ประเทศไทยเริ่มเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบในปีนี้ โดยมีการยกเลิกระบบ test and go ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และยกเลิกระบบ Thailand Pass ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา หลังจากการเปิดประเทศตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาประเทศไทยมีการปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยจำนวนนักท่องเที่ยวปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 133,903 คน ในเดือนมกราคม 2565 เพิ่มขึ้นเป็น 521,410 ในเดือนพฤษภาคม 2565 และ คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 7-10 ล้านคนในช่วงปลายปีนี้ (ตัวเลขจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย)

จากการฟื้นตัวของสถานการณ์การเดินทางระหว่างประเทศของประเทศไทยดังกล่าว จึงเป็นจังหวะเวลาในการลงทุนในธีมเปิดเมืองในหุ้นหรือกองอสังหาเองก็ตาม

ธุรกิจหนึ่งที่คาดว่าจะฟื้นตัวได้เป็นอย่างดีตามการเปิดประเทศนี้ คือ ธุรกิจสนามบินเนื่องจากเป็นประตูสู่ประเทศไทย ซึ่งรวมถึงสนามบินในแหล่งท่องเที่ยว อย่างสนามบินสมุย ซึ่งเป็นประตูสู่เกาะสมุย หนึ่งในแหล่งเที่ยวยอดนิยมของประเทศไทย และในจังหวะที่สมุยมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ สนามบินสมุยก็เปิดโอกาสให้คนทั่วไปได้เข้าร่วมลงทุนในสนามบินแห่งนี้ด้วยเช่นกัน ผ่านกองทรัสต์ BAREIT

รายละเอียดของกองทรัสต์สนามบินสมุย

BAREIT หรือ ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์สนามบินการบินกรุงเทพ เป็นกองทรัสต์ที่ระดมทุนเพื่อลงทุนในสิทธิการเช่าสนามบินสมุย เป็นระยะเวลา 25 ปี

โดย บมจ. การบินกรุงเทพ หรือ BA ซึ่งเป็นเจ้าของสนามบินสมุย (และยังเป็นเจ้าของสนามบินสุโขทัยและสนามบินตราด) หากใครที่อยากลงทุนในสนามบินสมุย ก็แนะนำให้ซื้อหน่วยทรัสต์จากกองทรัสต์ BAREIT ที่ BA ได้นำทรัพย์สินเข้าระดมทุน และเปิดให้คนทั่วไปได้เข้าลงทุนได้

ทำไมต้องเป็นกองทรัสต์ BAREIT

แม้จำนวนนักท่องเที่ยวจะเริ่มฟื้นตัวในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 จำนวนนักท่องเที่ยวชาวไทยที่เดินทางเที่ยวในประเทศ พุ่งสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงก็ยังคงมีอยู่ ในกรณีที่การฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศไม่กลับมาเร็วเหมือนที่คิดไว้ หรือมีการระบาดระลอกใหม่ที่อาจทำให้การท่องเที่ยวกระทบอีกครั้ง และหากรายได้ของกองทรัสต์ขึ้นอยู่กับรายได้ของสนามบินโดยตรง ผู้ถือหน่วยในกองทรัสต์ก็จะมีความเสี่ยงจากการที่ไม่ได้รับผลตอบแทนตามที่หวังไว้ได้

ข้อดีของกองทรัสต์ BAREIT ก็คือ รายได้ของกองทรัสต์จะมาจากการปล่อยเช่าสนามบินสมุยให้กับบริษัทย่อยของ BA เป็นผู้บริหารสนามบิน ทำให้กองทรัสต์ได้รับค่าเช่าสนามบินที่เป็นรายได้ที่สม่ำเสมอตลอดระยะเวลา 25 ปี และค่าเช่านี้ก็จะปรับเพิ่มขึ้นทุกๆปี ปีละประมาณ 2%

นั่นหมายความว่า ผลตอบแทนของผู้ถือกองทรัสต์จะไม่ได้อิงกับรายได้ของสนามบินโดยตรง แต่ได้จากค่าเช่าที่กำหนดไว้ตามสัญญาเช่าแล้ว ดังนั้น ไม่ว่านักท่องเที่ยวจะกลับมาเท่ากับช่วงก่อนเกิดโรคระบาดเร็วหรือช้าแค่ไหนก็ตาม ผู้ถือกองทรัสต์ก็จะยังได้ผลตอบแทนอย่างสม่ำเสมอ  

จุดเด่นของ BAREIT

จุดเด่นข้อแรกสุดของ BAREIT คือผลตอบแทน โดยกองทรัสต์ BAREIT มีประมาณการอัตราผลตอบแทนต่อหน่วยในปีแรก ประมาณ 8.09 -8.95%* ต่อปี นับว่าไม่น้อยเลยเมื่อเทียบกับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากในปัจจุบัน และยังมีนโยบายจ่ายผลตอบแทนแก่ผู้ลงทุนถึงปีละ 4 ครั้ง

*อ้างอิงประมาณการอัตราเงินจ่ายประโยชน์ตอบแทนของกองทรัสต์สำหรับช่วงเวลาประมาณการตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2565 ถึง 31 กรกฎาคม 2566 สำหรับช่วงมูลค่าทรัพย์สินที่กองทรัสต์จะเข้าลงทุน ซึ่งแสดงไว้ในหนังสือชี้ชวน

ประการต่อมา BAREIT และสนามบินสมุย บริหารจัดการโดยทีมงานของ BA ซึ่งมีประสบการณ์และเชี่ยวชาญในธุรกิจสายการบิน สนามบิน และธุรกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ทำให้มั่นใจได้ว่าการใช้ประโยชน์ทรัพย์สินต่าง ๆ ที่อยู่ภายใต้กอง BAREIT จะเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

ประการที่สาม ศักยภาพในการสร้างรายได้ของสนามบินสมุย เพื่อมาชำระค่าเช่านั้น มีศักยภาพสูง เพราะสนามบินนี้ BA ได้ถูกพัฒนาและปรับปรุงมาตลอด และยกระดับขึ้นเป็นสนามบินนานาชาติ ที่สามารถเชื่อมต่อและมีเที่ยวบินที่บินตรงไปยังเมืองหลักๆในภูมิภาคอีกหลายเมือง เช่น สิงคโปร์ ฮ่องกง กัวลาลัมเปอร์ รวมทั้งBAยังขยายเครือข่ายการบินกับสายการบินอื่นให้ครอบคลุมเส้นทางการบินได้กว้างขวางยิ่งขึ้น สนามบินนี้มีสัญญาเช่ากับกองทรัสต์ BAREIT เป็นเวลา 25 ปี จึงทำให้กองทรัสต์มีรายได้ที่เข้ามาต่อเนื่องจนครบกำหนดอายุสัญญา

ประการสุดท้าย คือ BA ยังมีโครงการสนามบิน อีกสองแห่งที่ยังเป็นเจ้าของและบริหารงานอยู่ นั่นคือสนามบินสุโขทัย สนามบินตราด  ซึ่งเป็นสนามบินที่ตั้งอยู่ในแหล่งท่องเที่ยวที่มีศักยภาพสูง และมีผู้ใช้บริการต่อเนื่อง กองทรัสต์ BAREIT จะได้รับสิทธิในการปฏิเสธก่อน หมายความว่า หาก BA ต้องการนำทรัพย์สินสนามบินเข้ากองทรัสต์อีก กองทรัสต์ BAREIT จะได้รับสิทธิในการพิจารณาก่อนว่าจะลงทุนในทรัพย์สินนั้นหรือไม่ นั่นเท่ากับว่า หากในอนาคตกองทรัสต์ BAREIT จะมีทรัพย์สินภายใต้กองทรัสต์เพิ่มขึ้น ก็จะมีโอกาสที่รายได้จากค่าเช่าจะเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย

ด้วยจุดเด่นข้างต้น กอง BAREIT จึงเป็นหนึ่งในทางเลือกการลงทุนที่น่าสนใจ เพื่อรับผลตอบแทนสม่ำเสมอ ในธีมเปิดเมือง รับการเปิดประเทศของประเทศไทยได้เป็นอย่างดี

สำหรับผู้ที่สนใจจองซื้อกองทรัสต์ BAREIT สามารถจองซื้อ ได้ตั้งแต่วันที่ 22-26 สิงหาคม 2565 ในราคาเสนอขายหน่วยทรัสต์ที่ 10 บาท ผ่านทาง ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารกรุงเทพ, ธนาคารกรุงไทย, บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) และ บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์(ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) 

สามารถศึกษารายละเอียดกอง BAREIT เข้าอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://market.sec.or.th/public/ipos/IPOSEQ01.aspx?TransID=420284&lang=th

บทความนี้เป็น Advertorial