กระเป๋าแบรนด์เนมสุดชิค รองเท้า Vintage สุดคูล หรือกางเกงยีนส์ฟอกสีสุดเท่ห์ โอย อยากได้ แต่ราคาแพงเหลือเกิน พวกเราคนทั่วไปที่อยากประหยัดก็มักจะหาซื้อของแบรนด์เนมจากร้านออนไลน์ที่แม่ค้าหิ้วมา หรือซื้อมือสองจากคนแปลกหน้าในเน็ตกันเอา แต่จะซื้อแต่ละครั้งก็ต้องกุมขมับ เพราะเดี๋ยวนี้ของปลอมมีอยู่เกลื่อนตลาด บริษัทเทคโนโลยี (Startup) จาก Sillicon Valley ในสหรัฐอเมริกาชื่อ Chronicled เห็นศักยภาพของระบบ Blockchain จึงใช้เทคโนโลยีตัวนี้ Digitize หรือทำให้สินค้าแบรนด์เนมขึ้นไปอยู่ในระบบดิจิตอลเสียเลย

Blockchain มีดีอะไรทำไมต้องใช้มันมาตรวจสอบว่าแบรนด์เนมไหนจริง?

ระบบ Blockchain เป็นการเก็บข้อมูลแบบกระจายไว้หลายที่โดยไม่มีศูนย์กลาง (Decentralize) โดยเก็บข้อมูลชุดหนึ่งเป็นกล่อง (Block) แล้วเข้ารหัสขั้นสูงเพื่อเชื่อมกับกล่องต่อไปจนกลายเป็นสายโซ่ (Chain) แค่จะเจาะเข้าไปในกล่องและโซ่ที่แน่นหนานี้ว่ายากแล้ว ยังยากขึ้นไปอีกเพราะสายโซ่กล่องข้อมูล (Blockchain) เหล่านี้ถูกทำสำเนาไว้ในฟาร์มคอมพิวเตอร์ (เหมือนฟาร์มวัวที่มีวัวเยอะๆ นี้แทนวัวด้วยความพิวเตอร์แทน) เกือบหมื่นฟาร์ม แต่ละฟาร์มเรียกว่าจุดยืนยันข้อมูล (Node) เพราะฉะนั้นจะไม่มีใครคนใดคนควบคุมข้อมูลเหล่านี้ได้ แต่จะการกระจายอำนาจในการจัดเก็บและอัพเดทเพื่อยืนยันข้อมูลตลอดเวลา ทำให้ข้อมูลมีความโปร่งใส่สูง

นอกจากนี้ คนที่จะอนุมัติว่าสิ่งที่นำมาขึ้นระบบเนี่ยมีอยู่จริงหรือไม่? จะเป็นองค์กรที่ 3 (Third-party) ที่น่าเชื่อถือและไม่มีส่วนได้เสียใดๆ ทั้งสิ้น อย่างเช่นกรณีการอนุมัติข้อมูลสินค้าแบรนด์เนมก็จะมีการตรวจสอบก่อนจะอนุญาติให้ขึ้นระบบ หรืออย่างบริษัทเทคโนโลยีการเงิน Everex เองก็จะให้ธนาคารตรวจสอบและยืนยันว่ามีการนำเงินไปวางค้ำประกันไว้ในธนาคารจริง ก่อนจะเอาหลักฐานไปขออนุญาติตรา (Issue) เงินดิจิตอลเข้ารหัส (Crypto-currency) ในจำนวนเท่ากับเงินที่มีอยู่จริง ด้วยความโปร่งใส่แบบนี้ เลยทำให้ Chronicled เลือกใช้เทคโนโลยี Blockchain มาแก้ไขปัญหาเรื่องการยืนยันสินค้าแบรนด์เนม

Chronicled ทำงานอย่างไร?

Chronicled สร้าง Smart Tag (Cryptographic Microchips) หรือฉลากสินค้าดิจิตอลแล้วเอาไปขายให้กับผู้ผลิตสินค้าแบรนด์เนม ร้านขายสินค้าแบรนด์เนม หรือคนที่มีสินค้าแบรนด์เนมอยู่ในครอบครอง ฉลากสินค้านี้จะเก็บข้อมูลสินค้าอยู่บนเครือข่าย Blockchain สำหรับบุคคลทั่วไปที่มีสินค้าอยู่แล้ว จะต้องส่งสินค้าแบรนด์เนมของตนไปให้ตรวจสอบก่อนว่าสินค้าที่กำลังนำข้อมูลขึ้นระบบ Blockchain เนี่ยเป็นของจริงหรือของปลอม ถ้าเป็นของจริงก็นำขึ้นได้เลย

ทีนี้เมื่อมีคนมาขอซื้อสินค้าแบรนด์เนมกับเจ้าของ คนซื้อสามารถหยิบมือถือและเปิด Application ของ Chronicled เพื่อสแกนและดูข้อมูลของสินค้าแบรนด์เนมได้ โดยข้อมูลจะบอกรายละเอียดว่าใครเป็นเจ้าของ ผลิตเมื่อไหร่ ผลิตที่ไหน มูลค่าเท่าไหร่ ผู้ซื้อไม่ต้องเสียเวลาดม ถู หรือกลับตะเข็บตรวจสอบอีกต่อไป

นอกจากนี้แบรนด์เนมทุกชิ้นที่ติด Smart Tag จะถูกการันตีโดย Chronicled ถ้าตรวจพบภายหลังว่าเป็นสินค้าปลอม บริษัทจะคืนเงินให้เท่าจำนวนที่จ่ายจริง เรียกว่าผู้ซื้ออุ่นใจได้เลยว่ายังไงก็ไม่ถูกต้มตุ๋นแน่ๆ

ค้าขายสินค้าแบรนด์เนมกันสบายใจ

เมื่อมีคนใช้ Smart Tag ติดบนสินค้าแบรนด์เนม ก็จะมีสินค้าแบรนด์รุ่น Limited Editon รุ่นหายาก รุ่นดัง มากมายอยู่บนระบบ แถมทุกชิ้นเป็นของแท้แน่นอน 100% ช่างเป็นสวรรค์ของนักสะสม หรือนักเก็งกำไรสินค้าแบรนด์เนมเป็นที่สุด เพราะสามารถซื้อขายสินค้าแบรนด์เนมได้ใน Application เลย

ข้อดีของ Application Chronicled?

  1. คนซื้อสบายใจคลายกังวลไม่ต้องกลัวของก๊อป นักสะสมก็อุ่นใจว่าสินค้าแบรนด์เนมในสต๊อคไม่ได้ถูกยอมแมวขาย
  2. อำนวยความสะดวกให้ค้าขายและเก็งกำไรสินค้าแบรนด์เนมง่ายขึ้น
  3. เจ้าของแบรนด์เนมสามารถสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ ทำให้ลูกค้ามั่นใจมากขึ้น และขจัดของก๊อปออกจากตลาด
  4. ใช้งานง่านสะดวกสบายเพราะแค่ใช้มือถือสแกนก็รู้ข้อมูลของสินค้า แบรนด์เนมแล้ว

วันนี้ฉีกแนวขอพูดถึงผลิตภัณฑ์อีกตัวที่สร้างจากระบบ Blockchain ซึ่งคราวนี้ผิดคาดเพราะไม่ใช่กระบวนการทำให้กลายเป็นดิจิตอล (Digitized) ของผลิตภัณฑ์ทางการเงินและทองคำที่เราเชี่ยวชาญ แต่เป็นสินค้าแบรนด์เนมแทน ซึ่งเปิดโลกให้พวกเรารู้ว่า จริงๆ แล้ว Blockchain เป็นระบบสารพัดประโยชน์ และรอให้คนรุ่นใหม่ไฟแรงช่วยกันคิดค้นพัฒนาหาวิธีใช้ประโยชน์มันอยู่เรื่อยๆ ซึ่งนักวิเคราะห์ทั่วโลกเชื่อว่านวัตกรรมนี้จะเปลี่ยนโลกให้ก้าวหน้าขึ้นไปอีกมากไม่แพ้เมื่อครั้งที่ Internet ได้เปลี่ยนโลกอย่างก้าวกระโดดก่อนหน้านี้เลย

ใครสนใจลองแวะเข้าไปดูเพิ่มเติมได้ที่: http://www.chronicled.com/

และใครสนใจเทคโนโลยี Blockchain ทางการเงิน เข้าไปติดตามได้ที่: www.facebook.com/EverexTH และ www.Everex.co.th

#Blockchain #Brandname #Fintech