สวัสดีครับ กลับมาพบกับผม @TAXBugnoms เจ้าเก่าเจ้าเดิม โดยในเดือนมีนาคมปี 2560 นี้ผมจะรับหน้าที่เพิ่มเติมสรุปประเด็นเด็ดจากรายการ “กองทุนไหนดี Weekly” รายการที่จะทำให้คุณรู้ว่ากองทุนไหนดีและเหมาะสมกับตัวคุณให้ฟังกันทุกๆสัปดาห์ครับผม

ใครที่สนใจพูดคุยกันเรื่องกองทุนไหนดี ติดตามข่าวสารและแนวทางการลงทุน พร้อมรายการประจำทุกสัปดาห์ ผมแนะนำให้เข้าร่วมกลุ่ม กองทุนไหนดี ? ห้องแลกเปลี่ยนประสบการณ์เรื่องกองทุนรวมจาก aomMONEY ไว้ล่วงหน้าเลยครับ รับรองปีนี้มีอะไรดีๆให้รับชมแน่นอนครับผม

เอาล่ะครับ... สำหรับวันนี้เป็นประเด็นเด็ดจากการไลฟ์ในตอนที่ 2 เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2560 ที่ผ่านมา ผมขอสรุปออกเป็น 10 ประเด็นที่น่าสนใจ เพื่อให้เข้าใจง่ายสำหรับการลงทุนใน “กองทุนไหนดี” สำหรับปี 2017 ดังนี้ครับ 

กองทุนที่น่าสนใจปีนี้เป็นยังไง ?

1. ตอนนี้ทุกคนจับจ้องไปที่สหรัฐอเมริกาเป็นหลักครับ ซึ่งผลกระทบทั้งทางด้านนโยบายและเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจะส่งผลกระทบต่อตลาดการลงทุนทั่วโลกครับ ซึ่งมีหลักๆ อยู่ 3 ประเด็น คือ

ใช้มาตรการกีดกันทางการค้า เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ โดยอาจจะใช้วิธีการเพิ่มกำแพงภาษีนำเข้าต่างๆ โดยมุมมองนี้อาจจะเป็นบวกบางส่วนต่อเศรษฐกิจไทย

กระตุ้นด้วยการลดภาษีในประเทศ เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างการบริโภคมากขึ้น บริษัทต่างๆมีผลประกอบการดีขึ้น

ผ่อนคลายกฎระเบียบในการทำธุรกิจบางประเภท ยกตัวอย่างเช่น การขึ้นทะเบียนยา อาจจะมีการลดขั้นตอนบางอย่างลง เพื่อให้ขั้นตอนต่างๆรวดเร็วขึ้น

2. การขึ้นดอกเบี้ยมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจ โดยคาดการณ์ว่าจะขึ้น แต่ต้องดูว่าจะขึ้นกี่ครั้งในปีนี้  ซึงผลของการขึ้นดอกเบียจะทำให้ดัชนีตลาดหุ้นของสหรัฐเพิ่มขึ้นตาม เงินเฟ้อเล็กๆจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ดี ซึ่งคาดการณ์ว่าแนวโน้มของตลาดหุ้นไทย อาจจะไปในทิศทางเดียวกัน

3. สำหรับคนที่มีพอร์ทลงทุนในตราสารหนี้ โดยรวมควรมีติดพอร์ทไว้บ้าง เพื่อกระจายความเสี่ยง แนะนำว่ายังไม่ควรทิ้งตราสารหนี้ แต่ให้ดูเรื่อง Portfolio Duration ประกอบด้วยว่ากองทุนนั้นๆมีระยะเวลาการถือครองตราสารหนี้นานแค่ไหน เพื่อให้สอดคล้องกับช่วงเวลาในการลงทุนของเรา

4. จากผลวิจัยของ JP Morgan : Guide to the market ทำให้เรารู้แต่ละกลุ่มอุตสาหกรรมที่น่าลงทุน คือ Healthcare Technology และ REIT (อสังหาริมทรัพย์) ซึ่งเป็นตลาดที่น่าสนใจของทางฝั่งสหรัฐอเมริกา

Technology กับ Healthcare ยังน่าสนใจอยู่ไหม?

5. เริ่มจากที่ Healthcare ก่อน สิ่งที่ต้องรู้คือ Healthcare ไม่ได้จำกัดแค่ตลาดโรงพยาบาล มีทั้งเครื่องมือแพทย์ และเทคโนโลยีทางการแพทย์ต่างๆ การวิจัยยา ฯลฯ

ถ้าหากใครที่ลงตลาด Healthcare ไว้ จะเห็นราคาค่อนข้างลงในช่วงที่ผ่านมา แต่ถ้าหากลองมองไปที่หุ้นกลุ่มนี้จะเห็นว่ากำไรต่างๆ ยังดีอยู่รวมถึงอัตราส่วนทางการเงินต่างๆ ROA ROE ก็ยังดูไม่ได้แย่ เมื่อเปรียบเทียบกับสิ่งที่สะท้อนในราคา ดังนั้นมองกลับกันอาจจะเป็นโอกาสในการลงทุนของตลาด Healthcare ก็ได้เช่นเดียวกันครับ

อย่าลืมว่า ถึงแม้ Healthcare จะเป็น Mega Trend ที่จะมาก็ตาม แต่ต้องใช้ระยะเวลานานเหมือนกัน ทั้งสังคมผู้สูงอายุที่กำลังจะมา รวมถึงผลการวิจัยต่างๆ ที่กำลังตามมา อาจจะต้องใช้ระยะเวลาในการลงทุน ดังนั้นควรมองว่ามันเป็นการลงทุนระยะยาว

6. ส่วนทางฝั่ง Technology จะเห็นว่าผลประกอบการเริ่มดีขึ้นมาเรื่อยๆ (เช่น Amazon, Alphabet, Tencent) ซึงเกิดเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้เราในการใช้ชีวิตมากขึ้น ดังนั้นมองว่ามีแนวโน้มที่จะเติบโตเช่นเดียวกัน

7. อีกฝั่งหนึ่งที่น่าสนใจนอกจาก Healthcare และ Technology คือตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market) โดยมองว่าตลาดหุ้นนั้นยังมีมูลค่าที่ควรลงทุนอยู่ ซึ่งการบริโภคของคนในตลาดเกิดใหม่จะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงคนกลุ่มชนชั้นกลางที่มีฐานะมากขึ้นจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งอาจจะเติบโตแบบก้าวกระโดด ยกตัวอย่างเช่น จีน อินเดีย ซึ่งจะทำให้มีโอกาสเติบโตที่ดีขึ้นคัรบ

8. อย่างไรก็ตามอย่าลืมเรื่องระยะเวลาว่าต้องเป็นการลงทุนระยะยาว รวมถึงถ้าสามารถดูข้อมูล FundFlow หรือกราฟต่างๆประกอบ อาจจะช่วยได้ให้ตัดสินใจลงทุนได้ง่ายขึ้น

9. สำหรับตัวอย่างกองทุน Healthcare และ Technology ที่น่าสนใจของบลจ.ต่างๆ ซึ่งมีนโยบายการลงทุนที่แตกต่างกันไป ใน Master Fund  (ลงทุนในกองทุนหลักกองทุนเดียว) หรือ Fund of Funds (ลงทุนในกองทุนรวมหลายๆกองทุน) ซึ่งลองศึกษาข้อมูลได้จากตารางด้านล่างนี้ได้เลยครับ 

ส่วนคำถามที่ชอบถามกันว่า กองทุนปันผล กับ ไม่ปันผล นั้นเอาแบบไหนดีกว่ากัน สิ่งที่ต้องดูคือ อยากได้กระแสเงินสดจากการลงทุนหรือเปล่า และรับได้ไหมกับการต้องเสียภาษี 10% จากเงินปันผล ซึ่งถ้าหากเหมาะสมควรจะเลือกกองทุนปันผล แต่ถ้าหากไม่ต้องการแล้วก็เลือกกองทุนไม่ปันผลก็จะมีโอกาสได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนมากกว่า

ที่เหลือคือกองทุน REIT ที่น่าสนใจนั้น ขอยกยอดไปพูดในโอกาสหน้าจะดีกว่าครับ เนื่องจากคราวนี้เวลารายการไม่พอ ยังไงอย่าลืมรอติดตามชมได้ทุกวันอังคาร หนึ่งทุ่มตรงทุกสัปดาห์นะครับ

10. ถ้าหาก อยากได้ผลตอบแทนที่ดีขึ้น แต่ผันผวนน้อยลง สิ่งสำคัญที่ควรทำคือการจัดพอร์ทการลงทุนให้มีส่วนผสมที่เหมาะสมและลงทุนในกองทุนที่เรามีความรู้ความเข้าใจในการลงทุน ซึ่งแนะนำให้ลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมอย่าง Healthcare และ Technology ประมาณ 5-10% ของพอร์ท เพื่อกระจายความเสี่ยงในการลงทุนอย่างเหมาะสมครับ (เรื่องนี้จะมีการคุยอย่างละเอียดในเทปถัด ๆ ไปครับผม)

และทั้งหมดนี้ก็คือ 10 ข้อควรรู้สำหรับคำถามที่ว่า ปีนี้ควรลงทุนกองทุนกลุ่มไหนดี? หวังว่าจะมองเห็นภาพรวมและจัดการการลงทุนของตัวเองได้อย่างเหมาะสมมากยิ่งขึ้นครับ