สวัสดีครับผม กลับมาพบกันอีกแล้วครับกับ ยอดมนุษย์กองทุน หนุ่มหล่อหน้าตี๋ ทำหน้าที่สรุปข้อมูลกองทุนเด่น จากรายการกองทุนไหนดี SELECTED LTF RMF SEASON 2 ประจำปี 2017 ให้อ่านกันแบบนี้ฟรีๆแบบไม่มีชาร์ตครับผม

สำหรับกองทุนเด็ดในตอนนี้ เป็นอีกกองทุนหนึ่งที่ถือว่ามีความเสี่ยงต่ำในตำนานกันเลยทีเดียวครับ ผ่านวิธีการเลือกหุ้นอย่างมีสไตล์เป็นของตัวเองพร้อมแนวคิดในการลงทุนที่ชัดเจน และยังเป็นกองทุน LTF ที่มีปันผลอีกด้วย ซึ่งนั่นก็คือ คือ คือ ....

คือออออออออออออออออ กองทุน T-LowBetaLTFD หรือ กองทุนเปิดธนชาต Low Beta หุ้นระยะยาวปันผลนั่นเองคร้าบบบบบบบ!!!!

สำหรับคนที่เพิ่งมาอ่านตอนนี้เป็นตอนแรก ต้องขอบอกอีกทีนะครับว่า วิธีการเขียนริวิวของยอดมนุษย์กองทุนอย่างผมนั้น จะดูประเด็นเด็ดๆสำคัญจำนวน 5 เรื่องนะครับ ได้แก่ ผลตอบแทน ความเสี่ยง สินทรัพย์ Investment Process (กระบวนการลงทุนของผู้จัดการกองทุน) และค่าธรรมเนียม หลังจากนั้นจะสรุปให้ฟังว่า กองทุนนี้เหมาะกับใครนะครับผม

โอเคครับผม เรามาเริ่มกันเลยดีกว่าครับ…

ผลตอบแทน และ ความเสี่ยง

เนื่องจากกองทุนนี้เป็นกองทุนที่เพิ่งเปิดดำเนินการในวันที่ 3 ตุลาคม 2559 จึงมีผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปีให้พิจารณาพร้อมกับความผันผวนในช่วงที่ผ่านมาเท่านั้นครับ ดังนั้น จะเห็นว่าผลตอบแทนอยู่ในช่วง 10.06% ต่อปี ซึ่งเทียบกับค่าเฉลี่ยของกองทุนประเภทเดียวกันแล้วอาจจะไม่ได้ดูสูงมาก แต่ถ้าหากมาดูเรื่องของความผันผวนที่เกิดขึ้นนั้น จะเห็นว่าทำคะแนนได้ดีเป็นอันดับต้นๆ ของกลุ่มเลยล่ะครับ ซึ่งเป็นผลของการเลือกลงทุนตาม Investment Process ของกองทุนนี่แหละครับผม ติดตามดูกันไปก่อนครับ เดี๋ยวผมจะมาอธิบายเพิ่มเติมกันในส่วนนี้อีกทีนะครับผม

สินทรัพย์

สำหรับกองทุนนี้จะเน้นลงทุนในกลุ่มหุ้นขนาดกลางแบบผสมครับ โดยมีรายชื่อของหุ้นหลักๆ 10 ตัวนั้นจะมีความหลากหลายกระจายไปในอุตสาหกรรมต่างๆครับ แต่ถ้าหากสังเกตให้ดีอัตราส่วนของ Turnover Ratio นั้นอยู่ในระดับที่ต่ำมากครับ 25.28% เท่านั้น ซึ่งตรงนี้แสดงให้เห็นว่ากองทุนนั้นไม่ได้มีการปรับพอร์ตการลงทุนบ่อยนัก แต่เน้นไปที่การคัดเลือกหุ้นที่เข้าเกณฑ์ตามแนวทางการลงทุนหรือ Investment Process มากกว่าครับ

Investment Process

เอาล่ะครับ สำหรับกองทุนนี้ มีความน่าสนใจตรงคำว่า Low Beta ซึ่งใครๆหลายคนอาจจะนึกไปถึงยาทาสิวทาฝ้า แต่จริงๆแล้ว คำว่า Beta ในที่นี้หมายถึง ตัวเลขเปรียบเทียบระหว่างความสัมพันธ์ของราคาหุ้นกับดัชนีตลาดหลักทรัพย์ โดยค่า Beta ที่เท่ากับ 1 จะหมายถึงหุ้นที่มีค่าความผันผวนเท่ากับดัชนีตลาดหลักทรัพย์ เช่น ถ้าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ปรับตัวขึ้น 10% หุ้นตัวนี้ก็จะปรับตัวขึ้น 10% เท่ากันครับ

จะเห็นว่าแนวทางการเลือกตาม Investment Process ของกองทุนนี้จะเน้นหุ้นที่มี Beta ต่ำกว่าตลาด เพื่อลดความผันผวนเมื่อราคาปรับตัวนั่นเองครับ (ค่าเฉลี่ยของ Beta ที่กองทุนนี้เลือกจะอยู่ที่ประมาณ 0.6) แต่อย่างไรก็ตามยังเลือกหุ้นที่มีค่า Beta มากกว่า 1 ได้ไม่เกิน 20% ของพอร์ทการลงทุนครับ

แต่ไม่ใช่เพียงแค่การคัดเลือกหุ้นที่มี Beta ต่ำกว่า 1 เท่านั้น เพราะนอกจากนั้นแล้วยังมีการคัดหุ้นเป็นรายตัว ซึ่งอ้างอิงตามปัจจัยพื้นฐานของหุ้น ร่วมกับการติดตามดูค่า Beta ทุกวัน รวมถึงถ้าหากราคาเพิ่มขึ้นเกินกว่าพื้นฐานหรือเป้าหมายที่วางไว้ ก็จะมีการปรับพอร์ทได้อย่างเหมาะสมโดยการขายทำกำไรออกมาด้วยครับ

ค่าธรรมเนียม

สำหรับค่าธรรมเนียมนั้น แนวทางการพิจารณาของยอดมนุษย์กองทุนอย่างผม มักจะดูที่ค่าธรรมเนียมรวม หรือ Total Expense Ratio เป็นหลักครับ โดยกองทุนนี้มีค่าธรรมเนียมรวมอยู่ที่ 3.21% แต่ต้องบอกว่าอาจจะเก็บจริงต่ำกว่านั้น ซึ่งตรงนี้ต้องเช็คกับทางบลจ.ธนชาติอีกทีหนึ่งครับ อย่างไรก็ตาม กองทุนนี้ถือว่าเป็นกองทุนที่มีค่าธรรมเนียมที่อยู่ในระดับสูงครับ แต่กองทุนนี้ไม่มีการเก็บค่าธรรมเนียมการขายและซื้อคืนครับผม ซึ่งก็ต้องบอกว่าค่าธรรมเนียมที่แพงนั้น มาจากการดูและวิเคราะห์ Beta อย่างแนบแน่นแน่ๆเลยล่ะครับผม ฮิๆๆๆ

อย่างไรก็ตามอย่าลืมนะครับว่ากองทุนนี้คือกองทุน LTF ดังนั้นต้องมีการถือครองเกินกว่า 7 ปีปฏิทิน หากใครตัดสินใจซื้อก็อย่าลืมถือให้ครบกำหนดนะครับ ไม่งั้นจะโดนทั้งภาษีและค่าปรับหนักเลยล่ะครับผม

ส่วนจำนวนเงินซื้อขั้นต่ำนั้น เรียกได้ว่าเป็นกองทุนสำหรับประชาชนอีกแล้วครับ เพราะการซื้อครั้งแรกและครั้งต่อๆไป อยู่ที่ 1,000 บาทเท่านั้นครับ

สรุปที .. กองทุนนี้เหมาะกับใคร?

ตามธรรมเนียมของรายการครับผม นอกจากรีวิวกองทุนแล้วเรายังต้องบอกว่า กองทุนนี้เหมาะกับใคร เพื่อที่จะได้เลือกซื้อได้ตามเหมาะสมครับ โดยคนที่เหมาะกับกองทุนนี้นั้นจะต้องเป็นคนที่เสียภาษี (เพราะกองทุนนี้คือกองทุนที่ใช้ลดหย่อนภาษี) และต้องการลงทุนระยะยาวโดยถือครองได้ไม่ต่ำกว่า 7 ปีปฏิทิน (เพราะเป็นกองทุน LTF ที่มีเงื่อนไขการถือครองตามที่กฎหมายกำหนด) และต้องการเงินปันผลจากการลงทุนมาเป็นระยะๆ ซึ่งกองทุนนี้ก็มีการจ่ายเงินปันผลไปแล้ว 1 ครั้งเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมานี้เองครับผม

จุดที่น่าสนใจของกองทุนนี้คือ ความผันผวนต่ำที่ต่ำกว่าอื่นๆ เนื่องจากค่า Beta ที่ต่ำกว่าตลาด ทำให้หากหุ้นตกก็ไม่เจ็บมากเท่ากับกองทุนอื่นครับ ดังนั้นถ้าหากใครที่รับความผันผวนได้ต่ำ แต่อยากลงทุนในหุ้น กองทุนนี้ก็ถือว่าน่าสนใจเลยล่ะครับผม

ถ้าหากใครสนใจกองทุน T-LowBetaLTFD หรือ กองทุนเปิดธนชาต Low Beta หุ้นระยะยาวปันผล นั้น สามารถหาข้อมูลได้ที่ https://www.thanachartfund.com/ นะครับผม

ท้ายที่สุดแล้ว ก่อนจากกันอ่านกระผมขอแนะนำประโยคเด็ดย้ำกันอีกทีครับสำหรับคนที่ต้องการลงทุนในกองทุนรวม นั่นคือ ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวมมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน ความเสี่ยง และ ศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีในคู่มือการลงทุน LTF RMF ก่อนตัดสินใจลงทุน  ซึ่งหากไม่ได้ลงทุนตามเงื่อนไข อาจไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีนะครับผม

#หมายเหตุ ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลในหนังสือชี้ชวน และคู่มือภาษีให้เข้าใจ และควรเก็บหนังสือชี้ชวนไว้เป็นข้อมูล เพื่อใช้อ้างอิงในอนาคต และเมื่อมีข้อสงสัยให้สอบถามข้อมูลผู้ติดต่อ กับผู้ลงทุนให้เข้าใจก่อนซื้อหน่วยลงทุน

สำหรับใครที่อยากรับชมรีวิวเป็นคลิปวีดีโอ 

สามารถดูได้ที่ด้านล่างนี้กับรายการกองทุนไหนดี selected LTF RMF season 2

Facebook aomMONEY: https://goo.gl/GUEd5J

Youtube aomMONEY : https://goo.gl/JTvvGU