สวัสดีครับ กลับมาพบกับผม ยอดมนุษย์กองทุน เจ้าเก่าและเดิมประจำรายการกองทุนไหนดี รับหน้าที่สรุปประเด็นเด็ดกองทุนดัง จากรายการกองทุนไหนดี SELECTED LTF RMF SEASON 2 ประจำปี 2017 ให้ฟังกันอย่างนี้ตลอดทั้งซีซั่นเลยครับผม

สำหรับวันนี้ เป็นอีกกองทุนหนึ่งที่น่าสนใจครับ เกริ่นให้ฟังกันก่อนว่า กองทุนนี้มีจุดเด่นตรงวิธีการเลือกหุ้นครับ โดยเลือกหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี ด้วยกระบวนการสุดคลาสสิก แถมยังเน้นการถือครองด้วยความมั่นใจ ปรับพอร์ตตามความเหมาะสม และสุดท้ายที่สำคัญสำหรับคนที่ลงทุน RMF นั่นคือ กองทุนนี้เป็นหนึ่งในกองทุนที่บอกได้เลยว่า ลงทุนแล้วกินอิ่มนอนหลับแน่นอนครับผม

และกองทุนในวันนี้ของเรา คือ กองทุน ABSC-RMF หรือกองทุนเปิด อเบอร์ดีนสมาร์ทแคปปิตอลเพื่อการเลี้ยงชีพนั่นเองคร้าบบบบบบบ!!!! โดยเป็นกองทุนที่มีนโยบายการลงทุนที่เน้นลงทุนในตราสารทุนที่มีปัจจัยพื้นฐานดี

ทวนอีกทีนะครับว่า วิธีการเขียนรีวิวของยอดมนุษย์กองทุนอย่างผมนั้น จะดูประเด็นเด็ดๆ สำคัญจำนวน 5 เรื่องนะครับ ได้แก่ ผลตอบแทนและความผันผวนของพอร์ตการลงทุน Investment Process (กระบวนการลงทุนของผู้จัดการกองทุน) และค่าธรรมเนียม หลังจากนั้นจะสรุปให้ฟังว่า กองทุนนี้เหมาะกับใครนะครับผม

โอเคครับผม เรามาเริ่มกันเลยดีกว่าครับ...

เมื่อเปรียบเทียบภาพรวมของผลตอบแทนในกองทุนประเภทเดียวกันแล้ว จะเห็นว่าอยู่ในช่วงกลางๆ แต่ที่จริงแล้วกองทุนนี้คือกองทุนที่ได้รับผลตอบแทนย้อนหลังสูงถึง 16.22 ตั้งแต่จัดตั้งกองทุน ในขณะที่เกณฑ์มาตรฐาน (SET TRI*) มีผลตอบแทน  11.55%  เพียงแต่ที่ช่วงนี้แม้ว่าจะดูไม่สูงมากนัก คงต้องไปอธิบายกันในเรื่องของวิธีการเลือกหุ้นของกองทุนนี้ที่ถือว่าเป็นจุดแข็งอีกทีหนึ่งในช่วง investment Process

หมายเหตุ : *ก่อนวันที่ 1 มกราคม 2560 ตัวชี้วัดของกองทุนใช้ดัชนีราคาหุ้นตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET CR Index) ซึ่งไม่ได้รวมถึงผลตอบแทนได้รับมาจากอัตราปันผลของหุ้นในดัชนี ทั้งนี้อัตราผลตอบแทนของกองทุนในระยะเวลาเดียวกันได้คำนวณร่วมกับอัตราปันผลของหุ้นที่กองทุนได้นำไปลงทุนต่อการเปรียบเทียบระหว่างผลตอบแทนของกองทุนและตัวชี้วัดจึงต้องนำปัจจัยดังกล่าวมาร่วมพิจารณา ถ้าหากกองทุนและตัวชี้วัดได้คำนวณด้วยกระบวนการเดียวกันก่อนวันที่ 1 มกราคม 2560 ผลต่างระหว่างผลตอบแทนและตัวชี้วัดอาจน้อยลงได้

ส่วนเรื่องของความผันผวน หรือค่าความเสี่ยง จะเห็นได้ชัดว่ากองทุนนี้มีค่าความผันผวนที่ลดลงครับ แต่ก็ถือว่าอยู่ในระดับที่เสี่ยง ซึ่งตรงนี้ก็มาจากการเลือกหุ้นของกองทุนนี้อีกเช่นเดียวกันครับ (อ้าว) แหม่.. ไม่ต้องงงกันนะครับผม เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังถึงเรื่องนี้แน่นอนครับ รอดูตัวต่อไปกันเลยครับ

พอร์ตการลงทุน

สำหรับกองทุนนี้จะเน้นลงทุนในหุ้นเน้นปัจจัยพื้นฐาน ที่ผ่านการคัดเลือกและคัดกรอง อย่างละเอียดโดยทีมผู้จัดการกองทุนครับ โดยถ้าดูที่ 10 อันดับแรกจะเห็นเลยว่ามีแต่หุ้นที่คุ้นเคยกันครับ และมีการปรับพอร์ตตามความเหมาะสม ซึ่งเป็นไปตามนโยบายการเลือกหุ้นนั่นเองครับ

ที่มา : บลจ. อเบอร์ดีน จำกัด, 31 ต.ค. 60

Investment Process

มาถึงช่วงสำคัญที่สุดของกองทุนนี้แล้วครับผม โดยเหตุผลที่ผมเองเกริ่นมานานนั้น มันมาจากการเปรียบเทียบถึงวิธีการเลือกหุ้นของทางกองทุนนี้นี่แหละครับผมที่เรียกได้ว่าแตกต่างออกไป เรามาดูกันที่หลักการก่อนเลยดีกว่าครับ

จากรูปประกอบจะเห็นครับว่า วิธีการคัดกรองหุ้นของทาง Aberdeen นั้น เน้นที่คุณภาพและปัจจัยพื้นฐานมากกว่า “ราคา” ครับ และวิธีการคัดเลือกนั้นจะใช้ วิธีการที่ลงลึก ถึงรายละเอียดมากๆครับ ตั้งแต่การพูดคุยกับผู้บริหาร และเจาะลึกถึงตัวผู้บริหารด้วยครับว่า เป็นคนที่มีความรู้ ความสามารถหรือไม่ เพราะถ้าเป็นคนมีประสบการณ์จริง วิธีคิดวิธีการบริหารแบบนี้แหละ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ก็ทำให้กิจการเติบโตและแข่งขันได้ (เค้าดูลึกจริงๆนะครับผม)

นอกจากนั้นยังดูที่ กลยุทธ์ของธุรกิจ การบริหารจัดการ ฐานะการเงิน ความโปร่งใส ผลประโยชน์ทับซ้อนต่างๆ ประกอบกัน จนมั่นใจว่าหุ้นตัวนี้ดีจริงก็ค่อยหยิบมาเข้าในกลุ่มที่น่าลงทุนครับ (Universe of Stocks)

หลังจากนั้นค่อยมาดูถึงราคาครับ ว่า แพง หรือ ถูก ไป หรือรอดูช่วงเวลาที่เหมาะสม ในการซื้อขายนั่นเองครับ โดยดูผ่านอัตราส่วนทางการเงินต่างๆที่รู้จักกันดีครับ P/E PB ROE Dividend Yield Price to Cashflow ซึ่งตรงนี้บอกได้เลยครับว่า อัตราส่วนทางการเงินเหล่านี้ยังถูกเลือกใช้ ตามแต่ละอุตสาหกรรมที่แตกต่างกันไปให้เหมาะสมกับการประเมินราคาที่สุดครับ

สุดท้ายแล้วเมื่อเลือกหุ้นมาเข้าพอร์ท ก็จะเป็นการจัดการบริหารตามปกติครับ ซึ่งตรงนี้ทางผู้จัดการกองทุนก็มีการขายและปรับพอร์ทบ้างนะครับ เพื่อให้ได้รับผลตอบแทนที่เหมาะสมมากขึ้นครับผม

ที่สำคัญที่สุด หลักการลงทุนของทาง บลจ.นี้จะยึดถือแนวทางเดียวกันที่เรียกว่า กฎ 10 ประการเพื่อการลงทุน ทำให้มั่นใจได้เลยครับว่า หลักการทั้งหมดนี้ จะถูกยึดถือและปฎิบัติ ในการลงทุนอยู่เสมอครับ

ค่าธรรมเนียม

สำหรับค่าธรรมเนียมนั้น แนวทางการพิจารณาของยอดมนุษย์กองทุนอย่างผม มักจะดูที่ค่าธรรมเนียมรวม หรือ Total Expense Ratio เป็นหลักครับ โดยมีค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บจากกองทุนรวมอยู่ที่ 2.05% ซึ่งถือว่าเป็นกองทุนที่มีค่าธรรมเนียมที่อยู่ในระดับปานกลาง แต่ยังถือว่ายอมรับได้ เนื่องจากปัจจุบันกองทุนนี้ไม่มีการเก็บค่าธรรมเนียมการขายและซื้อคืนครับ

ส่วนจำนวนเงินซื้อขั้นต่ำนั้น ครั้งแรกและครั้งต่อๆไป อยู่ที่ 10,000 บาทครับ

ที่มา : บลจ. อเบอร์ดีน จำกัด, 31 ต.ค. 2560

สรุป .. กองทุนนี้เหมาะกับใคร?

ตามธรรมเนียมของรายการครับผม นอกจากรีวิวกองทุนแล้วเรายังต้องบอกว่า กองทุนนี้เหมาะกับใคร เพื่อที่จะได้เลือกซื้อได้ตามเหมาะสมครับ โดยคนที่เหมาะกับกองทุนนี้นั้นจะต้องเป็นคนที่เสียภาษี (เพราะกองทุนนี้คือกองทุนที่ใช้ลดหย่อนภาษี) และต้องการลงทุนระยะยาวเพื่อวางแผนเกษียณ (เพราะเป็นกองทุน RMF ซึ่งมีข้อจำกัดในการขาย)

แต่อย่างที่บอกนั่นแหละครับ จุดแข็งที่ดีที่สุดของกองทุนนี้ คือ วิธีการเลือกหุ้นนั่นเองครับ ซึ่งถ้าใครอ่านตอน investment Process แล้วรู้สึกว่ากองทุนนี้ใช่สำหรับเรา คนแบบนี่ที่เราต้องการมาบริหารพอร์ทให้ สไตล์แบบนี้คือการเน้นคุณภาพและปัจจัยพื้นฐาน บอกเลยครับว่าแบบนี้ต้องจัดเข้ามาใส่พอร์ทเกษียณเราด่วนๆ เลยครับ

ถ้าหากใครสนใจกองทุน ABSC-RMF หรือกองทุนเปิด อเบอร์ดีนสมาร์ทแคปปิตอลเพื่อการเลี้ยงชีพ นั้น สามารถหาข้อมูลได้ที่ http://www.aberdeen-asset.co.th/ หรือติดต่อแผนกลูกค้าสัมพันธ์

บลจ. อเบอร์ดีนจำกัด โทร 0-2-352-3388 นะครับผม

ก่อนจากกันอ่านกระผมขอแนะนำประโยคเด็ดย้ำกันอีกทีครับสำหรับคนที่ต้องการลงทุนในกองทุนรวม นั่นคือ ผลการดำเนินงานในอดีต/ผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน ความเสี่ยง และ ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนในกองทุนรวมซึ่งหากไม่ได้ลงทุนตามเงื่อนไข อาจไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ครับผม

สำหรับใครที่อยากรับชมรีวิวเป็นคลิปวีดีโอ

สามารถดูได้ที่ด้านล่างนี้กับรายการกองทุนไหนดี selected LTF RMF season 2

Facebook aomMONEY: https://goo.gl/rrpEht

Youtube aomMONEY : https://goo.gl/xJN1kh