถซื้อกองทุนนี้เพื่อให้ได้ลงทุนเพื่อลดหย่อนภาษีไปก่อนได้นะครับ ส่วนใครที่ลงทุนใน RMF กองอื่นอยู่แล้วและผลตอบแทนไม่เป็นไปตามที่คาดหวังก็สามารถย้ายมาพักไว้ที่กองทุนความเสี่ยงต่ำเพื่อรอจังหวะการลงทุนกลับไปใน RMF หุ้นเมื่อเห็นว่าตลาดหุ้นเริ่มมีอนาคตสดในก็ได้ครับ

นอกเหนือจากจะเป็นที่พักเงินแล้ว ด้วยความที่กองทุนนี้เป็นกองทุนความเสี่ยงต่ำ ความผันผวนน้อย ก็เลยเหมาะสมกับเพื่อนๆที่

  1. ต้องการกระจายความเสี่ยง : ก็เห็นมีอยู่หลายๆคนนะครับที่ลงทุนในทั้งใน LTF และ RMF ที่เน้นการลงทุนในหุ้น โดยใช้หลักการทยอยซื้อแบบ DCA จึงไม่ได้สนใจการสับเปลี่ยนกองทุนมาไว้ในกองทุนตราสารหนี้เพื่อพักเงิน แนะนำให้ลองดูวิธีกระจายความเสี่ยง โดยแยกเงินอีกก้อนหนึ่งมาลงทุนในRMFแบบความเสี่ยงต่ำ ผมว่าเป็นวิธีการซื้อกองทุนรวมและจัดพอร์ตการลงทุที่น่าสนใจเช่นกันครับ
  1. นักลงทุนที่อยู่ในวัยใกล้เกษียณ : ตามหลักการแล้วนักลงทุนกลุ่มนี้รับความเสี่ยงไม่ได้มากเท่ากับนักลงทุนหนุ่มสาวแล้วครับ เพราะเมื่อใกล้ถึงวันเกษียณนั้นก็หมายความว่าอายุการทำงานกำลังสิ้นสุดลง การนำเงินไปลงทุนในทรัพย์สินที่มีความเสี่ยงสูงนั้นทำให้เสี่ยงต่อการขาดทุนได้ กองทุนนี้จึงตอบโจทย์การลงทุนของวัยใกล้เกษียณเช่นกันนะครับ

อันนี้ก็เป็นเทคนิคหนึ่งของการลงทุนพร้อมๆกับการลดหย่อนภาษีโดยเน้นลงทุนใน RMF ที่มีความเสี่ยงต่ำนะครับ อยู่ที่เราว่าจะลงทุนเพื่อพักเงินรอจังหวะดีๆ หรือ เราจะลงทุนเพราะไม่ต้องการพบความเสี่ยงในการลงทุนในอนาคตก็ได้เช่นกัน

 

กองทุน Style นี้ ใครสนใจลงทุนก็ลองสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้นะครับ เป็นกองทุน RMF สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ สินใจติดต่อที่ธนาคารกสิกรไทยใกล้บ้านทุกสาขาครับ

 

 

หมายเหตุ :

“ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต

ผู้ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และคู่มือภาษีก่อนตัดสินใจลงทุน”

 

บทความนี้เป็นบทความ Advertorial

 

สนับสนุนโดย

ThemeAds02_595x114