จากกองทุนที่เปิดใหม่ในช่วงนี้ จะเห็นได้ว่าส่วนใหญ่แล้วจะเป็นกองทุนตราสารหนี้แบบเปิดที่กำหนดระยะเวลาซะเป็นส่วนใหญ่ครับ

*ขอบคุณข้อมูลกองทุนเปิดใหม่ (IPO) จาก หลักทรัพย์ ฟิลลิป(ประเทศไทย) จำกัด(มหาชน)นะครับ

แต่จะมีกองทุนเปิดอยู่  1 กองทุนที่น่าสนใจ คือ กองทุน กองทุนเปิดกรุงศรีโกลบอลเฮลธ์แคร์อิควิตีปั้นผล
(Krungsri Global Healthcare Equity Dividend Fund) (ชื่อย่อ: KF-HEALTHD)

ซึ่งที่ผมว่ากองทุนนี้เป็นกองทุนที่น่าสนใจนั้น
เนื่องจากในยุคนี้ที่เป็นยุคของการดูแลสุขภาพ และเป็นยุคที่ทุกประเทศทั่วโลกนั้น
เริ่มเป็นสังคมผู้สูงอายุกันเกือบหมดแล้วครับ

และปัจจัยบวกที่ดีของกองทุนต่างประเทศตอนนี้คือ เศรษฐกิจและตลาดหุ้นของโลกที่ดีขึ้นครับ และความต้องการของผลิตภัณฑ์การแพทย์ที่เพิ่มมากขึ้น

เพราะจะเห็นได้ว่ารัฐบาลแต่ละประเทศให้ความสำคัญมาก ๆ กับเรื่องสุขภาพครับ ดังนั้นในช่วงปีที่ผ่านมากองทุนประเภทนี้จะทำผลตอบแทนได้ดี

และผมคาดการณ์ว่าน่าจะดีขึ้นไปได้อีกครับ เนื่องจากสภาพสังคมในปัจจุบันที่โรคร้ายต่าง ๆ มีให้เห็นมากขึ้นด้วย

แต่กองทุนเหล่านี้ก็ต้องระวังเรื่องความเสี่ยงต่าง ๆ ครับ เช่น ลิขสิทธิ์ยา เนื่องจากยาบางตัวที่ออกมาใหม่ จะมีลิขสิทธิ์ครับ ถ้ากองทุนได้เลือกหุ้นที่ดี และประจวบเหมาะกับเป็นบริษัทยาที่มีลิขสิทธิ์ในการผลิตยาอยู่ละก็ ผลตอบแทนก็จะมีแนวโน้มดีมากครับ แต่ในทางกลับกัน ถ้าเลือกไม่ดีละก็ อันนี้จะมีผลต่อผลตอบแทนที่ได้ในทางลบเช่นกันครับ หรือ ยาที่มีลิขสิทธิ์ แต่กำลังจะหมดอายุของลิขสิทธิ์ลง ก็อาจจะมีผลทำให้บริษัทอื่น ๆ สามารถผลิตออกมาได้เหมือนกันครับ

และความเสี่ยงเรื่องของ การต่อรองราคาในระบบประกันสุขภาพและสาธารณสุขก็จะมีผลเช่นกัน ซึ่งคล้าย ๆ กับบ้านเราในตอนนี้ครับ คือบริษัทจะขายยาให้กับโรงพยาบาลรัฐได้จะต้องมียาอยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติ ถึงจะได้สิทธิ์ในการเบิกจ่ายก่อน ส่วนยาอื่น ๆ อาจจะต้องคิว หรือ แพทย์เป็นผู้เลือกใช้เองครับ อันนี้ก็จะมีผลกระทบต่อหุ้นบริษัทยาที่ไม่สามารถขายยาเข้าไปที่โรงพยาบาลของรัฐได้ครับ

คราวนี้เรามาดู กองทุนที่ไปลงทุนในหุ้นที่เกี่ยวกับ healthcare ในต่างประเทศ

ซึ่งในประเทศไทยเรามีอยู่ไม่กี่กองทุนครับ เช่น

กองทุน B-CARE ของ บัวหลวง 

กองทุน PHATRA GHC ของ ภัทร

และกองทุนที่กำลังจะเปิดใหม่ KF-HEALTHD ของ กรุงศรีนั่นเองครับ

ซึ่งกองทุนแต่ละกองทุนก็มีข้อแตกต่างกันไปครับ

เช่น กองทุนของบัวหลวงไม่ได้มีการปันผล ส่วนกองทุน ของภัทร และ กรุงศรีนั้นจะมีเงินปันผลด้วยครับ และข้อแตกต่างของกองทุนปันผลและ ไม่ปันผลนั้นผมได้เขียนไว้ในบทความคราวก่อนแล้วครับ กดที่นี่ ลองเปรียบเทียบกันได้ครับ ว่าชอบแบบไหนครับ

ส่วนผลการดำเนินงานนั้น ผมได้หามาคราว ๆ แล้วจากกองทุนแม่ หรือ Master Fund ที่กองทุนเหล่านี้ได้ไปลงทุนด้วยครับ ( Feeder Fund )ท่านไหนงง ว่ากองทุนแม่ หรือ Master Fund คืออะไร กดที่นี่ครับ

หุ้นที่กองทุนไปลงทุนด้วยนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นกองทุนที่เกี่ยวกับบริษัทที่ผลิตยาเสียเป็นส่วนใหญ่ และ ก็เป็นพวก Biotechnology ครับ

จากกราฟจะเห็นได้ว่า กองทุน Master Fund ของ B-CARE ( บัวหลวง )

และ กองทุน Master Fund ของ  KF-HEALTHD  (กรุงศรี) ทั้ง 2 กองทุนนี้ ให้ผลตอบแทนที่ใกล้เคียงกันครับ เรียกได้ว่าน่าสนใจทั้งคู่เลยครับ

ส่วนกองทุน B-CARE ของ บัวหลวง  กับ กองทุน PHATRA GHC ของ ภัทร

ก็ให้ผลตอบแทนที่ใกล้เคียงกันเช่นกันครับ
(อย่าตกใจนะครับ ที่ NAV ของ PHATRA GHC ตกวูบไป นั่นเป็นเพราะว่าจ่ายเงินปันผลครับ)

แต่บทความนี้ผมไม่ได้จะผ่ากองทุนให้ดูนะครับ 55+ เพียงแค่จะแนะนำกองทุนใหม่ ๆ ให้ได้รู้จักกันครับ

แต่ไม่ต้องเสียดายครับ เดี๋ยวคราวหน้าที่เราพบกัน ผมจะเปรียบเทียบไอ้เจ้า 3 กองทุนนี้ให้แน่นอนครับ ^_^

ส่วนวันนี้ขอลาไปก่อนสวัสดีคร้าบบบ