พูดถึงคำว่า Blockchain ทีไร คนมักคิดว่ามันคือ Bitcoin ทุกที เราเลยอธิบายให้เห็นภาพกันชัดๆว่า Blockchain เนี่ยอารมณ์คล้ายๆ www. ตอนเพิ่งเกิดเลย คือเป็นระบบที่ให้ผลิตภัณฑ์ตัวอื่นๆมาใช้ได้ อย่าง www. เนี่ยก็จะมี Google,Yahoo ที่เป็น Search Engine หรือมี Amazon เว็บไซต์ขายของออนไลน์ตั้งแต่สากบือยันเรือรบ ถ้ายุคใหม่ๆหน่อยก็เป็น Facebook,Instagram พวกตระกูล Social Media ทั้งหลาย เห็นภาพมั้ยว่า www. มันไม่ใช่ Google นะ ไม่ใช่ Facebook นะ มันเป็นแค่ระบบที่ทำให้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้เกิดได้เท่านั้นเอง กลับมาที่ Blockchain เองก็เหมือนกันเลย ตัว Blockchain เนี่ยเป็นระบบจัดเก็บข้อมูลที่มีคุณสมบัติพิเศษคือเก็บแบบไม่รวมศูนย์กลางหรือ Decentralize ทำให้ปลอดภัยกว่า แฮคยาก และโปร่งใสสุดๆ บางทีเรายึดติดว่า Blockchain เนี่ยเป็นเรื่องของคนวงการการเงินเท่านั้น แต่จริงๆแล้วไม่ใช่เลย Blockchain ทำอะไรได้มากกว่านั้นเยอะ และขอแอบกระซิบเลยว่าระบบ Blockchain มาพร้อมกับโอกาสทางธุรกิจที่น่าสนใจ

Blockchain เปลี่ยนวงการดนตรี

วงการดนตรีเริ่มขยับตัวแล้วครับ เริ่มจาก Cédric Cobban ก่อตั้ง PeerTracks คือเป็นตัวกลางที่ให้คนที่ชอบฟังเพลงกับนักดนตรีซื้อขายเพลงกันได้โดยตรงเลย หรือค่ายเพลงที่ต้องการหานักดนตรี นักแต่งเพลง สามารถใช้ PeerTracks เป็นแคทตาล๊อคคนหานักดนตรีที่มีพรสวรรค์ได้เลย ตัวแพลฟอร์มยังเปิดโอกาสให้นักดนตรีเข้าถึงแฟนๆได้มากขึ้นและเป็นเวทีแจ้งเกิดนักดนตรีหน้าใหม่ นักดนตรีเองตั้งราคาเพลงที่ต้องการขายได้ตามใจชอบ และไม่ต้องกังวลการละเมิดลิขสิทธิ์ เพราะเมื่อคนนักดนตรีเอาเพลงขึ้นจัดเก็บบนระบบ Blockchain แล้ว มันแฮคยากมาก นอกจากนั้นระบบ Blockchain ยังมาช่วยเรื่องระบบจ่ายเงินทำให้สะดวกยิ่งขึ้น คือเมื่อมีการตกลงซื้อขาย ระบบจะตั้งเป็น SmartContract เมื่อฝ่ายผู้ซื้อได้เพลง ระบบจะโอนเงินเข้าบัญชีนักดนตรีภายใน 5 นาทีเลย แต่ถ้าผู้ซื้อไม่ได้เพลง เงินก็จะโอนกลับมายังกระเป๋าผู้ซื้อ

Blockchain กับการโอนเงินรูปแบบใหม่

ทุกวันนี้ส่งเงินข้ามประเทศแต่ละครั้งไม่ใช่ถูกๆ เราต้องเสียค่าโอนเงินข้ามประเทศประมาณ 7-35 เปอร์เซนต์ นี่ยังไม่รวมค่าอัตราแลกเปลี่ยนที่บางครั้ง บางเจ้า ไม่เป็นธรรมเท่าไหร่นัก แต่ในเมื่อเราไม่มีตัวเลือกก็ต้องใช้บริการไป เมื่อมีระบบ Blockchain ทุกอย่างจะถูกลงเพราะตัวระบบ Blockchain นั้นมีคุณสมบัติคือ สามารถ digitize เงินสกุลดิจิตอลได้ แต่ไม่ใช่อยู่ดีๆจะพิมพ์เข้าระบบไปลอยๆว่ามีเงินดิจิตอล 1 ล้านบาทหรือปั๊มจำนวนเงินจากอากาศ แบบนั้นทำไม่ได้เลย เพราะระบบจะมีบุคคลที่ 3 ที่ไม่มีส่วนได้เสียตรวจสอบว่าเรามีทรัพย์สินจริงหรือไม่ก่อน เช่น อย่างบริษัท Everex เองก็ใช้ระบบ Blockchain ในการ Digitize เงินสกุล Everex ขึ้นไปบนระบบกว่าบริษัทจะ Digitize เงินสกุล EverexTH ที่เป็นดิจิตอลบนระบบ Blockchainได้ก็ต้องมีเงินจำนวนจริงๆสำรองไว้ที่ธนาคารก่อน   โดยวิธีการที่บริษัทที่ดำเนินการด้านโอนเงิน ทำได้ด้วยการใช้ระบบ Blockchain คือการไป Digitize เงินดิจิตอลสกุลต่างๆเช่น Everexพม่า, Everex ฟิลิปินส์ เมื่อมีเงินสกุลต่างๆแล้วการจะแลกเปลี่ยนก็สามารถทำผ่าน wallet หรือกระเป๋าเงินดิจิตอลได้เลย 

หลายคนอาจสงสัยว่าและจากเงินดิจิตอลจะกลายเอาเงินจริงออกมาได้ยังไง วิธีการก็คือมี Agent ที่รับซื้อเงินดิจิตอล ด้วยระบบ Blockchain ทำให้การแลกเงินผ่าน Everex สะดวก ปลอดภัย และสบายใจค่าธรรมเนียม

Blockchain ปรับบริการในโรงพยาบาลให้รวดเร็วขึ้น

จินตนาการภาพเวลาเราย้ายโรงพยาบาล ย้ายคลินิค เราต้องเสียเวลาเป็นครึ่งวันเพื่อไปขอแฟ้มประวัติจากหมอคนเก่าเพื่อเอามาให้หมอคนใหม่ ไหนจะฟิมล์เอกซ์เรย์อีก ลองนึกถึงเวลาฉุกเฉินเกิดเหตุเร่งด่วนการต้องรอแฟ้มประวัติอาจไม่ทันการ กลุ่มนักเทคโนโลยีมองเห็น Blockchain ที่เป็นระบบจัดเก็บข้อมูลที่ปลอดภัยจึงคิดนำระบบนี้มาใช้จัดการระบบผู้ป่วย โดยผู้ป่วย ญาติ หมอประจำตัวจะมีรหัสเพื่อเข้าไปดูแฟ้มประวัตินั้นได้ และเมื่อหมอตรวจแต่ละครั้งต้องการบันทึกข้อมูลก็ไม่ต้องจดลงกระดาษเปลี่ยนมาบันทึกบนระบบ Blockchain ได้เลย แค่นี้เราก็ไม่ต้องกังวลเวลาเปลี่ยนหมอเพราะแค่บอกรหัสของเราหมอคนใหม่ก็เข้าดูข้อมูลสุขภาพย้อนหลังของเราได้แล้ว

นอกจากนั้นระบบนี้จะเอื้อต้องกระทรวงสาธารณสุขมากๆเพราะจะเก็บสถิติได้เลยว่าแต่ละปีคนในประเทศป่วยเป็นโรคอะไรมากที่สุด วิธีการรักษาแบบไหนที่ได้ผล โรงพยาบาลไหนประสิทธิภาพดี คนไข้ใช้ยาประเภทไหนมากที่สุด หรือมีคนมีแนวโน้มเป็นโรคอย่างเช่นไข้หวัดนก เมื่อกระทรวงเข้าถึงข้อมูลได้เร็วก็คิดหาวิธีป้องกันได้เร็ว ซึ่งตอนนี้มี Terion กับ Gem ที่กำลังพยายามพัฒนาระบบ Blockchain เพื่อจัดเก็บข้อมูลผู้ป่วยอยู่

Blockchain ยกระดับการขนส่ง

เวลาไปไปรษณีย์แต่ละครั้ง เราจ่ายเงินไปแล้วทั้งๆที่ไม่รู้เลยว่าของจะถึงเป้าหมายหรือเปล่า ด้วยระบบ Blockchain ที่มีฟังชั่นทำ Smart Contract ได้จะเกิดประโยชน์กับผู้ใช้บริการไปรษณีย์เพราะระบบนี้จะเขียนโค้ดให้เงินที่เราจ่ายให้ไปรษณีย์ผ่านกระเป๋าเงินดิจิตอลจะยังไม่โอนไปให้ทางไปรษณีย์จนกว่าของจะถึง

นอกจากนั้นไปรษณีย์ในสหรัญอเมริกายังเห็นช่องโหว่งเรื่องประสิทธิภาพของรถขนส่งของไปรษณีย์ที่ทำให้การขนส่งล่าช้า โดยไปรษณีย์สหรัฐอเมริกาเสียเงินปีละกว่า 1 ล้านดอลล่าร์เพราะรถขนส่งที่ขาดประสิทธิภาพดังนั้นถ้าใช้ระบบ blockchain เพื่ออัพโหลดข้อมูลแต่ละคันของไปรษณีย์และระบุอายุใช้งาน วันที่เข้าศูนย์ ต่อประกัน ข้อมูลเหล่านี้ถ้าขึ้นระบบข้อมูลกลางได้จะทำให้ไปรษณีย์การลดต้นทุนได้เยอะ

ทั้งหมดที่กล่าวมาเป็นไอเดียคร่าวๆของโอกาสธุรกิจที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตพร้อมกับระบบ Blockchain ตอนนี้ระบบ Blockchain เรียกได้ว่าอยู่ในช่วงบุกเบิก และเชื่อว่าอีกไม่นานระบบนี้จะบูมขึ้นเรื่อยจนเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันทุกคน วันนั้นแหละเราจะได้เห็นธุรกิจที่เกี่ยวพันกับระบบ Blockchain กันเพียบเลย

ใครสนใจลองแวะเข้าไปดูเพิ่มเติมได้ที่: http://www.chronicled.com/

และใครสนใจเทคโนโลยี Blockchain ทางการเงิน เข้าไปติดตามได้ที่: www.facebook.com/EverexTH และ www.Everex.co.th

#Blockchain #Brandname #Fintech