ใครต่อใครก็บอกว่า “การไม่มีหนี้ เป็นลาภอันประเสริฐ” แต่ในความเป็นจริงแล้ว คนเราหลีกเลี่ยงการเป็นหนี้ได้ทุกคนหรอ? ในเมื่อ “หนี้สิน” มันแลกมาด้วยสิ่งที่หลายคนต้องการทั้ง เงินสด บ้าน และรถยนต์

หนี้ไม่ใช่สิ่งที่เราต้องหวาดกลัว หากเรารู้จักวิธีจัดการที่ถูกต้อง! ถ้าคิดจะมีหนี้ซักก้อนหนึ่ง ต้องมีการเตรียมความพร้อม ศึกษารายละเอียดจากหลายๆ แหล่งก่อน และยิ่งถ้าเรารู้ทริกการปรับลดค่าใช้จ่ายต่างๆ จากการเป็นหนี้ ก็ยิ่งช่วยประหยัดเงินในกระเป๋า ...มีหนี้ก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย ถูกมั้ย!?

ทำความรู้จักกับเคล็บลับประหยัดหนี้ด้วยการรีไฟแนนซ์

การทำ รีไฟแนนซ์ ก็ถือเป็นเทคนิคหนึ่งที่ช่วยลดต้นทุนทางการเงินอย่าง “ดอกเบี้ยเงินกู้” เหมาะกับคนที่มีหนี้ระยะยาวเกินกว่า 3-5 ปีขึ้นไป เป็นการปรับเปลี่ยนแหล่งเงินกู้ เพื่อให้ได้ดอกเบี้ยที่ถูกกว่า ภาระค่าใช้จ่ายลดลง ผ่อนได้หมดไวสบายใจกว่าเดิม คนที่ทำมีแต่ได้กับได้ ฉลาดสุดๆ!!!

อาจจะเป็นเพราะระยะเวลาการผ่อนรถสั้นกว่าที่อยู่อาศัย (ส่วนมากผ่อน 3-5 ปี) มีน้อยคนที่จะให้ความสนใจกับการทำ “รีไฟแนนซ์รถยนต์” เพราะมันดูเป็นเรื่องยุ่งยากหยุมหยิม ถ้าต้องทำขั้นตอนต่างๆ เพื่อลดค่าใช้จ่ายที่เหลืออีกแค่ไม่กี่ปี หรือบางคนก็คิดว่าไม่จำเป็น ไม่รู้ว่าทำไปแล้วได้ประโยชน์อะไรจากมันบ้าง จึงไม่สนใจทำรีไฟแนนซ์รถยนต์กัน

รีไฟแนนซ์รถยนต์ ทำไปเพื่อออออ !?

จุดมุ่งหมายหลักอย่างแรกของคนที่อยากทำรีไฟแนนซ์รถยนต์ ก็คือ “อยากให้ภาระเงินผ่อนต่อเดือนน้อยลง และผ่อนชำระได้นานขึ้น” บางครั้งภาระค่าใช้จ่ายในชีวิตอาจจะเพิ่มขึ้นในระหว่างที่ผ่อนรถอยู่ เราจำเป็นต้องลดค่าใช้จ่ายคงที่จากการผ่อนลดแต่ละงวดให้น้อยลง เพื่อนำเงินที่ประหยัดได้ไปใช้ต่อยอดในส่วนอื่น

เรื่องต่อมาก็คือ “อยากได้ส่วนต่างราคา มาใช้จ่ายหมุนเวียน” เพราะการทำรีไฟแนนซ์รถยนต์มีโอกาสที่จะได้รับเงินส่วนต่างของ ยอดจัดใหม่ (ราคาประเมินรถครั้งใหม่) กับ ยอดค้างเดิม ซึ่งเราสามารถนำเงินส่วนต่างนี้ออกมาใช้หมุนเวียนยามฉุกเฉิน หรือใช้ในวัตถุประสงค์ส่วนตัว 

เหมือนกับการนำรถไปค้ำประกันเงินกู้ ให้ธนาคารประเมินราคา เพื่อรับเงินก้อนมาหมุนเวียน โดยได้ดอกเบี้ยใหม่ที่ 4- 5 % ต่อปี ถูกกว่า การกู้ยืมผ่านบัตรเครดิตที่ 25% ต่อปี ประหยัดดอกเบี้ยเงินกู้ไปได้เยอะมาก !!

บางคนก็มีวัตถุประสงค์อื่นในการทำรีไฟแนนซ์รถ คือ ความไม่ชอบส่วนตัว ไม่ชอบการทวงหนี้ การบริการ และการดูแลของแหล่งเงินกู้ที่เก่า ก็เลยเปลี่ยนที่ซะเลย หมั่นไส้!

มารีไฟแนนซ์รถยนต์กันเถอะ !!

Car Loan Refinance เรียกทับศัพท์กันว่า รีไฟแนนซ์รถ เป็นการนำรถที่เรากำลังผ่อนชำระอยู่ ยื่นให้ธนาคารที่เดิม หรือที่ใหม่ ทำการประเมินหลักประกัน ขอให้ธนาคารจัดไฟแนนซ์ให้ใหม่กับรถยนต์คันเดิมที่กำลังผ่อนอยู่

ที่ต้องขอให้จัดไฟแนนซ์ใหม่เป็นเพราะรถยนต์ที่เป็นสินทรัพย์ค้ำประกัน มีราคาประเมินปัจจุบันสูงกว่าวงเงินกู้ที่ค้างชำระอยู่ ณ ขณะนี้ เราสามารถนำเงินส่วนต่างนี้ออกมาได้ โดยเสียดอกเบี้ยไม่มาก หรืออยากยืดระยะเวลาการผ่อน เพื่อจำนวนเงินผ่อนในปัจจุบันให้น้อยลงก็ได้

ตัวอย่างเช่น นายปั้น ซื้อรถยนต์ Honda City ปี 2013 ในราคา 700,000 บาท ดาวน์ไปแล้ว 25% ที่ 175,000 บาท มียอดจัดที่เหลือ 525,000 บาท มีเงื่อนไขจากธนาคารกรุงศรีฯ คิดดอกเบี้ยที่ 4% ต่อปี ระยะเวลาผ่อน 60 งวดเดือน (5 ปี)

นายปั้นมี “ดอกเบี้ย” ที่ต้องชำระคืน 525,000 x 4% = 21,000 บาทต่อปี รวมทั้งหมด 5 ปีต้องจ่ายดอกเบี้ยให้ธนาคาร 105,000 บาท เมื่อรวมเงินต้น 525,000 บาท ทำให้นายปั้นต้องใช้เงินคืนธนาคาร 630,000 บาท คิดเป็น 630,000/60 = 10,500 บาทต่องวด

เมื่อเวลาผ่านไป 3 ปี วงเงินกู้ของรถยนต์คันเก่งจะเหลือเพียง 252,000 บาท (เพราะชำระไปแล้ว 10,500× 36 งวด = 378,000 บาท) นายปั้นอยากลดการจ่ายเงินรายงวดให้น้อยลง และยืดเวลาผ่อนไปอีก จึงขอให้ธนาคารกรุงศรีฯ ประเมินราคารถยนต์ให้ใหม่ ได้ราคาประเมินที่ 400,000 บาท

หมายความว่าถ้านายปั้นยื่นเรื่องรีไฟแนนซ์รถยนต์ จะได้เงินส่วนต่าง 400,000-252,000 = 148,000 บาท (ราคาประเมินหรือยอดจัดไฟแนนซ์ใหม่ - ยอดคงค้างเดิม = เงินส่วนต่าง) สำหรับใช้หมุนเวียนมาก่อน แต่เพิ่มระยะเวลาจากเดิม ที่เหลือ 24 งวด ไปเป็น 60 งวด แถมได้ดอกเบี้ยลดลงเหลือ 3% ต่อปี

เมื่อคิดยอดเงินค้างรวมดอกเบี้ยที่ต้องเริ่มชำระใหม่ นายปั้นจะมียอดค้างชำระ 460,000 บาท หรืองวดละ 7,667 บาทต่อเดือนเท่านั้น ถ้านำเงินส่วนต่างที่ได้จากการรีไฟแนนซ์มาชำระหนี้ก้อนใหม่ด้วย ก็จะเหลือเดือนละ 5,200 บาท

สนใจแล้ว อยากทำรีไฟแนนซ์รถต้องทำยังไง ?

ถ้าอยากที่จะทำรีไฟแนนซ์รถ สามารถถามเงื่อนไขและรายละเอียดการรีไฟแนนซ์รถ จากธนาคารเดิมที่ให้เงินกู้อยู่ พร้อมให้ประเมินราคารถยนต์ที่ติดค้ำประกันดูก่อน เพื่อดูว่าราคาประเมินในปัจจุบันสูงกว่าวงเงินคงเหลือมากน้อยแค่ไหน ประกอบการพิจารณา

หากพอใจในข้อเสนอต่างๆ ก็สามารถทำรีไฟแนนซ์รถได้เลย แต่ถ้าอยากได้เงื่อนไขพิเศษอะไรเพิ่มเติม ลองต่อรองกับธนาคารเดิมดูก่อน สุดท้ายไม่พอใจอย่างไรค่อยมองหาธนาคารใหม่เพื่อทำรีไฟแนนซ์

ซึ่งทางธนาคารกรุงศรีมีข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องการทำรีไฟแนนซ์รถยนต์ พร้อมพนักงานให้บริการดีมีมาตรฐาน (สามารถอ่านรายละเอียดเกี่ยวกับสินเชื่อรถยนต์ต่างๆ ได้ที่นี่เลย
https://www.krungsri.com/bank/th/PersonalBanking/LoanProducts/AutoLoan.html)

สรุปแล้ว...รีไฟแนนซ์รถ ดีอย่างไร ??

ข้อดี: การรีไฟแนนซ์รถจะได้เงินก้อนส่วนต่างมาใช้หมุนเวียนยามฉุกเฉิน เหมือนนำรถมาค้ำประกัน กู้ยืมเงินผ่านธนาคารด้วยวิธีรีไฟแนนซ์ แต่ได้ดอกเบี้ยที่ถูก และลดภาระการผ่อนลงได้

ข้อสังเกต: การทำรีไฟแนนซ์รถจะทำให้ระยะเวลาการผ่อนนานขึ้นกว่าเดิม แม้ว่าจะจำนวนเงินผ่อนรายงวดน้อยลง แต่ถ้าสังเกตให้ดี มันทำให้เราเป็นหนี้มากขึ้นกว่าเดิม!!! ถ้าไม่มีความจำเป็นต้องใช้เงินก้อน หรือ ต้องลดภาระการผ่อนชำระ ผมแนะนำว่าไม่ต้องทำรีไฟแนนซ์ก็ได้ครับ

แม้ว่าจะต้องเป็นหนี้เพิ่ม แต่ถ้าจำเป็นต้องใช้เงินหรือผ่อน