ชีวิตที่เป็นวัฎจักรอย่างที่เราได้คุยกันไปก็จะทำให้เราได้เห็นว่า มนุษย์เงินเดือน หลายๆคนนั้นมีวิถีทางในการดำรงชีวิตที่วนเวียนอยู่กับเรื่องของเงินเดือนเข้า ใช้จ่าย เงินเดือนหาย ยืมเงินมาให้ เป็นหนี้ แล้วก็รอวันเวลาที่จะทำให้ตัวเองมีชีวิตที่สดใสอีกครั้งจากการหยอดน้ำมันด้วยเงินเดือนจากนายจ้างมันก็ไม่ใช่ทุกคนที่เป็นอย่างงี้หรอก มันก็มีบางคนที่เก็บเงินอยู่ได้เหมือนกัน ปัญหาเหล่านี้เกิดได้กับทุกที่นะครับและผมเองก็อยากจะนำเสนอให้ "นายจ้าง หรือ ฝ่ายบุคคล" ให้ความสำคัญในการสนับสนุนการให้ความรู้เกี่ยวกับการบริหารเงินกับพนักงานด้วยก็ดีนะ เพราะหากพนักงานของท่านเป็นหนี้เป็นสิน วันๆเขาก็จะไม่ได้มีกระจิตกระใจในการทำงานหรอกเพราะต้องหาเงินรายวันมาใช้หนี้ก็เป็นได้ นอกจากนั้นมันก็อาจจะทำให้พนักงานต้องหาความมั่นคงและเงินเดือนที่มากขึ้นในบริษัทใหม่ๆที่จะทำให้เขาสามารถใช้จ่ายเงินได้มากขึ้น บริษัทอาจจะสูญเสียพนักงานที่มีความสามารถ (แต่มีปัญหาทางการเงิน) ไปจากบริษัทก็ได้นะครับ

แต่ปัญหาที่น่าหนักใจของชาวพนักงานประจำนั้นก็คือ แม้บางคนรู้แล้วว่าตัวเองมีเงินเท่าไหร่ แต่การที่จะจัดสรรเงินให้ใช้ได้ในแต่ละเดือนอย่างเพียงพอนั้นอาจจะทำไม่ได้ก็ได้ คำว่าเพียงพอของผมคือ รายรับต่อเดือนเท่าไหร่ก็ต้องแบ่งเป็นรายจ่ายและเงินออมให้สามารถได้ใช้ตามนั้น แต่หลายๆคนกลับมองว่าพอของเขาคือการมีเงินใช้จ่ายได้อย่างไม่จำกัดตราบที่เงินนั้นสามารถถูกดึงนำมาใช้ได้ไม่ว่ากรณีใดๆ ไม่ว่าจะเป็นการนำเงินเก็บเดิมๆที่เคยสะสมไว้มาใช้ หรือ การนำเงินที่สามารถเบิกล่วงหน้าได้มาใช้ก่อน ซึ่งก็ไม่พ้นกับเรื่อง เงินกู้ยืม การติดเงินไว้จ่ายที่หลัง เพราะฉะนั้นแล้วสิ่งที่เราจะต้องเข้าใจก่อนเป็นอันดับแรกก็คือ เงินนั้นมันมี 2 ส่วน คือ เงินปัจจุบันและเงินในอนาคต

เงินปัจจุบัน : เงินที่คุณมีอยู่ใช้จ่ายจากเงินเดือนที่มี รวมถึงบรรดาเงินที่ออมที่คุณเก็บไว้ใช้จ่ายไม่ว่าจะเป็นในยามฉุกเฉิน หรือเมื่อคุณต้องการใช้เงิน มันเป็นเงินทองที่ทำให้คุณอุ่นใจว่าคุณจะไม่ลำบากเมื่อหลายๆอย่างทำให้คุณต้องการใช้เงิน

เงินในอนาคต : เงินที่คุณจะเบิกมาใช้ก่อนล่วงหน้าและคุณก็ต้องคืนเงินก้อนนั้นเมื่อถึงเวลาที่กำหนด คุณจะสามารถจับต้องเงินนี้เมื่อคุณมีความอยากจะได้อะไรที่เงินในปัจจุบันให้กับคุณไม่ได้

สาเหตุสำคัญที่ทำให้มนุษย์เงินเดือนจำนวนไม่น้อยใช้เงินในอนาคตรู้ไหม?

1. การไม่ได้เตรียมพร้อมรับความเสี่ยงต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้น ถึงแม้ว่าเราจะมองว่าเราไม่ได้ใช้เงินเกินตัว แต่บางทีเราใช้เงินจนหมดก็สามารถทำให้เราเกิดความเสี่ยงได้ ไม่มีใครรู้หรอกว่าอยู่ๆเราจะต้องใช้เงินด้วยความจำเป็นเมื่อไหร่และเมื่อเราเกิดจำเป็นต้องใช้เงินขึ้นมา นั่นก็เป็นสาเหตุแรกที่เราจะต้องพึ่งเงินในอนาคต

2. ก็เงินเดือนมันน้อยอ่ะ (รู้สึกไปเองบ้าง บางที ฮาๆ) หลายๆครั้งเราเองนั่นล่ะที่จงใจใช้เงินในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งการให้มุมมองที่ตัดสินว่าเงินในปัจจุบันเองไม่ได้ทำให้ชีวิตของเรานั้นดีขึ้นได้อย่างรวดเร็วจึงควรใช้เงินในอนาคตมาใช้ก่อน ไม่ว่าจะเป็นการยกระดับ Lifestyle ของเราไม่ว่าจะเป็นการใช้เงินเกินตัวไปกับสิ่งต่างๆที่เกินความจำเป็นต่อชีวิตเรา แน่นอนครับว่า เงินปัจจุบันมันช่างน่ารำคาญใจที่จะเก็บออมเพื่อจะจ่ายในสิ่งที่อยากได้ ต้องใช้เวลานาน แต่เงินในอนาคตพอมันหยิบยื่นมาทีเดียว โห้ เสกได้ทุกอย่างตามที่ฝันเลยทีเดียว

เงินอนาคตนั้นส่วนใหญ่ที่เราสามารถหยิบยืมมาได้ อาจจะไม่ใช่รูปแบบของตัวเงินสะทีเดียว แค่การติดเงินไว้ก่อนนั่นก็คือเราติดหนี้แล้ว และสิ่งที่จะทำให้เราสามารถใช้จ่ายเงินในอนาคตได้อย่างคล่องมือก็คือ "ความน่าเชื่อถือที่เรามี" ในภาษาอังกฤษเขาก็เรียกกันสั้นๆว่า มีเครดิต ซึ่งมันอาจจะสะท้อนออกมาเป็นรูปแบบของจำนวนเงินที่เขาจะอนุญาตให้เราใช้เงินอนาคตได้ เมื่อเราใช้เงินคล่องมือ ใช้เงินรัวๆ รูดๆจ่ายไปเป็นระวิงๆ มันก็สามารถทำให้เงินในอนาคตเราหมดได้เช่นกัน ซึ่งนั่นจะเป็นเรื่องที่แย่ยิ่งกว่าเดิมเพราะเราจะไม่มีทั้งเงินในปัจจุบันที่เป็นของเราหลงเหลืออยู่เลยก็ได้ มันต้องคืนในอนาคตทั้งหมด รวมถึงมีค่าใช้จ่ายต่างๆที่อาจจะเดินหน้าเช็คบิลชีวิตเราในอนาคตอีกนานับประการ ซึ่งผมว่าคนที่เคยเจอเหตุการณ์อย่างนี้ก็มีเยอะและจะรู้สึกเครียด มีปัญหา ไม่รู้จะหาทางออกอย่างไร

ผมก็ไม่รู้ว่าจริงๆเงินในอนาคตมันดีหรือเปล่านะ? ทำไมหลายๆคนจึงให้เงินในอนาคตมาทำร้ายเงินในปัจจุบันได้???

และทำไมเราไม่ลองคิดในอีกแง่ว่า จะทำอย่างไรให้เงินในปัจจุบันมันสร้างเงินในอนาคตอย่างงอกเงยให้เราได้ใช้???

ตรงนี้ก็อยู่ที่ทางเลือกของเราแต่ละคนแล้วครับ...