สวัสดีครับผู้ลงทุนในกองทุนรวมทุกท่าน หลังจากที่เราได้ทราบข่าวว่ากองทุนจาก TMBAM Eastspring ได้ประกาศปิดกองทุนลงในเดือนมีนาคม ผมก็เชื่อว่ามีผู้ลงทุนหลาย ๆ ท่านก็คงกำลังรอคอยที่ได้เงินลงทุนไปนั้น คืนจากกองทุนทั้ง 4 กองทุนของ TMBAM Eastspring คือ กองทุนธนไพบูลย์ ธนพลัส ธนเพิ่มพูน และธนไพศาล อยู่ใช่ไหมครับ

และหลังจากที่ทาง บลจ. ได้ทยอยขายตราสารหนี้ที่อยู่ในกองทุนมาคืนให้กับผู้ถือหน่วยมาแล้วหลายครั้ง แต่ก็ยังมีบางส่วนที่ยังคงรอการขายอยู่ โดย ณ ปัจจุบันเองก็กำลังจะครบกำหนดการจ่ายคืน คือ 90 วัน แต่ทว่าสัดส่วนการจ่ายเงินคืนของ 4 กองทุน ถึงวันที่ 26 มิ.ย. 63 ก็ยังไม่ครบทั้งหมด คือ

- ธนพลัส    43%

- ธนไพศาล 34%

- ธนเพิ่มพูน 46%

 - ธนไพบูลย์ 55%

ปัจจุบัน กองทุนก็ได้มีการประกาศออกมาแล้วว่า จะขอขยายระยะเวลาการขายคืนหน่วยลงทุนให้กับผู้ลงทุนไปอีก 90 วันครับ ซึ่งจริง ๆ แล้วเนี่ย การปิดหรือการยกเลิกกองทุนนั้นไม่ใช่เรื่องใหม่ในระดับสากล ขอยกตัวอย่าง ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ก็มีกองทุนตราสารหนี้ ของประเทศอินเดีย ก็เกิดการปิดกอง เป็นครั้งแรกของประเทศเขาเหมือนกัน และก็เกิดในช่วงวิกฤต COVID-19 ระบาดหนักในประเทศ

เรามาดูเหตุผลว่า ทำไมต้องขยายระยะเวลาการชำระบัญชีออกไปอีก

1. สภาพคล่องในตลาดตราสารหนี้ยังคงมีการซื้อขายที่เบาบางถึงแม้ว่าเริ่มมีแนวโน้มที่ดีขึ้น

ซึ่งความกังวลเรื่องโควิด-19 ก็ยังคงทำให้ตราสารหนี้ถูกทยอยเทขายต่อเนื่องอย่างผิดปกติ (ทั้งไทย และต่างประเทศ) ถึงแม้ว่าตลาดตราสารหนี้ในไทยเริ่มกลับมาอยู่ในสถานการณ์ที่ดีขึ้นแล้ว ประกอบกับCOVID-19 เริ่มควบคุมได้ค่อนข้างดีก็ตามครับ

และตอนนี้ผมได้ข่าวจากเพื่อน ๆ ในวงการตราสารหนี้ โดยเฉพาะในตลาดหุ้นกู้นั้น พบว่าสถานการณ์การลงทุนในตลาดตราสารหนี้นั้นค่อย ๆ ปรับตัวดีขึ้นเรื่อย ๆ มีความต้องการตราสารหนี้มากขึ้น ถึงแม้ว่าอาจจะไม่ใช่ทุก Sector ของตราสารหนี้ก็ตาม แต่ก็มีแนวโน้มที่ดีมากขึ้นครับ

นอกจากนี้ บริษัทเอกชนเริ่มกลับมาทยอยออกหุ้นกู้ระดมทุนเพื่อฟื้นฟูกิจการหรือขยายธุรกิจ อัตราผลตอบแทนโดยรวมของพันธบัตรจึงปรับตัวสูงขึ้น Supply เพิ่มอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนั้นการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลงของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ก็ถือเป็นปัจจัยบวกให้กับตลาดตราสารหนี้ของไทยให้มีความคึกคักมากขึ้น แต่ก็อาจจะต้องรอให้ตลาดดีมากขึ้นกว่านี้ จึงจะทำให้การขายตราสารหนี้นั้นมีโอกาสที่จะขาดทุนน้อยลงครับ

2. ความเชื่อมั่นในตลาดตราสารหนี้กรณีหุ้นกู้การบินไทย

ความกังวล และความเสี่ยงของตราสารหนี้โดยรวมนั้น กลับเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในเดือนพฤษภาคม เนื่องจากความกังวลต่อเศรษฐกิจถดถอยและปัญหาการขาดทุน และการขาดสภาพคล่องของการบินไทยที่ทำให้ต้องเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ ที่ค่อนข้างสั่นคลอนตลาดตราสารหนี้ไทยไปช่วงหนึ่ง เนื่องจากแรงเทขายจากความกังวลของสหกรณ์ ทำให้การขายตราสารหนี้เป็นไปได้อย่างยากลำบากมากขึ้นครับ

3. เนื่องจากขนาดของทั้ง 4 กองทุนตอนที่ปิดไปมีสินทรัพย์รวมประมาณ 1.5 แสนล้านบาท

เนื่องจากเป็นกองทุนยอดนิยม ที่ได้รางวัลมาหลายครั้ง ทำให้กองทุนทั้ง 4 มีขนาดใหญ่มากกกกก และด้วยสินทรัพย์คงเหลือของกองทุนทั้ง 4 กองรวมกัน  ตอนหลังก็ขายสินทรัพย์ไปบางส่วนแล้ว และก็ทยอยจ่ายคืนไปแล้วก็ยังคงมีขนาดใหญ่ประมาณใกล้เคียงแสนล้านบาท การเทขายตราสารออกมาจำนวนมากทำได้ไม่ง่ายนัก ผมลองค้นดูว่า ข้อมูลปริมาณซื้อขายหุ้นกู้อายุเกิน 1 ปีของบ้านเรา พบว่าในเดือน พ.ค. ที่ผ่านมามีอยู่แค่หกหมื่นสามล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าปีก่อนถึงร้อยละ 20  ดังนั้น หากรีบขายโดยไม่ดูจังหวะของตลาดจะเป็นการสร้างผลกระทบทำให้ราคาตราสารลดต่ำลงอีกได้ ซึ่งแน่นอนว่าไม่เป็นผลดีอย่างมากต่อผู้ถือหน่วยอย่างแน่นอนครับ

โดยรวมแล้ว ถ้าให้เกิดราคาที่ยุติธรรมนั้น ราคาของในตลาดต้องใกล้เคียงกับราคา ณ วันปิดกอง ผู้จัดการกองทุนจึงสามารถทยอยขายตราสารในพอร์ตออกไปโดยมีทั้งราคาที่สูงกว่าและที่ต่ำกว่าราคา ณ วันปิดกอง

แต่ทั้งนี้ผู้จัดการกองทุน จะคำนึงถึงปัจจัยอื่นร่วมด้วย เช่น อัตราแลกเปลี่ยน, อัตราดอกเบี้ยในตลาด, และระยะเวลาในการได้เงินกลับมาคืนผู้ถือหน่วย ทั้งนี้เพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้ถือหน่วยลงทุนเป็นสำคัญนั่นเองครับ

โดยสรุปการขยายเวลา หรือค่อย ๆ ขายตราสารหนี้คืนของ TMBAM Eastspring นั้น จะทำให้เรามีโอกาสได้ผลตอบแทนที่ดีขึ้น หรือว่าใกล้เคียงกับมูลค่า ณ วันที่ปิดกองทุนไปนั่นเอง

นอกจากนี้ การขยายเวลาจะทำให้ตราสารหนี้ หรือหุ้นกู้บางตัวนั้นมีโอกาสได้ใกล้วันครบกำหนดของตราสารหนี้ซึ่งก็เปรียบเสมือนว่าได้เงินต้น พร้อมกับดอกเบี้ยที่ประกาศไว้บนหุ้นกู้อีกด้วยครับ ทำให้การขาดทุน หรือการลดลงของมูลค่าหน่วยลงทุนนั้นน้อยลงไปอีกครับ ถ้าถามว่า แล้วเราจะต้องตกใจกับการที่จะต้องรอไปอีกอย่างน้อย 90 วัน ผมมองว่าอย่างน้อย เราก็น่าจะสบายใจได้ในระดับนึงเพราะว่าสินทรัพย์ทั้งหมดในพอร์ตของทั้ง 4 กองทุนเป็น Investment Grade และไม่เคยผิดนัดชำระหนี้ ที่สำคัญสินทรัพย์ในพอร์ตนั้นอยู่เรตติ้ง A ถึง BBB นะครับ

ผมคิดว่าการที่การขยายระยะเวลาออกไปอีก 90 วัน น่าจะเป็นผลดีต่อผู้ลงทุนมากกว่าผลดีต่อ บลจ. เพราะว่าถ้าบลจ. จะรีบขาย และคืนเงินให้ผู้ลงทุนก็ย่อมทำได้ แต่จะทำให้มูลค่าการขาดทุนสูงขึ้นมากกว่าเดิม ทำให้ผู้ลงทุนเสียประโยชน์มากกว่าการอดทนรออีกสักหน่อยครับ

ทางบลจ. เองก็กล้าตัดสินใจได้เด็ดขาดมาก ๆ เพราะว่าการขายหน่วยคืนช้าลง หรือ เงินถึงมือผู้ลงทุนช้าย่อมมีเสียงบ่นจากทางผู้ลงทุนแน่ ๆ ครับ แต่ว่าทางบลจ. เองก็ตัดสินใจยอมที่จะขยายเวลา บนความเข้าใจ และประโยชน์ต่อผู้ลงทุนมากกว่า เพราะว่าการขยายเวลาออกไปจะทำให้ได้ราคาที่ดีกว่า โอกาสขาดทุนน้อยลง ทำให้ผู้ลงทุนได้รับประโยชน์มากกว่าในด้านรักษาเงินต้นของผู้ลงทุนไว้ครับ

ผมเลยคิดว่าอยากให้ผู้ลงทุนอดทนอีกนิด อย่าเพิ่งหงุดหงิดไปเสียก่อน ใจเย็น ๆ รออีกสักพัก รับรองว่าเป็นผลดีแน่ ๆ ส่วนวันนี้ผมคงต้องลาไปก่อน สวัสดีคร้าบบบ

บทความนี้เป็น Advertorial