จากข่าวเรื่องทายาทกระทิงแดงที่กำลังโด่งดังอยู่ตอนนี้ มีความรู้การเงินที่สำคัญแทรกอยู่ด้วยว่าตัวเราควรทำประกันชีวิตเท่าไหร่ 


เนื้อหาในข่าว...

เราควรมีทุนประกันชีวิตเท่าไหร่?

ที่มาของข่าว : https://www.pptvhd36.com/news/ประเด็นร้อน/50630


ค่าเสียโอกาส

แม้ว่าชีวิตของเราไม่สามารถตีราคาได้ แต่ถ้าวันหนึ่งเราต้องกลายเป็นผู้เสียหายแล้วต้องการได้รับเงินเยียวยา จึงต้องมีแนวคิดว่าควรเรียกค่าเสียหายจากคนที่ทำให้เราบาดเจ็บเท่าไหร่ เช่น เราเกิดอุบัติเหตุนอนป่วยไปทำงานไม่ได้ 1 เดือน เสียเวลาในการหาเงินไปวันละกี่บาท ค่ารักษาพยาบาลจนกว่าจะหายป่วย ค่าเสียขวัญ ฯลฯ 


รวมทั้งหมดแล้วเป็นจำนวนเงินที่เราควรจะได้รับ สมมติว่าเป็นเงิน 500,000 บาท เราจะได้รับเงินหรือไม่ขึ้นอยู่กับคู่กรณี


?ถ้าคนที่ทำให้เราบาดเจ็บเป็นคนมีหนี้สินล้นพ้นตัว มันก็ยากที่เราจะได้รับเงินเยียวยา 500,000 บาท แต่เรามีทางออกแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายตรงนี้ด้วยประกันสังคมและเบิกกับประกันสุขภาพ ทำให้เราได้รับเงินค่ารักษาพยาบาลและเงินที่ได้รับจากการนอนโรงพยาบาล 30 วัน จ่ายให้ญาติเดินทางให้ญาติที่มาดูแล 


?คนที่ทำให้เราบาดเจ็บเป็นเจ้าของธุรกิจมีฐานะร่ำรวยและมีความรับผิดชอบ เขาก็จะดูแลเราเป็นอย่างดี อาจจะให้เงินค่าเสียเวลามากกว่าที่เราต้องการก็ได้


มันเป็นค่าเสียโอกาสที่เราไม่ได้รับเงินช่วงเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล แต่การเสียชีวิตทำให้เราเสียโอกาสสร้างรายได้ไปตลอดชีวิต เราสามารถปกป้องรายได้ในอนาคตส่วนนี้ได้ เริ่มจาก…


1?? ตลอดชีวิตเราสร้างรายได้ให้ครอบครัวเท่าไหร่ (คำนวณทุนประกันชีวิต)

จากข่าวนี้เราจะเห็นวิธีการคำนวณเงินเยียวยาที่มาจาก “ความสามารถในการหารายได้”  ซึ่งตรงกับแนวคิดการคำนวณทุนประกันชีวิตที่เรียกว่า Human Life Value Approach ทำให้รู้ว่าช่วงเวลาที่เหลืออยู่ เราสามารถสร้างรายได้ให้ครอบครัวเท่าไหร่ จึงนำตัวเลขนี้มาเป็นทุนประกันชีวิต เพื่อสร้างความมั่นใจว่าครอบครัวมีรายได้จากเราแน่นอน

 

ตัวอย่าง ตอนนี้เราเป็นสาวสวยอายุ 30 มีรายได้เดือนละ 35,000 บาท ทำงานไปเรื่อยๆถึงอายุ 60 ควรมีทุนประกันชีวิตเท่าไหร่ 

  • ตั้งแต่อายุ 30 - 60 มีเวลาทำงานรวม 30 ปีหรือ 360 เดือน
  • สมมติเงินเดือนคงที่ 35,000 บาท เวลา 360 เดือน เรามีรายได้ให้ครอบครัวอย่างน้อย 35,000 x 360 = 12,600,000 บาท (ยังไม่รวมรายได้ที่เพิ่มขึ้นในอนาคต)
  • ถ้าอายุ 31 เสียชีวิต เงิน 12,600,000 บาทที่ครอบครัวจะได้รับก็หายไปด้วย ดังนั้น เราควรซื้อทุนประกันไว้ที่ 12,600,000 บาท 

 

2??เลือกประกันชีวิตที่ตอบโจทย์

เป้าหมาย คือ การคุ้มครองความสามารถในการหารายได้ 12,600,000 บาท อีก 30 ปีข้างหน้า เป็นค่าเสียโอกาสที่เราทำงานไม่ได้ตลอดชีวิต ถ้าอายุยืนเราหารายได้มากกว่านี้ แต่ถ้าอายุสั้น เรามีเงินก้อนดูแลครอบครัวแน่นอน ประกันชีวิตที่เหมาะสมควรเน้นทุนประกันสูง  คือ 


?แบบชั่วระยะเวลา : เบี้ยประกันปีละ 30,988 บาท จ่าย 20 ปี คุ้มครอง 20 ปี สิ่งที่เราจะได้รับ

  • การเสียชีวิตภายใน 20 ปี มีเงินก้อนดูแลครอบครัว 12,700,000 บาท 
  • ไม่มีมูลค่าเงินสด ปีที่ 21 เงินมีค่าเท่ากับ 0 บาท

 

?แบบควบการลงทุน : เบี้ยประกันปีละ 50,400 บาท จ่าย 20 ปี คุ้มครองตลอดชีวิตถึง 99 สิ่งที่เราจะได้รับ

  •  กรณีทุพพลภาพ มีเงินดูแลตัวเอง 12,600,000 บาท
  •  การเสียชีวิตได้รับ 12,600,000 + เงินจากการขายกองทุนรวม
  •  ทุพพลภาพหลายปีแล้วเสียชีวิต มีเงินจากส่วนทุพพลภาพมาดูแลตัวเอง 12,600,000 บาท + เสียชีวิต 12,600,000 + เงินจากการขายกองทุนรวม
  •  จำเป็นเรื่องเงินถอนเบี้ยประกันออกมาใช้ได้ (ต้องจ่ายเบี้ยประกันมาแล้ว 10 ปี)

 

ไม่แนะนำ!!

ประกันแบบสะสมทรัพย์ แบบบำนาญ แบบตลอดชีพ เพราะทุนประกันเท่ากัน แต่เบี้ยประกันจ่ายมากกว่าปีละ 200,000 บาท (เบี้ยประกันจะแตกต่างกันตามอายุ เพศ ทุนประกันนะคะ)

 

ผลิตภัณฑ์ทางการเงิน เช่น เงินออมทรัพย์ สลากออมสิน หุ้น กองทุน ทองคำ ประกันชีวิต ประกันสุขภาพ ฯลฯ มีลักษณะและตอบโจทย์เป้าหมายการเงินที่แตกต่างกัน เหมือนการเลือกเสื้อผ้าให้เหมาะกับสถานที่ที่จะไปว่าไปงานศพ งานแต่งงาน งานขึ้นบ้านใหม่นั้นควรแต่งตัวอย่างไร เรื่องนี้เป็นการสร้างความมั่นใจว่าครอบครัวมีรายได้แน่นอน จึงต้องใช้ “ประกันชีวิต” ที่ใช้เงินหลักหมื่น เพื่อสร้างความคุ้มครองหลักล้าน 



ยิ่งเรามีความรู้การเงินกว้างเท่าไหร่ 

ก็จะมีทางเลือกให้ตัวเองมากขึ้นเท่านั้น

 



————

 

PR : Workshop และ E-book

 

=> จองเวลา Workshop วิธีจัดการเงินขั้นเทพ @เชียงใหม่ https://bit.ly/2POuvcv

=> E-book “วิธีจัดการเงินขั้นเทพ ฉบับลงมือทำ” สรุปเคล็ดลับวิธีจัดการเงินแบบไม่ต้องคลำทางเอง อ่านแล้วทำ workshop ครบทุกเรื่อง รับรองว่าจัดการเงินดีขึ้นแน่นอน https://www.facebook.com/miracleofsaving/photos/a.641428715894749/3107277445976518/?type=3&theater

 



เพจอภินิหารเงินออม