แกะรอย หุ้น IPO "BGC" ผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์แก้วอันดับ 1 ของไทย
“BGC” หรือ “บริษัท บีจี คอนเทนเนอร์ กล๊าส จำกัด (มหาชน)” ประกอบธุรกิจผลิต นำเข้า ส่งออก และจัดจำหน่ายบรรจุภัณฑ์แก้ว ได้แก่ ขวดเบียร์ ขวดเครื่องดื่มไม่ผสมแอลกอฮอล์ ขวดอาหาร ขวดยาฆ่าแมลงและยา และขวดผลิตภัณฑ์อื่น เช่น ขวดเครื่องดื่มให้พลังงาน และสุรา เป็นต้น
BGC มีกำลังการผลิตบรรจุภัณฑ์แก้วมากที่สุดในประเทศไทย
อ้างอิงจากรายงานของ GlobalData Plc ณ 2 ก.พ. 2561 บริษัทฯ มีกำลังการผลิตบรรจุภัณฑ์แก้วเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย โดยมีเตาหลอมแก้วทั้งหมด 10 เตา กำลังการผลิตรวม 3,095 ตันต่อวัน และถ้าโรงงานแห่งใหม่ที่ราชบุรีเริ่มดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์ คาดว่าจะเพิ่มการผลิตรวมเป็น 3,495 ตันต่อวัน
โครงสร้างบริษัทฯ ในเครือ BGC
BGC มีโรงงานหลักในเครือ 5 โรงงานใน 5 จังหวัด
BGC ถือหุ้นอยู่ 99.9% ในโรงงานที่อยุธยา ขอนแก่น ปทุมธานี และราชบุรี เรียงตามจำนวนเตาหลอมและกำลังการผลิต ในขณะที่โรงงานที่ปราจีนบุรี บริษัทฯ ถือหุ้นอยู่ที่ 51.0% ส่วนโรงงานที่ระยองปิดเตาหลอมแก้วและอยู่ระหว่างการปิดกิจการ
การมีโรงงานอยู่หลายแห่งจะช่วยกระจายความเสี่ยงให้กับบริษัทฯ ได้มาก โดยเฉพาะความเสี่ยงทางธรรมชาติที่คาดเดาได้ยาก
นอกจากนี้ ยังมีประโยชน์ในแง่การกระจายอยู่ในทำเลอุตสาหกรรมที่หลากหลาย ทำให้บริษัทฯ สามารถส่งสินค้าให้กับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ มากกว่าการตั้งโรงงานอยู่ที่ทำเลใดทำเลหนึ่ง จึงสังเกตได้ว่าทั้งอยุธยา ขอนแก่น ปทุมธานี ราชบุรี และปราจีนบุรี ต่างก็อยู่ในทำเลที่มีโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งมีศักยภาพและเป็นลูกค้าของบริษัทฯ ทั้งสิ้น
ภาพโรงงานผลิตบรรจุภัฑณ์แก้วที่อยุธยาในเครือ BGC
รายได้หลักของ BGC มาจากบรรจุภัณฑ์แก้วสำหรับอุตสาหกรรมเครื่องดื่ม
สัดส่วนบรรจุภัณฑ์แก้วที่สร้างรายได้ให้กับบริษัทฯ มากที่สุดคือ ขวดเบียร์ โดยมีสัดส่วนประมาณ 40% รองมาคือ เครื่องดื่มไม่ผสมแอลกอฮอล์ (Soft Drinks) ประมาณ 30% ส่วนที่เหลือจะเป็นผลิตภัณฑ์ในกลุ่มอื่นรวมกัน โดยหากมองในแง่ความมั่นคง ธุรกิจอาหารถือว่าค่อนข้างมีความมั่นคงสูง ผันผวนน้อย มีความต้องการในการใช้ค่อนข้างแน่นอน และเติบโตอย่างต่อเนื่อง ตามสภาพเศรษฐกิจของประเทศ
ภาพสัดส่วนรายได้ตามกลุ่มผลิตภัณฑ์ของ BGC
ลูกค้าหลักของ BGC ในผลิตภัณฑ์เบียร์คือ กลุ่มบุญรอด ได้แก่ เบียร์สิงห์ เบียร์ลีโอ ยูเบียร์ ในขณะที่ผลิตภัณฑ์กลุ่ม Soft Drinks ก็มีหลากหลาย เช่น สิงห์ (น้ำดื่มและโซดา) สปอนเซอร์ ไวตามิลค์ โคคาโคล่า เป็นต้น
ภาพตัวอย่างผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์แก้วของ BGC
บางกอกกล๊าสและกลุ่มบุญรอด เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่และพาร์ตเนอร์สำคัญทางธุรกิจ
กลุ่มบุญรอดถือหุ้น 67.5% ใน BG หรือบริษัท บางกอกกล๊าส จำกัด (มหาชน) และ BG เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ BGC อีกทอดหนึ่ง โดยจะลดสัดส่วนการถือหุ้นลงจาก 100% เป็น 72.0% และแบ่งสัดส่วนหุ้นที่เหลือให้บุคคลทั่วไปร่วมลงทุนกับบริษัทฯ ผ่านการระดมทุน IPO ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
กลุ่มบุญรอดถือเป็นพาร์ตเนอร์สำคัญทางธุรกิจ เพราะเป็นกลุ่มลูกค้ารายใหญ่ของบริษัทฯ มีสัดส่วนรายได้ประมาณ 60% ของรายได้รวม โดยสินค้าหลักคือ เบียร์สิงห์ เบียร์ลีโอ ยูเบียร์ น้ำดื่มสิงห์ และโซดาสิงห์ โดยการที่กลุ่มบุญรอดเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ภายหลัง IPO นับเป็นการแสดงถึงความเชื่อมั่นต่อบริษัทฯ ได้เป็นอย่างดีทีเดียว
สัดส่วนการถือหุ้นก่อนและหลัง IPO ของ BGC
ขีดเส้นใต้ว่าบทความนี้ไม่ได้มีจุดประสงค์ในการแนะนำการซื้อ ถือ หรือขายหลักทรัพย์ เพียงแต่เป็นการสรุปหนังสือชี้ชวนให้เป็นประโยชน์ต่อการลงทุนของนักลงทุนเท่านั้น
หากนักลงทุนสนใจข้อมูลเพิ่มเติมสามารถอ่านข้อมูลของบริษัทฯ เพิ่มเติมได้ที่ https://market.sec.or.th/public/ipos/IPOSEQ01.aspx?TransID=197190
ใครเป็นแฟนพันธุ์แท้เบียร์สิงห์ อย่าลืมศึกษาบริษัทนี้
เชียร์!
บทความนี้เป็น Advertorial