ถ้าเรามีเงินออมแล้ว ควรแบ่งเงินบางส่วนไปลงทุนเพื่อให้เงินทำงาน เราจะได้มีเงินเพิ่มขึ้น แต่เราเคยสงสัยมั๊ยว่า เงินทำงานคืออะไร ทำงานที่ไหน ทำงานนานมั๊ย บทความนี้อภินิหารเงินออมจะเขียนให้เห็นภาพชัดเจนมากขึ้น พร้อมกับมีตัวอย่างการลงทุนที่่น่าสนใจ และข้อควรระวังจากการให้เงินทำงานว่ามีอะไรบ้างนะคะ


ให้เงินทำงาน คืออะไร?

"ให้เงินทำงาน" เงินช่วยเราทำงานกี่วัน?


เราตื่นเช้ารีบเดินทางไปทำงาน ตอนเย็นก็กลับบ้าน ชีวิตหมุนวนแบบนี้ทุกๆวันเพื่อรับเงินตอนสิ้นเดือน แบบนี้เรียกว่า “ใช้แรงทำงาน” เมื่อได้รับเงินแล้วแบ่งเงินบางส่วนไปลงทุนในที่ต่างๆ เพื่อรับผลตอบแทน เช่น  ดอกเบี้ย เงินปันผล กำไรจากการขาย ค่าเช่า การถูกรางวัลสลากออมสิน เพิ่มเป็นรายได้กลับเข้ามาในกระเป๋าของเรา แบบนี้เรียกว่า “ให้เงินทำงาน” เป็นวิธีที่ทำให้เงินเหนื่อยไปพร้อมกับเราด้วย ^^


เงินช่วยเราทำงานกี่วัน?

ทุกคนมีเวลา 24 ชั่วโมงเท่ากัน บางคนอยากได้เวลาเพิ่มเพื่อจะได้หาเงินได้มากกว่านี้ แต่มันเป็นไปไม่ได้ เพราะเราได้โควต้ามาแค่นั้น แม้ว่าเราเพิ่มเวลาไม่ได้ แต่เราใช้เวลาที่จำกัดนี้หาวิธีเพิ่มเงินได้ โดยการหาความรู้การลงทุนและย้ายเงินไปไว้ในที่ที่ให้ผลตอบแทนสูงขึ้น เพื่อให้เงินทำงานเหนื่อยไปพร้อมกับเรา


"ให้เงินทำงาน" เงินช่วยเราทำงานกี่วัน?


จะเกิดอะไรขึ้น!! ถ้าลงทุนเดือนละ 1,000 บาท 

สมมติว่าเรามีเงินเดือน 20,000 บาท ทำงาน 20 วันต่อเดือน แสดงว่าเรามีรายได้เฉลี่ย 1,000 บาทต่อวัน ถ้าเก็บสะสมเดือนละ 1,000 บาท (5% ของรายได้) เวลา 5 ปี ใส่เงินไว้ในกระปุกออมสินมีเงินรวม 60,000 บาท แต่ถ้าเราเปลี่ยนนำเงินมาสะสมไว้ในที่ที่ให้ผลตอบแทนสูงขึ้น เรามาดูกันว่าเงินจะเติบโตขึ้นเท่าไหร่และเงินช่วยเราทำงานกี่วัน


=> การลงทุนให้ผลตอบแทน 2% เงินของเราเติบโตขึ้นเป็น 63,047 บาท เงินเพิ่มขึ้น 3,047 บาท แสดงว่าการลงทุนเดือนละ 1,000 บาท เงินช่วยเราทำงาน 3 วัน


=> การลงทุนให้ผลตอบแทน 5% เงินของเราเติบโตขึ้นเป็น 68,006 บาท เงินเพิ่มขึ้น 8,006 บาท แสดงว่าการลงทุนเดือนละ 1,000 บาท เงินช่วยเราทำงาน 8 วัน


ถ้าลงทุนนานหลายปี เงินก็จะช่วยเราทำงานมากขึ้นเช่นกัน จากตัวอย่างนี้น่าจะเห็นภาพชัดเจนขึ้นว่า “เงินช่วยเราทำงานได้อย่างไร” นี่เองความน่าสนใจของการลงทุน แต่ผลตอบแทนที่ว่านั้นได้จากไหนล่ะ เรามาดูที่หัวข้อต่อไปได้เลยจ้า


ให้เงินทำงานที่ไหนดีล่ะ?

ถ้าเป็นมือใหม่เริ่มต้นลงทุน ควรไปที่กองทุนรวมก่อนนะจ๊ะ เหมาะสำหรับคนที่ยังไม่มีประสบการณ์ในการลงทุน ใช้เงินน้อยหลักร้อยหลักพันก็เริ่มต้นได้ แล้วยังมีผู้จัดการกองทุนที่ผ่านด่านการสอบใบอนุญาตต่างๆมาช่วยดูแลเงินให้เราด้วย มีตัวอย่างกองทุนรวมน่าสนใจอะไรบ้าง ดูได้ที่ภาพนี้เลยจ้า ส่วนแหล่งข้อมูลและวิธีอ่านตารางเหล่านี้จะแชร์ลิงค์ไว้ข้างล่างนะจ๊ะ


กองทุนรวมความเสี่ยงปานกลาง

"ให้เงินทำงาน" เงินช่วยเราทำงานกี่วัน?


กองทุนรวมความเสี่ยงสูง

"ให้เงินทำงาน" เงินช่วยเราทำงานกี่วัน?


การเลือกกองทุนรวมอะไรนั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับว่า เรายอมรับความเสี่ยงได้ระดับไหน ความรู้เบื้องต้น คือ  “ความเสี่ยงต่ำ ผลตอบแทนต่ำ ถ้าความเสี่ยงสูง ผลตอบแทนสูง” แต่คนที่มาชวนไปลงทุนแล้วบอกว่า การลงนี้ความเสี่ยงต่ำมากหรือไม่มีความเสี่ยง แต่ได้รับผลตอบแทนสูงปรี๊ด แบบนี้ไม่มีจริงในโลกการลงทุนนะจ๊ะ มันมีเฉพาะแชร์ลูกโซ่เท่านั้นที่ทำได้ #ลุกสุดท้ายจ่ายรอบวง


ข้อควรระวัง!!! เรื่องการให้เงินทำงาน


คำพูดยอดฮิต....

 “ถ้าให้เงินทำงานแบบนี้แล้ว เราจะสบายและไม่ต้องทำงานไปตลอดชีวิต” 

“ให้เงินทำงานแล้วเราจะมีอิสรภาพทางการเงิน ไปท่องเที่ยวที่ไหนก็ได้โดยไม่ต้องทำงานอีกเลย” 

“ภายในเวลาไม่กี่เดือนหลังจากให้เงินทำงาน เราจะมีเงินซื้อของทุกอย่างที่อยากได้ เช่น บ้าน รถยนต์”


โดยนำผลตอบแทนจากการลงทุนที่สูงเกินความจริงมาล่อใจ รวมทั้งการแชร์ประสบการณ์จากคนก่อนหน้านี้ที่เคยลงทุนว่าร่ำรวยขึ้นรวดเร็วได้อย่างไร จนกระทั่งเราเคลิบเคลิ้มแล้วเริ่มลงทุน บางคนกู้หนี้ยืมเงินคนอื่น ขายบ้าน ขายรถเพื่อนำเงินมาลงทุน เพราะคิดว่าการลงทุนครั้งนี้จะทำให้เราสบายไปชั่วชีวิต 


ช้าก่อนที่รัก!! เรียกสติกลับมาแล้วดูที่พื้นฐานความจริงก่อนจะเชื่อแล้วลงทุนตามเขาไปจนหมดเนื้อหมดตัว อภินิหารเงินออมได้รวบรวมเรื่องพื้นฐานที่เราควรรู้ก่อนตัดสินใจลงทุนไว้ในบทความนี้แล้ว เพื่อให้คนอ่านนำไปปรับใช้กับเรื่องของตัวเองได้นะจ๊ะ


แนวคิดการให้เงินทำงานที่ควรระวัง...  


เขาบอกว่า การลงทุนนี้ไม่มีความเสี่ยง ได้ผลตอบแทนสูง

1. ความรู้พื้นฐาน คือ 

  • การลงทุนทุกอย่างบนโลกนี้มีความเสี่ยง อาจจะเสี่ยงน้อยหรือเสี่ยงมาก 

  • การลงทุนความเสี่ยงต่ำ ผลตอบแทนต่ำ และ การลงทุนความเสี่ยงสูง ผลตอบแทนสูง แต่มันไม่มีการลงทุนที่ไร้ความเสี่ยงและได้ผลตอบแทนสูง


เขาบอกว่า ลงทุนไม่กี่วันก็ได้รับผลตอบแทนอย่างรวดเร็ว เช่น สัปดาห์ละ 10% หรือ 40% ต่อเดือน รับประกันว่าได้แบบนี้เป๊ะๆตลอดไป

2. ความรู้พื้นฐาน คือ 

  • การลงทุนมีความไม่แน่นอนและไม่รับประกันผลตอบแทน เพราะมีความผันผวน ราคาขึ้นๆลงๆ


เขาบอกว่า สมัครง่ายไม่ต้องใช้หลักฐานยุ่งยาก แค่ลงเงินเท่านั้นก็เริ่มลงทุนได้เลย ข้อมูลทุกอย่างดูได้ตลอดเวลาในระบบออนไลน์

3. ความรู้พื้นฐาน คือ 

  • การเปิดบัญชีเพื่อการลงทุน จะต้องกรอกข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ ที่อยู่ในการส่งเอกสาร ที่อยู่ปัจจุบัน เบอร์โทร แบบทดสอบความเสี่ยง ฯลฯ จากนั้นก็จะส่งไปรษณีย์หลักฐานการเปิดบัญชีไปที่บ้าน เพื่อยืนยันว่าบัญชีนี้เป็นชื่อของเรา (ถ้าเป็นแชร์ลูกโซ่จะไม่มีขั้นตอนนี้)

  • เราลงทะเบียนซื้อขายและดูข้อมูลการลงทุนได้แบบออนไลน์ ทุกๆเดือนก็จะมีการอัพเดทพอร์ตการลงทุนล่าสุด ส่งมาในอีเมล์หรือทางไปรษณีย์ (ถ้าเป็นแชร์ลูกโซ่จะมีข้อมูลในออนไลน์เท่านั้น จะปิดเว็บหนีเมื่อไหร่ก็ได้) 


เขาบอกว่า ผู้บริหารของบริษัท(แก๊งแชร์ลูกโซ่) เป็นคนที่เก่งมาก พูดจาน่าเชื่อถือ ฟังแล้วศรัทธากับความคิดและวิสัยทัศน์ที่ล้ำสมัย คิดว่าน่าจะทำให้บริษัทเติบโตได้อย่างรวดเร็ว เราเชื่อมั่นในคำพูดของผู้บริหารจึงเริ่มลงทุน

4. ความรู้พื้นฐาน คือ 

  • ผู้บริหารท่านนี้ทำตามได้อย่างที่พูดหรือไม่ หลักฐานอยู่ที่ “งบการเงิน” เพื่อดูว่าผลประกอบการช่วงที่ผ่านมาเป็นอย่างไร กำไรหรือขาดทุนเท่าไหร่ ตอนนี้ลงทุนอะไรบ้าง

  • เราสามารถโหลดดูได้ฟรีทางอินเตอร์เน็ตที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ถ้าไม่มีในนี้ก็ขอจากหัวหน้าทีมที่ชักชวนไปลงทุน เขาน่าจะหาให้เราได้ แต่ถ้าสุดท้ายแล้วไม่มีงบการเงินให้เราอ่านจริงๆก็ต้องคิดเองแล้วว่าบริษัทนี้ไม่มีการจดตัวเลขรายได้ กำไรขาดทุนไว้เลยแบบนี้ยังน่าลงทุนอยู่มั๊ย


เขาบอกว่า ลงทุนทองคำได้ผลตอบแทนดี แค่เอาเงินมาลงทุนซื้อทองคำ (แต่ไม่ได้ทองคำจริง) แล้วอีก 10 - 15 วัน จะได้รับเงินปันผลกลับไป

5. ความรู้พื้นฐาน คือ 

  • การลงทุนทองคำเป็นแบบซื้อมาขายไป มีเฉพาะกำไรจากการขาย

  • ทองคำไม่มีเงินปันผล เพราะทองคำงอกขึ้นเองไม่ได้ แล้วเขานำเงินปันผลที่ไหนมาจ่ายให้เราล่ะ

  • ปัจจุบันราคาทองไม่ค่อยขยับไปไหนอยู่ที่ราคา 19,000 - 20,000 บาท ทำกำไรยากมาก


ราคาทองคำปี 2561 

"ให้เงินทำงาน" เงินช่วยเราทำงานกี่วัน?

ที่มา : https://www.goldtraders.or.th/AvgPriceList.aspx


ทั้งหมดนี้เป็นพฤติกรรมบางส่วนที่น่าสงสัยคล้ายว่าจะเป็นแชร์ลูกโซ่ที่ทำให้เงินเก็บและทรัพย์สินของเราหายวับไปกับตา แต่ถ้าเราใช้ความรู้นำความโลภ เงินของเราก็จะปลอดภัย ดังนั้น ก่อนจะไปลงทุนอะไรก็ต้องตรวจสอบให้ดีก่อน ตัวช่วยแรกของเรา คือ กลต. เป็นหน่วยงานที่ควบคุมดูแลทางด้านหลักทรัพย์ต่างๆ 


ตรวจสอบได้ 2 แบบ คือ คนและบริษัท ถ้าค้นดูแล้วไม่มีชื่อในนี้ก็ตัวใครตัวมันนะจ๊ะ

  • ตรวสอบคน : คนที่ชวนเราไปลงทุนจะต้องสอบได้รับใบอนุญาตจาก กลต. เท่านั้น  พิมพ์ชื่อแล้วค้นหาได้ทันที 

  •  ตรวจสอบบริษัท เช่น การระดมทุน การลงทุนทองคำ การซื้อขายสัญญาล่วงหน้า Forex(การเทรดค่าเงิน) กองทุนรวมแปลกๆ เราสามารถค้นหาชื่อบริษัทที่ได้รับใบอนุญาตในเว็บนี้ได้เช่นกัน 


"ให้เงินทำงาน" เงินช่วยเราทำงานกี่วัน?

ตรวจสอบได้ที่ http://market.sec.or.th/public/orap/companyprofile01.aspx?lang=th



สรุปว่า…

เราทำงานมีรายได้แล้วแบ่งเงินบางส่วนไปลงทุน เพื่อให้เงินทำงาน แต่จะให้ทำงานที่ไหนนั้นก็ต้องศึกษาข้อมูลให้เข้าใจก่อนลงทุน โดยเลือกให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่เรายอมรับได้ สุดท้ายระมัดระวังจิตใจของตัวเอง ไม่ให้เคลิบเคลิ้มไปกับผลตอบแทนที่สูงลิบลิ่วจากแก๊งมิจฉาชีพเพื่อให้รักษาเงินออมของเราปลอดภัยนะจ๊ะ ^^





ข้อมูลเพิ่มเติม