จากประสบการณ์ในการวางแผนการเงินให้ลูกค้าหลายรายในอดีตที่ผ่านมา ผมพบว่า ลูกค้ากลุ่มที่เป็นเจ้าของกิจการ โดยเฉพาะกิจการขนาดเล็ก-กลาง หรือ SME เป็นกลุ่มที่มักจะประสบปัญหาการบริหารจัดการเงินอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะเรื่อง การจัดการเงินส่วนตัว และเงินในการดำเนินธุรกิจ ที่ไม่ได้แยกออกจากกันอย่างชัดเจน ทำให้หลายครั้ง รายจ่ายของธุรกิจ ก็มากระทบกับการดำเนินชีวิตส่วนตัวของเจ้าของ

เมื่อหากเกิดเหตุไม่คาดฝันที่ทำให้ธุรกิจต้องจ่ายเงินก้อนใหญ่ โดยที่เงินสำรองหมุนเวียนที่ธุรกิจมีอยู่ไม่เพียงพอ ก็อาจส่งผลกระทบต่อเงินเก็บส่วนตัวของเจ้าของได้

นอกจากควรจะต้องแยกเงินของกิจการกับเจ้าของให้ชัดเจนแล้ว การวางแผนรองรับความเสี่ยงของทั้งตัวกิจการและตัวเจ้าของเอง จึงถือเป็นเรื่องสำคัญอันดับแรกๆ ที่คนทำธุรกิจทุกคนควรจะต้องตระหนัก เพื่อป้องกันไม่ให้ทั้งธุรกิจและชีวิตของตัวเจ้าของเอง ต้องล้มไปพร้อมกันทั้งคู่ หากเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นมาจากฝั่งใดฝั่งหนึ่ง

ซึ่งเหตุไม่คาดฝันอย่างหนึ่งที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้กับธุรกิจ แล้วอาจส่งผลให้บริษัทต้องสูญเสียรายได้ คือเหตุที่เกิดกับ “ลูกจ้าง” หรือ “พนักงาน” ของตัวบริษัทเอง ไม่ว่าจะเป็นกรณีที่พนักงานเกิดการเจ็บป่วย ทำให้ต้องลาหยุดงาน หรือต้องมาเบิกค่ารักษากับบริษัท การที่พนักงานเกิดประสบอุบัติเหตุ ทำให้สูญเสียความสามารถในการปฏิบัติงาน หรือแม้กระทั่งการที่พนักงานเสียชีวิตจากไปกระทันหัน ซึ่งหากเป็นคนสำคัญของบริษัท ก็อาจส่งผลต่อการปรับตัวเพื่อหารายได้ของบริษัทได้

การทำ “ประกันกลุ่ม” จึงเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญ ที่จะช่วยบริหารจัดการความเสี่ยงดังกล่าวได้ เพื่อไม่ให้ธุรกิจต้องหยุดชะงัก หรือมากระทบกับเงินในกระเป๋าของตัวเจ้าของกิจการเอง โดยมีบริษัทเป็นผู้ถือกรมธรรม์หลักเพียงเล่มเดียว :

การทำประกันกลุ่ม

ประโยชน์สำหรับบริษัท หรือเจ้าของกิจการ (ผู้ถือกรมธรรม์)

1. บริษัทประกันภัยจะจ่ายเงินชดเชยค่ารักษาพยาบาลที่เกิดขึ้น

หากพนักงานเจ็บป่วยหรือประสบอุบัติเหตุ บริษัทหรือเจ้าของกิจการไม่ต้องสำรองจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลเอง

2. ควบคุมรายจ่ายให้กิจการ

โดยเปลี่ยนรายจ่ายค่ารักษาพยาบาลของพนักงานที่ไม่แน่นอน และอาจมีจำนวนมาก ให้เป็นรายจ่ายที่แน่นอน คือตามค่าเบี้ยประกันภัยในแต่ละปี ทำให้บริษัทสามารถวางแผนค่าใช้จ่ายได้รัดกุมแม่นยำมากขึ้น และค่าเบี้ยประกันภัยกลุ่ม ไม่ถือเป็นรายจ่ายต้องห้าม จึงสามารถนำไปหักเป็นรายจ่ายหนึ่งของกิจการได้

3. สร้างแรงจูงใจในการทำงานให้พนักงาน

ดึงดูดพนักงานที่มีความสามารถมาทำงานให้บริษัท เนื่องจากประกันกลุ่มถือเป็นสวัสดิการที่บริษัทให้กับพนักงาน ซึ่งเรื่องของสวัสดิการ ก็เป็นปัจจัยสำคัญประการหนึ่งในการเลือกที่ทำงานของพนักงาน หากบริษัทจัดเตรียมสวัสดิการที่ดีให้ ก็จะช่วยดึงดูด หรือรักษาพนักงานที่ดีให้คงอยู่กับบริษัทต่อไป

4. ทำให้ค่าเบี้ยประกันภัยถูกกว่า

เมื่อเทียบกับการที่พนักงานต้องไปทำประกันด้วยตัวเองในแผนที่ความคุ้มครองใกล้เคียงกัน เนื่องจากประกันกลุ่มพิจารณารับประกันจากการเฉลี่ยความเสี่ยงกันในกลุ่มของพนักงาน โดยใช้อัตราเบี้ยประกันภัยเดียวกันกับทุกคนในกลุ่ม ทำให้ค่าเบี้ยประกันภัยเฉลี่ยต่อคน จะถูกกว่าไปทำประกันแยกแต่ละคนด้วยตัวเอง

ประโยชน์สำหรับพนักงาน หรือลูกจ้าง (สมาชิกผู้เอาประกันภัย)

1. มีหลักประกันที่มั่นคง

ทำให้ลูกจ้างหรือพนักงานสามารถทำงานได้อย่างมีความสุข

2. กรณีพนักงานทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง ทำให้ไม่สามารถทำงานได้ หรือเสียชีวิต

จะมั่นใจได้ว่าคนข้างหลังจะได้รับเงินชดเชยจากบริษัทประกันภัย เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนที่อาจจะเกิดขึ้นได้

ซึ่งประกันกลุ่ม อาจมีความคุ้มครองให้พนักงานได้หลายแบบ สามารถแบ่งความคุ้มครองได้ 3 ประเภทหลักๆด้วยกันคือ

  1. ประกันชีวิตกลุ่ม - จะจ่ายเงินชดเชยให้กับผู้รับผลประโยชน์ กรณีลูกจ้างเสียชีวิตทุกกรณี (ไม่ว่าจากโรคหรืออุบัติเหตุ) ตามเงื่อนไขของกรมธรรม์
  2. ประกันอุบัติเหตุกลุ่ม - จะจ่ายเงินชดเชยกรณีลูกจ้างเสียชีวิต ทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง สูญเสียอวัยวะ หรือมีค่ารักษาพยาบาล ที่เกิดจากกรณีอุบัติเหตุเท่านั้น
  3. ประกันสุขภาพกลุ่ม - จะจ่ายเงินชดเชยค่ารักษาพยาบาลที่เกิดขึ้นในโรงพยาบาล ทั้งกรณีผู้ป่วยใน หรือผู้ป่วยนอก ตามวงเงินความคุ้มครองค่ารักษาแต่ละรายการ ไม่ว่าลูกจ้างจะเจ็บป่วยจากกรณีเป็นโรค หรืออุบัติเหตุ

ตัวอย่างความคุ้มครองของประกันกลุ่ม ผมจะขอยกตัวอย่างของประกันกลุ่ม กรุงไทย-แอกซ่า มาให้ดูเป็นตัวอย่าง 2 ผลิตภัณฑ์ด้วยกัน คือ “ประกันชีวิตและสุขภาพกลุ่ม แบบสำเร็จรูป (Group Health Package)” และ “ประกันอุบัติเหตุกลุ่ม แบบสำเร็จรูป (Group PA Package)” ซึ่งแต่ละผลิตภัณฑ์ มีรายละเอียดความคุ้มครองดังนี้

ประกันชีวิตและสุขภาพกลุ่ม แบบสำเร็จรูป (Group Health Package)

ประกันชีวิตและสุขภาพกลุ่ม แบบสำเร็จรูป ของ กรุงไทย-แอกซ่า จะมีอยู่ด้วยกัน 6 แผน ตามระดับความคุ้มครอง ตั้งแต่ แผน 1 ที่มีความคุ้มครองชีวิตและทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง 100,000 บาท (หากเสียชีวิตจากกรณีอุบัติเหตุจะจ่ายเงินชดเชยให้อีกเท่าตัว) ค่าห้องและค่าอาหารต่อวัน 1,000 บาท  ไปจนถึงแผน 6 ที่มี

ความคุ้มครองชีวิตและทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง 600,000 บาท ค่าห้องและค่าอาหารต่อวัน 3,500 บาท (รายการความคุ้มครองอื่นๆ และวงเงินแต่ละรายการ ตามตาราง) ซึ่งเป็นความคุ้มครองพื้นฐาน โดยสามารถเลือกซื้อความคุ้มครองค่ารักษาผู้ป่วยนอกกรณีทั่วไป (OPD) ได้ ตั้งแต่ครั้งละ 400 บาท ไปจนถึง 1,500 บาท เป็นความคุ้มครองเสริมพ่วงเข้าไปเพิ่มได้ (ท่านสามารถเลือกผลประโยชน์ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลในฐานะผู้ป่วยนอก ต่ำกว่าแผนหลักได้ไม่จำกัดแผน แต่สูงกว่าแผนหลักได้ไม่เกิน 1 แผน) ซึ่งค่าเบี้ยประกันภัยแผน 1 จะอยู่ที่ประมาณ 2,4xx-2,5xx บาท ไปจนถึงแผน 6 ที่ประมาณ 8,5xx-9,1xx บาท ต่อคน สำหรับธุรกิจทั่วไป (ขึ้นอยู่กับจำนวนพนักงาน)

ประกันอุบัติเหตุกลุ่ม แบบสำเร็จรูป (Group PA Package)

สำหรับประกันอุบัติเหตุกลุ่ม แบบสำเร็จรูป ของกรุงไทย-แอกซ่า จะมีให้เลือกอยู่ 2 ประเภท คือประเภท “Classic” และประเภท “Platinum” ซึ่งมีรายการและวงเงินความคุ้มครองเหมือนกัน แต่ประเภท Platinum จะสามารถเลือกซื้อความคุ้มครอง ค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุต่อครั้ง พ่วงเข้าไปด้วยได้ โดยจะมีความคุ้มครองให้เลือกอยู่ 6 แผนเช่นกัน ตั้งแต่แผน 1 ที่มีความคุ้มครองชีวิตและทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง 100,000 บาท และความคุ้มครองกรณีสูญเสียคู่อวัยวะ 100,000 บาท ไปจนถึงแผนที่มีความคุ้มครองดังกล่าว 1,000,000 บาท (รายการความคุ้มครองอื่นๆ และวงเงิน ตามตาราง)

ส่วนค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุต่อครั้ง สามารถเลือกซื้อได้ตั้งแต่วงเงิน 10,000 บาท ไปจนถึง 100,000 บาท (ท่านสามารถเลือกผลประโยชน์ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลต่ออุบัติเหตุ ต่ำกว่าแผนหลักได้ไม่จำกัดแผน แต่สูงกว่าแผนหลักได้ไม่เกิน 1 แผน) ซึ่งค่าเบี้ยประกันภัยแผน 1 จะอยู่ที่ประมาณ 98-150 บาท ไปจนถึงแผน 6 ที่ประมาณ 980-1,500 บาท ต่อคน สำหรับธุรกิจทั่วไป (ขึ้นอยู่กับจำนวนพนักงาน)

จุดเด่นอื่น นอกเหนือจากระดับความคุ้มครองหลักและความคุ้มครองเสริมที่มีให้เลือกได้อย่างยืดหยุ่น คือการที่บริษัทมีโรงพยาบาลและคลีนิคในเครือข่าย มากกว่า 400 แห่งทั่วประเทศ ครอบคลุมทุกโรงพยาบาลหลักๆ และสามารถตรวจสอบข้อมูลกรมธรรม์ และสถานะการเคลม กรณียอดเคลมไม่เกิน 3,000 บาท  ผ่านแอปพลิเคชั่น “ My AXA Health ” ได้ทุกที่ทุกเวลา

ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นประกันสุขภาพกลุ่ม แบบสำเร็จรูป หรือประกันอุบัติเหตุกลุ่ม แบบสำเร็จรูป จะมีการพิจารณาค่าเบี้ยประกันภัย ตามการเฉลี่ยความเสี่ยง และจำนวนพนักงานใหม่  ทุกๆ รอบปีกรมธรรม์ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ 24 ชั่วโมง 1159 หรือที่ https://www.krungthai-axa.co.th/th/group-insurance

สุดท้ายนี้ ผมก็อยากฝากเอาไว้ว่า สำหรับใครที่วางแผนจะเป็น หรือกำลังเป็นเจ้าของกิจการอยู่ นอกเหนือจากตัวเราเองที่ควรวางแผนการเงินส่วนตัวให้รอบคอบและรัดกุมแล้ว การเงินของกิจการของเรา ก็ควรจะต้องมีการวางแผนอย่างรอบคอบเช่นกัน เพื่อให้มั่นใจว่า ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์ความไม่แน่นอนใดๆขึ้นกับส่วนไหน ทั้งเจ้าของกิจการ และกิจการจะยังสามารถดำเนินธุรกิจและดำเนินชีวิตต่อไปได้อย่างมั่นคงนั่นเองครับ

บทความนี้เป็น Advertorial