ผ่านวันที่ 1 เมษายน มาไม่นาน แต่เชื่อว่าหลายคนคงได้เห็นกองทุน SSF ประเภทใหม่ออกมาแล้วใช่ไหมครับ นั่นคือ SSF EXTRA ซึ่งเป็นการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีพิเศษในช่วงเวลานี้

สำหรับนักลงทุนไทยที่ต้องการลงทุนในกองทุนรวมหุ้น พร้อมกับลดหย่อนภาษีไปด้วยกัน เอาล่ะครับ เรามาเช็คเงื่อนไขกันอีกสักทีหนึ่งดีกว่า ว่ากองทุน SSF EXTRA ประเภทนี้มีเงื่อนไขแบบไหน เหมาะกับใครบ้าง

• ซื้อได้สูงสุด 200,000 บาท โดยไม่มีเงื่อนไข % ของรายได้

• ต้องถือครองไว้ไม่น้อยกว่า 10 ปี

• เป็นกองทุนที่ลงทุนในหุ้นไทยไม่น้อยกว่า 65% ของสินทรัพย์สุทธิ

• ซื้อได้ตั้งแต่ 1 เม.ย. – 30 มิ.ย. 2563

ถ้าลองมองเงื่อนไขนี้จะเห็นว่ามี 2 ปัจจัยที่สำคัญต่อผลตอบแทนที่เราได้รับ นั่นคือ ลงทุนในหุ้นไทยไม่น้อยกว่า 65% และต้องลงทุนภายในช่วงเวลาที่จำกัด คือ 1 เมษายน – 30 มิถุนายน 2563 

นั่นแปลว่าเราต้องลงทุนในกองทุนที่มีนโยบายการบริหารจัดการที่ดี เชื่อถือได้ รวมถึงมีการคัดเลือกหุ้นอย่างเหมาะสมในช่วงเวลานี้ เพราะเป็นช่วงเวลาที่จำกัด ซื้อแล้วต้องถือครองไปเลย 10 ปีเต็ม แล้วค่อยมาเห็นกันอีกที เรียกได้ว่าเป็นการลงทุนระยะยาวอย่างแท้จริง

ไหนๆ เมื่อพูดถึงการเลือกหุ้นสำหรับกองทุน SSF EXTRA แล้ว ก็ขอมาแนะนำกองทุนที่น่าสนใจกันสักหน่อย เพราะตอนนี้ทาง บลจ.กสิกรไทย เขากำลังเปิดตัวกองทุนใหม่ K SUPERSTAR SSFX หรือ กองทุนเปิดเค ซูเปอร์สตาร์ เพื่อการออมพิเศษ

โดยกองทุนนี้เลือกใช้ผู้จัดการกองทุนทีมเดียวกันกับ K-STAR-A(R) ที่ติดอันดับ 5 ดาวของ Morningstar (ข้อมูล ณ วันที่ 23 มีนาคม 2563) กันเลยทีเดียว และกสิกรไทยเองก็เพิ่งคว้ารางวัลบลจ.ยอดเยี่ยมประเภทหุ้นไทย จาก Morningstar Awards 2020 มาด้วย

โดยกองทุน K SUPERSTAR SSFX มีนโยบายลงทุนเหมือนกันกับ K-STAR โดยเน้นลงทุนในหุ้นไทยชั้นนำพื้นฐานดีที่มีศักยภาพ มีกระแสเงินสดที่มั่นคง และสามารถเติบโตได้แม้ในสภาวะที่เศรษฐกิจชะลอตัว ผ่านกลยุทธ์การบริหารจัดการแบบจับจังหวะการลงทุน “Tactical Trade” ที่ผู้จัดการกองทุนจะคอยจับจังหวะซื้อขายหุ้น จึงสามารถทำกำไรได้ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว

อีกทั้งกองทุน K-STAR เมื่อเทียบกับดัชนีชี้วัด (SET TRI) ยังสามารถทำผลการดำเนินงานได้ดีกว่าอย่างสม่ำเสมอแม้ในทุกวิกฤตทางการเงิน

แต่อย่างไรก็ดี มีความแตกต่างตรงที่ K SUPERSTAR SSFX สามารถให้น้ำหนักหุ้นไทยถึง 80% เพื่อเพิ่มโอกาสได้รับผลตอบแทนที่มากกว่า นอกจากนั้นกองทุน K SUPERSTAR SSFX ยังมีนโยบายการจ่ายปันผลอีกด้วย โดยจ่ายได้มากที่สุดปีละ 4 ครั้ง ซึ่งเหมาะกับคนที่ต้องการกระแสเงินสดจากการลงทุนในระหว่างที่ต้องถือกองทุนระยะยาว

ดังนั้น ลองพิจารณาตัวเองดูครับว่า ตัวเราต้องการลงทุนระยะยาว 10 ปีในหุ้นไทยหรือเปล่า และต้องการกองทุน SSF EXTRA แบบไหนมาเคียงคู่ นโยบายการลงทุนที่เน้นคัดสรรหุ้นแค่ไหน ผู้จัดการกองทุนมีแนวโน้มบริหารอย่างไร ดังนั้นถ้าใครมองว่าหุ้นไทยช่วงนี้เป็นโอกาสที่ดีในการลงทุน และถือครองได้ยาวตามที่กฎหมายกำหนดไว้ และเห็นแล้วว่ามีเงินสดเพียงพอกับการซื้อเพื่อลดหย่อนภาษี ถ้าสามารถหาคำตอบตรงนี้ให้ตัวเองได้ ก็เหลือเพียงแค่เลือกกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นที่ตรงกับใจเราก็พอแล้วล่ะครับ

อย่าลืมนะครับ อาจจะซื้อครบ 200,000 บาทเต็มสิทธิ์ หรือทยอยซื้อก็ได้ ขึ้นกับฐานรายได้ที่ต้องจ่ายภาษีและลงทุนตามจำนวนเงินที่บริหารจัดการไว้ และคิดว่าเหมาะสมกับการลงทุนเพื่อเป้าหมายของเรา เพียงเท่านี้ก็เพียงพอที่จะลงทุนในกองทุน SSF EXTRA แล้วล่ะครับผม

แต่เดี๋ยวก่อน สำหรับคนที่สนใจลงทุนในกองทุน K SUPERSTAR SSFX ตอนนี้มีโปรโมชั่นพิเศษ เมื่อลงทุนทุก 50,000 บาท รับไปเลย Cash Back 100 บาททันที โดยรับสูงสุด 400 บาท (เฉพาะช่วงเวลาวันที่ 1 เมษายน – 30 มิถุนายน 2563 นี้เท่านั้น) แม้ตอนนี้ใครจะ Work From Home ก็ซื้อได้ง่ายผ่านแอป K PLUS หรือ K-My Funds คลิกดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://bit.ly/2WTfVFj

คำเตือน

- ผู้ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และคู่มือการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน

- ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้ยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต 

- ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการออม

#KAsset #KSUPERSTARSSFX #คำตอบที่ใช่ของการลงทุน

บทความนี้เป็น Advertorial