เมอรี่คริสต์มาสคร้าบบบทุกคน! โค้งสุดท้ายปลายปีแบบนี้ ใครกำลังมองหาประกันชีวิตที่เหมาะสมมาใช้เพื่อตอบโจทย์เรื่องการบริหารความเสี่ยง แถมยังได้สิทธิ์ในการลดหย่อนภาษีด้วย ถ้าได้ศึกษาแนวทางการเลือกซื้อประกันที่เหมาะสม และให้คุ้มค่ามากที่สุด ตามโพสที่ผมเคยเขียนไป

(แนวทางการเลือกซื้อประกันชีวิต อ่าน ที่นี่
แนวคิดเรื่องการซื้อประกันชีวิตเพื่อลดหย่อนภาษี อ่าน ที่นี่) จนเก็ทไอเดียหมดแล้ว

แต่ยังอาจจะเกิดคำถามสุดท้ายขึ้นว่า

"แล้วฉันจะไปซื้อกับใครดี ถึงจะไว้ใจได้มากที่สุด??" 

นั่นน่ะสิ จะซื้อกับใครถึงจะปลอดภัยสุดล่ะ? รู้ๆกันอยู่ว่าทุกวันนี้คนเราก็รู้หน้าไม่รู้ใจ ไว้ใจใครไม่ค่อยจะได้ ยิ่งในวงการประกันยิ่งยาก เจอแต่พวกมาหวังยอดหวังผลประโยชน์ ทริคกี้ พูดไม่หมด หมกเม็ดข้อมูล ไม่ก็ขายเสร็จแล้วก็สะบัดตูดหายต๋อม ไม่รับผิดชอบ จนมีดราม่าเยอะแยะมากมาย แล้วฉันจะวางใจใครได้

ก่อนอื่น เรามาลองดูกันดีกว่าว่า ปัจจุบันช่องทางการซื้อประกันชีวิต มีช่องทางไหนบ้าง และแต่ละช่องทางมีข้อดีข้อเสียอะไร ก่อนที่เราจะตัดสินใจ

1. ผ่านตัวแทนประกัน

ข้อดี

- ถ้าได้ตัวแทนที่ดี ก็จะมีคนดูแลเรื่องประกันไปตลอด ไว้คอยสอบถามเอาความรู้ คอยบริการเวลามีเรื่องต้องเคลม ให้คำแนะนำเรื่องประกันที่เหมาะสมกับเราได้
- มีสินค้าประกันส่วนบุคคลให้เลือกทุกประเภท ทั้งประกันชีวิต(ทุกแบบ) ประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุ และประกันกลุ่ม

ข้อเสีย

- ถ้าไปหลงเชื่อตัวแทนที่ไม่ดี ก็อาจจะทำประกันไม่เหมาะสม (จ่ายเบี้ยมากไป คุ้มครองน้อยไป จัดให้ไม่ตรงความจำเป็นของชีวิต) ทำให้กระทบการเงินด้านอื่นๆได้
- ตัวแทนอาจจะไม่มีความรับผิดชอบ ขายเสร็จได้ค่าคอมฯแล้วหายต๋อม 
- แนะนำประกันได้แค่เจ้าเดียว คือเฉพาะบริษัทที่ตัวเองสังกัด ซึ่งประกันบางตัวอาจจะสู้เจ้าอื่นไม่ได้

คำแนะนำ

ยังคงเป็นช่องทางที่ดี แต่ต้องใช้ความระมัดระวังค่อนข้างสูง

2. ผ่านธนาคาร

ข้อดี

- ซื้อง่าย สะดวก ตามสาขาธนาคารทั่วไป

ข้อเสีย

- พนักงานขายเป็นพนักงานแบงค์ ไม่ใช่ตัวแทน จึงแทบไม่มีความรู้เรื่องประกันชีวิตหรือหลักการคุ้มครองความเสี่ยง รวมถึงเงื่อนไขต่างๆในการทำประกันเลย (มีหน้าที่อธิบายแบบตามโบรชัวร์อย่างเดียว)
- ประกันที่ขายส่วนใหญ่มักเป็นแบบสะสมทรัพย์ ซึ่งอาจจะไม่ตอบโจทย์เรื่องความคุ้มครองชีวิตหรือด้านอื่นๆ (คือจริงๆมีทุกแบบ แต่พนักงานขายเป็นแต่แบบสะสมทรัพย์)
- ไม่มีที่ปรึกษาหรือคนที่คอยบริการเรื่องประกันเป็นการส่วนตัวเหมือนตัวแทน เพราะคนขายเป็นพนักงานแบงค์ ตามไปดูแลส่วนตัวไม่ได้ (นั่นคือสาเหตุว่าทำไมถึงเน้นขายสะสมทรัพย์ เพราะไม่ต้องดูแล)

คำแนะนำ

เหมาะสำหรับเฉพาะคนที่ตั้งใจเดินไปซื้อแบบสะสมทรัพย์ด้วยตัวเอง

3. ผ่าน tele sale

ข้อดี

- ซื้อง่าย แค่บอกข้อมูลส่วนตัว หรือแจ้งแบบประกันที่ต้องการซื้อ ก็ซื้อได้เลย

ข้อเสีย

- ก็เพราะมันง่ายไปนี่แหละ มันถึงเสี่ยง เพราะอาจได้รับข้อมูลไม่ครบถ้วน ทำให้เกิดความไม่เข้าใจ หรือเข้าใจผิด
- พนักงาน tele sale ไม่ได้เป็นผู้ที่รู้จริงรู้ลึกในเรื่องประกันชีวิต และอาจบอกข้อมูลไม่ครบถ้วน
- ไม่มีคนคอยดูแลและบริการหรือให้คำปรึกษาเรื่องประกันเป็นการส่วนตัว
- ประกันชีวิตบางประเภท ไม่สามารถขายผ่าน tele sale ได้ (และบางประเภทขายเฉพาะ tele sale เช่น ประกันชีวิตของผู้สูงวัย)

คำแนะนำ

เสี่ยงเกินไป ไม่เหมาะกับการซื้อประกันชีวิตในเชิงลึก

4. ผ่านหน้าเว็บไซต์ของบริษัทประกันโดยตรง

ข้อดี

- Non-Bias ไม่มีอคติในการแนะนำประกัน (เพราะเว็บไซต์ไม่ได้ค่าคอมฯ อิอิ)
- ง่าย สะดวก และมีโปรแกรมช่วยคำนวณตัวเลขคร่าวๆ + ช่วยจัดแบบประกันที่เหมาะกับความต้องการได้ระดับหนึ่ง
- ซื้อได้หลายบริษัท สามารถเปรียบเทียบด้วยตัวเองได้ จะซื้อประกันสุขภาพจากบ.A ประกันสะสมทรัพย์จากบ.B ก็ได้

ข้อเสีย

- ประกันบางประเภทซื้อผ่านเว็บไซต์ไม่ได้ (เพราะต้องการข้อมูลเชิงลึก เช่นแบบควบการลงทุน)
- ต้องศึกษาหาข้อมูล ศึกษาเงื่อนไขต่างๆด้วยตัวเอง
- ไม่มีคนคอยดูแลและบริการหรือให้คำปรึกษาเรื่องประกันเป็นการส่วนตัว

คำแนะนำ

ถ้าคิดว่าตัวเองมีความรู้เรื่องประกันดีในระดับหนึ่งก็คลิกเข้าไปซื้อเองได้เลย สบายใจดี

5. ผ่านบริษัทนายหน้าประกันชีวิต

(note : นายหน้าต่างจากตัวแทนคือ ตัวแทน จะทำหน้าที่เสมือนเป็นบ.ประกัน มีความรู้เรื่องประกันในเชิงลึก วางแผน จัดแบบประกันให้ได้ แต่ นายหน้า ส่วนใหญ่จะเหมือนเป็นแค่คนกลาง ในการนำสินค้าประกันของแต่ละที่ มาให้ลูกค้าได้เลือกซื้อเองเฉยๆ)

ข้อดี

- มีประกันให้เลือกหลายที่ จึงปราศจากอคติที่จะแนะนำเฉพาะเจ้าใดเจ้าหนึ่ง
- มีประกันให้เลือกทุกแบบ ไม่เฉพาะแค่ประกันชีวิต
- สามารถแนะนำประกันตัวเด่นๆของแต่เจ้าได้
- บ.นายหน้าบางแห่งก็อาจจะบริการเวลามีเคลมให้เหมือนตัวแทน

ข้อเสีย

- ส่วนใหญ่บ.นายหน้าจะขาดความรู้และหลักการในการวางแผนประกันชีวิตในเชิงลึก
- หายาก มีน้อย คนส่วนใหญ่ไม่รู้ช่องทาง

คำแนะนำ

ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ แต่ช่องทางยังน้อยอยู่

6. ผ่านที่ปรึกษาทางการเงิน/นักวางแผนทางการเงินอิสระ

ข้อดี

- ได้ประกันที่ตอบโจทย์ ตรงตามความเหมาะสมกับชีวิตเราจริงๆ และมีการมองภาพรวมทางการเงินไว้ทุกด้าน ทำให้เป็นการบริหารเงินที่มีประสิทธิภาพกว่าช่องทางอื่นๆ
- อาจจะมีความเป็นกลางมากกว่าตัวแทนเพราะต้องวางแผนเพื่อตอบโจทย์เป้าหมายลูกค้าเป็นหลัก
- มีคนดูแลในระยะยาว เช่นเดียวกับตัวแทน แต่ได้รับการดูแลเรื่องการเงินในด้านอื่นๆด้วย เช่นด้านการลงทุน การบริหารเงินต่างๆ

ข้อเสีย

- จริงๆไม่เชิงเป็นข้อเสีย แต่เป็นข้อพิจารณาหนึ่งมากกว่า คืออาจจะมีการเรียกเก็บค่าที่ปรึกษาหรือค่าทำแผนการเงินด้วย
- หาที่ปรึกษา/นักวางแผน ทางการเงินมืออาชีพจริงๆได้ยาก ส่วนใหญ่ยัง