“ตี๊ด...ตึ๊ดดดด”

เสียงที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีเมื่อประตูอัตโนมัติร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven เปิดออกแล้วแอร์เย็นฉ่ำกระทบผิว มันเป็นที่พึ่งยามหิวโซ เป็นแหล่งพักพิงเมื่อเหนื่อยล้าจากการขับรถทางไกล บางทีเบื่อ ๆ ไม่รู้จะไปไหน 7-Eleven หน้าปากซอยก็กลายเป็นที่เดินเล่นแก้เหงาได้อยู่บ่อยครั้ง

ปัจจุบันตอนนี้ในประเทศไทยมี 7-Eleven อยู่ราว ๆ 12,800 สาขา (เริ่มมาตั้งแต่ปี 1989 ) แต่ถ้านับจำนวนสาขาทั่วโลกนั้นมีมากถึง 83,000 สาขา ซึ่งประมาณ 1/4 อยู่ในญี่ปุ่น ถือว่าเป็นหนึ่งในบริษัทเชนร้านสะดวกซื้อใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในโลกและทำให้ผู้ถือหุ้นใหญ่อย่าง มาซาโตชิ อิโตะ (Masatoshi Ito) นั้นมีมูลค่าทางทรัพย์สินกว่า 5,000 ล้านเหรียญก่อนที่เขาจะเสียชีวิตในวันที่ 10 มีนาคม 2023 จากความชราด้วยวัยกว่า 98 ปี

อิโตะร่ำรวยขึ้นมาจากการขยายร้านค้าเล็ก ๆ ของครอบครัวให้เป็นหนึ่งในร้านค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นและพาร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven ไปทั่วโลก ถูกขนานนามว่าเป็น แซม วอลตัน (Sam Walton - ผู้ก่อตั้ง Walmart บริษัทค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดในโลก) ของประเทศญี่ปุ่น โดยมีสไตล์การทำธุรกิจแบบกระจายอำนาจซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากเพื่อนและที่ปรึกษาทางธุรกิจที่มีชื่อเสียงอย่างปีเตอร์ ดรักเกอร์ (Peter Drucker) ผู้ซึ่งเคยบอกว่าอิโตะคือ “หนึ่งในผู้ประกอบการและผู้สร้างธุรกิจที่ยอดเยี่ยมที่สุดคนหนึ่งของโลก”

เริ่มจากจุดเล็ก ๆ

อิโตะถือกำเนิดในครอบครัวค้าขายพ่อไม่ค่อยเอางานเอาการสักเท่าไหร่ ส่วนแม่ทำงานหนักโดยตลอด ภายหลังแม่ก็หย่ากับพ่อและแต่งงานใหม่

หลังจากจบการศึกษาจากโรงเรียนอาชีวพาณิชย์โยโกฮาม่าในปี 1944 อิโตะเข้าทำงานกับบริษัท Mitsubishi Coal and Mining แต่ไม่นานเขาก็ถูกเกณฑ์เข้ารับราชการทหารและได้รับการฝึกฝนให้เป็นส่วนหนึ่งของหน่วยพลีชีพเพื่อโจมตีเรือข้าศึกแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลงไปซะก่อน หลังสงครามไม่นาน เขาลาออกจาก Mitsubishi และเข้ามาดูแลธุรกิจของครอบครัวต่อ

ธุรกิจร้านเครื่องแต่งกายเล็กๆ ที่ย่านอาซากุสะในโตเกียวชื่อ ‘Yokado Clothing Store” ที่ก่อตั้งโดยลุงในปี 1920 โดยมีพี่ชายต่างมารดาสานต่อธุรกิจจนกระทั่งเสียชีวิตลงในปี 1956 ซึ่งตอนนั้นเองที่อิโตะได้เข้ามาช่วยดูและเปลี่ยนชื่อธุรกิจเป็น ‘อิโตะ-โยคาโดะ’ (Ito-Yokado) และทำการขยับขยายให้ธุรกิจเติบโตมากขึ้น

นอกจากจะขายเสื้อผ้าแล้ว เขายังเริ่มทำให้มันเป็นร้านสะดวกซื้อครบวงจรมากยิ่งขึ้นโดยขายของชำต่าง ๆ ด้วย มุ่งเน้นขยายสาขาในกรุงโตเกียว เมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น และมีการนำระบบการบริหารซูเปอร์มาร์เก็ตจากอเมริกา มาใช้ภายในร้านจนกลายเป็นหนึ่งในธุรกิจค้าปลีกเจ้าใหญ่ของประเทศและเข้าตลาดหุ้นได้ในปี 1972

บริษัทของเขายังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่องมีการก่อตั้ง Denny's Japan Co. ซึ่งนำเครือร้านอาหารบรรยากาศครอบครัวจากสหรัฐฯ มาเปิดในประเทศญี่ปุ่นด้วย

7-Eleven

ช่วงเวลานั้นเอง โตชิฟูมิ ซูซูกิ (Toshifumi Suzuki) ผู้บริหารของอิโตะ-โยคาโดะเดินทางไปอเมริกาเพื่อมองหาโอกาสในธุรกิจใหม่ ๆ และเจอกับร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven ซึ่งเขาเชื่อว่าร้านค้าปลีกขนาดเล็กแบบนี้คืออนาคตของธุรกิจค้าปลีก จึงตัดสินใจกลับมาโน้มน้าวอิโตะให้เข้าไปเจรจากับบริษัทเซาท์แลนด์ คอร์ปอเรชั่น (Southland Corporation) ซึ่งเป็นเจ้าของ 7-Eleven และนำมาเปิดในประเทศญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกในปี 1974

มันได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม ไม่นานนักสาขาของ 7-Eleven ก็ผุดขึ้นมาอย่างรวดเร็วทั่วประเทศญี่ปุ่น โดยนำเสนอแนวคิดใหม่ๆ เกี่ยวกับวิธีการดำเนินธุรกิจค้าปลีก รวมถึงการใช้แฟรนไชส์เพื่อขยายส่วนแบ่งการตลาดและเปิดดำเนินการตลอด 24 ชั่วโมงด้วย

ในช่วงปลายทศวรรษ 1980 อิโตะ-โยคาโดะได้กลายเป็นอาณาจักรธุรกิจของญี่ปุ่นที่มีร้านค้าขนาดใหญ่ ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหารของ Denny’s ทั่วประเทศ และร้าน 7-Eleven มากกว่า 4,000 สาขา ซึ่งสร้างยอดขายต่อปีได้มากกว่า 12,000 ล้านเหรียญ

ในปี 1989 7-Eleven ของอิโตะได้เข้าไปถือสิทธิ์จัดการแฟรนไชส์ในรัฐฮาวาย ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นที่มักรู้สึกผิดหวังกับสาขาที่จัดการโดยฝั่งอเมริกาที่ไม่ทันสมัยเมื่อเทียบกับสาขาในญี่ปุ่น

หนึ่งปีให้หลังเซาท์แลนด์ประสบปัญหาทางการเงิน อิโตะ-โยคาโดะตัดสินใจเสนอข้อตกลงมูลค่า 430 ล้านดอลลาร์เพื่อซื้อหุ้น 70% ของบริษัท การตัดสินใจครั้งนี้อิโตะให้สัมภาษณ์กับ Nikkei Business ในปี 1996 ว่าเป็นการป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับแบรนด์ หากมีข่าวเสียหายมาจากฝั่งอเมริกาก็จะทำให้แบรนด์ในญี่ปุ่นเสียหายไปด้วย

ในปี 1992 อิโตะประกาศลาออกจากตำแหน่งเพื่อรับผิดชอบการจ่ายเงินให้กับแก๊ง “ยากูซ่า” สามคนเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในการประชุมผู้ถือหุ้นโดยเจ้าหน้าที่ของบริษัทที่ขู่ว่าจะมาก่อความวุ่นวายในการประชุมบริษัท (ซึ่งในตอนนั้นก็ถือว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง)

ซูซูกิเข้ารับตำแหน่งต่อจากอิโตะในประธาน ต่อมาได้เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เขาเปลี่ยนชื่อธุรกิจใหญ่เป็น Seven & i Holdings ในปี 2005 และ 7-Eleven Inc. กลายเป็นบริษัทในเครือที่ถือหุ้นทั้งหมด อิโตะยังคงดำรงตำแหน่งประธานกิตติมศักดิ์ของบริษัทแม่ โดย “i” ในชื่อของบริษัทก็มาจาก ‘Ito-Yokado’ และนามสกุล (Ito) ของเขานั่นเอง

เมื่อถูกถามถึงเคล็ดลับความสำเร็จของเขาในการสัมภาษณ์กับ The Journal of Japanese Trade and Industry ในปี 1988 อิโตะกล่าวอย่างถ่อมตนว่า

“ผมมักถูกถามว่าประสบความสำเร็จเพราะทำงานหนักหรือเพราะโชคดี คำตอบคือก็มีส่วนทั้งสองอย่างนั่นแหละ”


Bloomberg

Ito Yokado

The New York Times

7 and i

CGU.EDU

SEJ

#aomMONEY #MoneyStoryTelling #7Eleven #Sevenandiholding #MasatoshiIto #มาซาโตชิอิโตะ #itoYokado #อิโตะโยคาโดะ #เสียชีวิต #ประวัติ #StoryofMoney