สวัสดีครับ กลับมาพบกับผม ยอดมนุษย์กองทุน หนุ่มหน้ามนคนเดิม ทำหน้าที่เสริมเติมประเด็นประจำรายการกองทุนไหนดี วันนี้มารับหน้าที่สรุปเรื่องราวดีๆ จากรายการกองทุนไหนดี SELECTED LTF RMF SEASON 2 ประจำปี 2017 ให้อ่านกันแบบนี้อีกแล้วครับผม

สำหรับวันนี้  เป็นอีกกองทุนหนึ่งที่น่าสนใจเช่นเดียวกันครับ โดยกองทุนนี้จะเลือกลงทุนกับหุ้นไม่เกิน 20 ตัว โดยเน้นไปที่หุ้นพื้นฐานดีมีโอกาสเติบโตเร็ว  ถือว่าเป็นกองทุนที่ขายดี และโดดเด่นที่สุดในตอนนี้ที่ทาง บลจ.กสิกรไทย ภูมิใจนำเสนอ ซึ่งนั่นก็คือ คือ คือ ....

คือออออออออออออออออ กองทุน K20SLTF 

หรือกองทุนเปิดเค 20 ซีเล็คท์หุ้นระยะยาวปันผลนั่นเองคร้าบบบบบบบ!!!!

อ๊ะๆๆๆ ขอทวนอีกทีนะครับว่า วิธีการเขียนริวิวของยอดมนุษย์กองทุนอย่างผมนั้นจะดูประเด็นเด็ดๆสำคัญจำนวน 5 เรื่องนะครับ ได้แก่ ผลตอบแทน ความเสี่ยง สินทรัพย์ Investment Process (กระบวนการลงทุนของผู้จัดการกองทุน) และค่าธรรมเนียม หลังจากนั้นจะสรุปให้ฟังว่า กองทุนนี้เหมาะกับใครนะครับผม

โอเคครับผม เรามาเริ่มกันเลยดีกว่าครับ...

ผลตอบแทน

เมื่อเปรียบเทียบภาพรวมของผลตอบแทนในกองทุนประเภทเดียวกันแล้ว จะเห็นว่ากองทุนนี้ได้รับผลตอบแทนย้อนหลังที่ดีในช่วง 3 ปีครับ ซึ่งสอดคล้องกับเงื่อนไขเก่าเกี่ยวกับระยะเวลาในการถือครอง LTF นั่นคือประมาณ 5 ปีปฎิทิน หรือ 3 ปีกว่าๆ ซึ่งเห็นได้ว่าเป็นช่วงที่ทำผลตอบแทนได้ดีครับ เห็นได้จากกองทุนอยู่ในลำดับเปอร์เซ็นไทล์อันดับต้นๆ  แต่ถ้ามองผลตอบแทนในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา อาจจะดูเหมือนว่าลำดับเปอร์เซ็นไทล์จะหล่นลงไป ซึ่งเหตุผลนั้นน่าจะมาจากหลักการในการเลือกหุ้นตามแนวทาง Investment Process นั้นเองครับ โดยตรงนี้ผมไม่ได้บอกว่าวิธีการเลือกหุ้นของทางบลจ.ผิดนะครับ เพียงแต่เราต้องเข้าใจหลักการก่อนครับ เพื่อที่จะได้เข้าใจว่าทำไมถึงทำให้อันดับผลตอบแทนลดลงในปีนั้นๆครับผม

ค่าความเสี่ยง

ข้อก่อนหน้าที่ผมพูดถึงเรื่องผลตอบแทน ที่ว่าในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา อาจจะดูเหมือนว่าอันดับผลตอบแทนปรับลดลง เมื่อเทียบกับในตลาด แต่หากมาวิเคราะห์ในเรื่องของความเสี่ยง ก็จะเห็นได้ว่า กองทุนนี้มีค่าความผันผวนที่ลดลงเช่นเดียวกันครับ ซึ่งเป็นปกติถ้าหากเราเข้าใจหลักการ Investment Process ของกองทุนนี้ แต่อย่างไรก็ตามถือว่าการที่มีความเสี่ยงลดลงนั้นนับว่าเป็นแง่ดีครับผม

สินทรัพย์

สำหรับกองทุนนี้จะเน้นลงทุนหลากหลายครับ โดยมีรายชื่อของหุ้นขนาดกลางเข้าตาเราบ้างอย่าง    ศรีสวัสดิ์พาวเวอร์ นอกจากนั้นก็เป็นหุ้นดังๆที่เราคุ้นเคยครับ โดยสัดส่วนของ Turnover Ratio นั้นจะเป็นที่สังเกตเลยว่าอยู่ในระดับกลางๆ คือ 78% (สำหรับครึ่งปี) ซึ่งตรงนี้แสดงให้เห็นว่ามีการปรับพอร์ตเพื่อสร้างผลตอบแทนอยู่ระดับหนึ่งเลยล่ะครับ

Investment Process

ส่วนสำคัญมาแล้วครับ อย่างที่ผมบอกว่านี่คือส่วนที่ทุกคนต้องทำความเข้าใจ เพราะมันทำให้เราเข้าใจว่าผลตอบแทนและความเสี่ยงที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมาของกองทุนนั้นมันเกิดจากสาเหตุอะไรกันแน่

กองทุน K20SLTF นั้น มีกลยุทธ์ของการเลือกหุ้นแบบ Selective ครับ โดยเริ่มจากกองทุนจะคัดเลือกหุ้นที่น่าสนใจมาอยู่ใน List ของ บลจ.ก่อน (เรียกว่า Universe) และคัดเฉพาะหุ้นที่มีพื้นฐานมั่นคงที่มีราคาต่ำกว่ามูลค่าพื้นฐาน ในจำนวนไม่เกิน 20 บริษัท ทั้งขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ ตามความเหมาะสมในช่วงนั้นๆ มาเข้าในพอร์ตอีกทีหนึ่งครับ

โดยมุมมองในการเลือกหุ้นจะใช้ทั้งแนวคิด Top Down และ Bottom up ในการเลือกหุ้นที่ดีให้กับกองทุน รวมถึงพิจารณาทั้งปัจจัยเชิงคุณภาพและปริมาณประกอบกันครับ ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างการเลือกลงทุนในหุ้นตามกลุ่มอุตสาหกรรมที่ตรงกับธีมการลงทุน และจังหวะที่เหมาะสมในแต่ละช่วงเวลาในการซื้อและขายทำกำไรประกอบกัน

โดยหุ้น 20 ตัวนี้ จะมีการติดตามดูแลพอร์ตการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ โดยพิจารณาทั้งปัจจัยด้านคุณภาพและราคา และมีการสร้างโอกาสเพิ่มเติมที่จะได้รับผลตอบแทนโดยวิธีการบริหารพอร์ทแบบ Core & Satellite ประกอบกันครับ

  • Core Port 70% จะเน้นไปที่หุ้นพื้นฐานดี มีแนวโน้มเติบโตระยะยาว ตามกลยุทธ์ที่ว่ามาครับ
  • Satellite Port 30% จะเน้นหุ้นที่ราคาต่ำกว่าปัจจัยต่ำกว่าพื้นฐานและจับจังหวะที่เหมาะสม ในการเข้าซื้อขายทำกำไร 

จะเห็นว่าแนวทางการเลือกตาม Investment Process นั้นจะเน้นในส่วนของการมองมูลค่าระยะยาวเป็นหลัก นั่นคือ 70% ของ Core Port ดังนั้นจึงไม่แปลกว่าทำไมผลตอบแทนระยะสั้นอาจจะไม่ได้สูงมากนัก เพราะว่ามันเป็นการมองในภาพรวมระยะยาวนั่นเองครับ 

ค่าธรรมเนียม

สำหรับค่าธรรมเนียมนั้น แนวทางการพิจารณาของยอดมนุษย์กองทุนอย่างผม มักจะดูที่ค่าธรรมเนียมรวม หรือ Total Expense Ratio เป็นหลักครับ โดยกองทุนนี้มีค่าธรรมเนียมรวมอยู่ที่ 2.16% ซึ่งถือว่าเป็นกองทุนที่มีค่าธรรมเนียมที่อยู่ในระดับปานกลางค่อนไปทางสูงครับ แต่กองทุนนี้ไม่มีการเก็บค่าธรรมเนียมการขายและซื้อคืนครับ

 

แต่สิ่งที่ควรทราบตามเงื่อนไขของ LTF ทั่วไปก็คือ การขายคืนในกรณีที่ถือครองไม่เกิน 1 ปี จะมีค่าธรรมเนียมในอัตรา 1.5% และกรณีการสับเปลี่ยนกองทุนไปบลจ.อื่นครับ อย่างไรก็ตามอย่าลืมนะครับว่ากองทุนนี้คือ LTF ดังนั้นต้องมีการถือครองตามเงื่อนไข คือ  7 ปีปฏิทิน  ดังนั้นถ้าตัดสินใจซื้อแล้วก็อย่าขายก่อนกำหนดนะครับ ไม่งั้นจะโดนทั้งภาษีและค่าปรับด้วยนะครับ

ส่วนจำนวนเงินซื้อขั้นต่ำนั้น เรียกได้ว่าเป็นกองทุนสำหรับประชาชนเลยล่ะครับ เพราะลงทุนครั้งแรกและครั้งต่อๆไป อยู่ที่ 500 บาทเท่านั้นครับ

สรุปอีกที .. กองทุนนี้เหมาะกับใคร?

ตามธรรมเนียมของรายการ  นอกจากรีวิวกองทุนแล้วเรายังต้องบอกว่า กองทุนนี้เหมาะกับใคร เพื่อที่จะได้เลือกซื้อได้ตามเหมาะสมครับ โดยคนที่เหมาะกับกองทุนนี้ แน่นอนว่าต้องเป็นคนที่ต้องการใช้ลดหย่อนภาษี แต่ที่สำคัญอีกข้อคือ เหมาะกับคนที่ต้องการสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวด้วย โดยไม่แคร์กับความผันผวนในระยะสั้นๆ นอกจากนี้ กองทุนนี้มีการจ่ายปันผลออกมาอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งเหมาะกับคนที่ต้องการเงินปันผลมาเป็นระยะๆ อีกด้วยครับผม

จุดที่น่าสนใจของกองทุนนี้คือ วิธีการเลือกหุ้นที่มีสไตล์ของตัวเอง และเลือกหุ้นจำนวนน้อยโดยเน้นไปที่คุณภาพ ซึ่งมาจากกลยุทธ์การบริหารกองทุนโดยใช้หลัก คัดเลือกหุ้น - วิเคราะห์เจาะลึก- เน้นการให้น้ำหนักและจังหวะในการลงทุนประกอบกันครับ

ถ้าหากใครสนใจกองทุน K20SLTF หรือกองทุนเปิดเค 20 ซีเล็คท์หุ้นระยะยาวปันผล นั้น

สามารถหาข้อมูลได้ที่ http://www.kasikornasset.com/Pages/LTF-RMF.aspx นะครับผม

ท้ายที่สุดแล้ว ก่อนจากกันกระผมขอแนะนำประโยคเด็ดย้ำกันอีกทีครับสำหรับคนที่ต้องการลงทุนในกองทุนรวม นั่นคือ ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวมมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน ความเสี่ยง และ ศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีในคู่มือการลงทุน LTF RMF ก่อนตัดสินใจลงทุน  ซึ่งหากไม่ได้ลงทุนตามเงื่อนไข อาจไม่ได้รับสิทธิประโยชน์นะครับผม

สำหรับใครที่อยากรับชมรีวิวเป็นคลิปวีดีโอ 

สามารถดูได้ที่ด้านล่างนี้กับรายการกองทุนไหนดี selected LTF RMF season 2

Facebook aomMONEY: https://goo.gl/PWzrw9

Youtube aomMONEY : https://goo.gl/pXmtHr