ใครว่าตลาดหุ้นทั่วโลกเสี่ยง แล้วลงทุนในกองทุนหุ้นไม่ได้?
สวัสดีครับ วันนี้กลับมาพบกับผม หมอนัท @ คลินิกกองทุน กันอีกครั้งนะครับ ช่วงนี้ผมมักจะได้ยินเสียงบ่น หรือ คำถามจากนักลงทุนหลาย ๆ คนว่า หุ้นทำไมผันผวนจัง แล้วในช่วงที่เกิดภาวะผันผวนแบบนี้ เราจะทำอย่างไรดี ? บางคนอยากลงทุนในกองทุนหุ้น แต่ไม่รู้ว่าจะลงทุนกับกองทุนหุ้นแบบไหนดี ซึ่งวันนี้ ผมมีคำตอบให้ครับ
ตลาดหุ้นไทยในช่วงนี้ได้มีกระแสเงินจากต่างชาติกลับเข้ามาลงทุนอยู่บ้าง เนื่องจากตลาดหุ้นต่างประเทศไม่ดี ทำให้ตลาดหุ้นไทยกลับมายืนได้อีกครั้ง แต่เราก็ไม่รู้ว่าเงินที่ไหลมานั้นจะลงทุนระยะยาวเพียงใดและจะไหลกลับไปเมื่อใด ทำให้ตลาดหุ้นไทยยังคงผันผวน และกระทบต่อกองทุนหุ้นที่เราลงทุนอยู่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ในการเลือกกองทุนที่จะลงทุนที่ดีนั้น ต้องเริ่มจากเข้าใจในกองทุนฯดังกล่าวก่อนเริ่มลงทุน และต้องลงทุนด้วยสัดส่วนที่ไม่มากเกินไปจนกระทบต่อพอร์ตการลงทุนของเรา จนทำให้เราไม่ถึงเป้าหมายที่วางไว้
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนก็ไม่ควรหมดหวังกับการลงทุนในกองทุนหุ้น เนื่องจาก “หุ้น” ยังเป็นสินทรัพย์ที่น่าลงทุนและให้ผลตอบแทนที่ดีที่สุดในทุกสินทรัพย์การลงทุน นอกจากนี้จะพบว่า หลาย ๆ ครั้งที่หุ้นผันผวน หรือมีแนวโน้มเป็น “ขาลง”อย่างเห็นได้ชัดเจน แต่ก็ยังมีหุ้นที่ปรับตัวลดลงน้อย หรือบางครั้งก็วิ่งสวนทางตลาดหุ้นเสียด้วย ทั้งนี้ เพราะว่า หุ้นบางตัวหรือบางกลุ่มอุตสาหกรรมนั้น มีความผันผวนน้อยกว่าตลาดหุ้น
โดยหุ้นในกลุ่มนี้ เราเรียกว่า หุ้นกลุ่ม Low Volatility
แม้ตลาดหุ้นทั่วโลกจะลดลงแค่ไหน แต่หุ้นกลุ่มนี้มักจะให้ผลตอบแทนที่ดี และมีความเสี่ยงต่ำกว่าหุ้นตัวอื่นๆในตลาด
ยิ่งในช่วงที่ตลาดหุ้นเป็นขาลง หุ้นกลุ่มนี้ได้ช่วยลดความเสี่ยงได้ดีมาก ทำให้ต้นทุนที่ลงทุนไม่ลดลงต่ำมากไป จนทำให้รู้สึกว่า การที่เราจะได้กำไรกลับคืนมานั้นต้องใช้เวลานานและเป็นเรื่องยาก และที่สำคัญคือ หุ้นกลุ่มนี้จะช่วยสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนได้ดีในระยะยาวอีกด้วย ดังนั้น ถ้าเป็นนักลงทุนระยะยาวแล้ว ควรที่จะลงทุนกับกองทุนหุ้นที่ผันผวนต่ำครับ
สาเหตุที่หุ้นกลุ่ม Low Volatility ให้ผลตอบแทนได้ดีในระยะยาว คือ
- มักจะเป็นหุ้นที่มี Business Model ที่ค่อนข้างดี และผูกขาดการค้าพอสมควร ทำให้ระยะยาวยังแข่งขันกับธุรกิจอื่นๆได้ ทำให้ได้กำไรอย่างสม่ำเสมอ
- หุ้นในกลุ่มเหล่านี้มีพื้นฐานทางการเงินที่ดี ทำให้ผ่านวิกฤติเศรษฐกิจได้หลายครั้ง และแต่ละครั้งที่ผ่านมาได้ จะเติบโตอย่างก้าวกระโดด
- เมื่อนำหุ้นเหล่านี้เข้ามาอยู่ในพอร์ตการลงทุนแล้ว จะทำให้พอร์ตมีประสิทธิภาพมากขึ้น ผลตอบแทนสูงขึ้น ความเสี่ยงต่ำลง และมี Sharpe ratio สูงขึ้น เมื่อเทียบกับพอร์ตการลงทุนที่ไม่มีหุ้นกลุ่ม Low Volatility อยู่ด้วย
- เป็นหุ้นที่มักจะมีกระแสเงินสดอยู่มาก และมีการจ่ายปันผลสม่ำเสมอ
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ หุ้นกลุ่มนี้น่าสนใจใช่ไหมครับ คราวนี้เรามาทำความรู้จักกับกองทุนเด่นของวันนี้กันเลยดีกว่าครับ สำหรับกองทุนที่น่าสนใจของวันนี้คือ
กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ หุ้น Low Volatility หรือ SCB Low Volatility Equity Fund (SCBLEQ)
เปิดเสนอขายครั้งแรก : 21 - 27 เมษายน 2559
มูลค่าขั้นต่ำในการซื้อ : ครั้งแรก 5,000 บาท / ครั้งถัดไป 1,000 บาท
นโยบายจ่ายเงินปันผล : กองทุนมีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่เกิน ปีละ 2 ครั้ง
ประเภทกองทุน : กองทุนที่เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว (Feeder Fund) โดยลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศได้แก่ AB Low Volatility Equity Portfolio (กองทุนหลัก)
และลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อ ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน หรือทรัพย์สินในสกุลเงินต่างประเทศที่กองทุนถืออยู่เทียบกับสกุลเงินบาท ตามดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน
กองทุน AB Low Volatility Equity Portfolio (กองทุนหลัก) เป็นกองทุนประเภท Active จดทะเบียนในประเทศลักเซมเบิร์ก และอยู่ภายใต้ UCITS บริหารงานโดย AllianceBernstein L.P ซึ่งเน้นลงทุนในตราสารทุนที่โดยพื้นฐานมีความผันผวนคาดการณ์และความเสี่ยงขาลงคาดการณ์ที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดโดยรวม
สไตล์การลงทุนของกองทุนนี้ – มีแนวทางการคัดเลือกเข้ามาอยู่ในพอร์ตการลงทุนอย่างน่าสนใจ คือจะมีการเฟ้นหาและมีกฎเกณฑ์ที่ชัดเจนในการเลือกลงทุนกับหุ้นต่างๆ ทั่วโลก
ทั้งนี้ผู้จัดการกองทุนจะดูทั้งคุณภาพของหุ้น และวิเคราะห์เชิงตัวเลข ดังนี้
- คุณภาพของธุรกิจ (บริษัททำกำไรได้ดี)
- มีความผันผวนของราคาหุ้นน้อยเมื่อเทียบกับตลาดหุ้น
- ราคาของหุ้นเองไม่แพง
ซึ่งเมื่อกองทุนสร้างพอร์ตได้ ก็เริ่มลงทุนจนได้หน้าตาของพอร์ตที่น่าสนใจมาก โดยได้ครบทั้ง 3 ประการข้างต้น ซึ่งถ้ากองทุนเลือกหุ้นที่มีศักยภาพแบบนี้รวมกันได้จริงๆ ระยะยาวมูลค่าที่แท้จริงของกิจการจะสะท้อนมายังมูลค่าหุ้นที่กองทุนถืออยู่อย่างแน่นอน ดังนั้นจึงน่าสนใจมาก และถ้าดูผลตอบแทนย้อนหลังก็จะเห็นชัดว่า ความเสี่ยงต่ำเมื่อเทียบกับตลาดทั่วโลก (downside risk) ต่ำ และในภาวะที่ตลาดปรับตัวขึ้น ก็ให้ผลตอบแทนที่ดีด้วยครับ
ตัวอย่างหลักทรัพย์ในกองทุนที่น่าสนใจ ได้แก่
ทำไมกองทุน SCBLEQ จึงน่าสนใจ
- ความผันผวนต่ำ มีโอกาสได้ผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวมากๆ เพราะว่าหุ้นในกลุ่มนี้จะไม่ขึ้นลงแบบหวือหวามากในช่วงสั้นๆ
- หากนำกองทุนนี้มาใส่ในพอร์ตการลงทุน จะช่วยให้พอร์ตการลงทุนโดยรวมไม่ผันผวนมากเกินไป
- กองทุนมีเงินปันผลจ่ายให้ไม่เกินปีละ 2 ครั้ง ซึ่งทำให้ใครที่ลงทุนระยะยาว และอยากได้เงินออกมาใช้บ้าง หรือจะลงทุนร่วมกับกองทุนอื่นๆ เพื่อไม่ให้พอร์ตการลงทุนหลังเกษียณผันผวนมาก (ต้องมีการจัดพอร์ตกระจายความเสี่ยง)