สวัสดีครับ กลับมาพบกับผม TAXBugnoms อีกครั้งกับงานเขียนแบบประจำที่ Aommoney.com สำหรับบทความในวันนี้ไม่ได้มาชวนคุยเรื่องภาษี ไม่ได้คุยเรื่องบัญชี ไม่ได้คุยเรื่องธุรกิจและการลงทุน แต่จะมาชวนคุยอะไรที่มันลึกซึ้งกว่านั้น นั่นคือเรื่องของการ “ประหยัด” นั่นเองครับ

จากประสบการณ์ที่ผ่านมา ผมพบว่าเจ้าของธุรกิจหลายๆคน มักจะละเลยเรื่องการประหยัด แต่เน้นไปที่การเพิ่มรายได้โดยการสร้างสินค้าหรือบริการตัวเองให้มีมูลค่าสูงๆ กระตุ้นยอดขายให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด จนลืมไปว่าแท้จริงแล้วสิ่งที่วัดความสามารถในการทำธุรกิจที่แท้จริง มันอยู่ที่บรรทัดสุดท้าย คือ จำนวน “กำไร” ซึ่งสามารถเพิ่มขึ้นได้ด้วยการ “ประหยัด” ค่าใช้จ่าย

และถ้าลองสังเกตดีๆในทุกธุรกิจนั้น มักจะมีค่าใช้จ่ายอยู่ตัวหนึ่งที่ไม่มีใครสนใจสักเท่าไร เพราะเป็นค่าใช้จ่ายส่วนกลางที่คนทั้งองค์กรต้องแบกรับด้วยกัน นั่นคือ “ค่าใชจ่ายสำนักงาน” ใช่แล้วครับ เจ้าค่าใช้จ่ายที่ไม่มีใครสนใจอย่าง ค่าหมึกพิมพ์ ค่าพรินเตอร์ ถ่ายเอกสาร พวกนี้แหละ คือสิ่งที่บอกว่าองค์กรของเรานั้นเป็นอย่างไร

มีคำกล่าวว่า “เรื่องราวที่ไม่ยุติธรรมบนโลกนี้มักจะเริ่มจากเรืองเล็กๆน้อยทั้งนั้น” และเรื่องค่าใช้จ่ายสำนักงานก็เช่นกันเดียวกันครับ เพราะเรื่องเล็กๆแบบนี้ มักจะแสดงให้เห็นถึง “วัฒนธรรมในองค์กร” ที่ดีหรือไม่ดีได้เลย

ผมอยากให้ทุกคนลองมองย้อนไปที่กิจการของตัวเอง หรือลองสังเกตวัฒนธรรมในองค์กรครับว่า องค์กรของเรานั้น มีการปลูกฝังให้พนักงาน “ประหยัด” เพื่อส่วนรวมบ้างหรือไม่ ? ยังมีคนที่แอบขโมยใช้เครื่องถ่ายเอกสาร ใช้พรินเตอร์ของออฟฟิศ ทำงานส่วนตัวบ้างอะไรบ้าง หรือมีการปริ้นท์เอกสารที่ไม่จำเป็น ถ่ายเอกสารทิ้งขว้าง ด้วยแนวคิดประมาณว่า ใช้ให้เต็มที่ไปก่อน เพราะมันไม่ใช่ทรัพยากรของเรา!!

ดังนั้น ถ้าหากองค์กรของเราอยากประหยัด “ค่าใช้จ่าย” เหล่านี้ เราต้องเริ่มต้นด้วยการสร้างค่านิยมที่ดีให้กับพนักงานของตัวเอง ให้เห็นคุณค่าของการประหยัดพลังงานที่ส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งประโยชน์ของการประหยัดค่าใช้จ่ายของกิจการที่ส่งผลดีต่อกำไรและค่าตอบแทนที่จะที่เพิ่มขึ้นของพวกเขา

ผมเชื่อนะครับว่า องค์กรที่ดีนั้น คือ องค์กรที่ไม่ใช่ใส่ใจแค่การผลิตสินค้าและบริการที่มีคุณภาพออกสู่ผู้บริโภคเพียงเท่านั้น แต่ต้องเป็นองค์กรที่ดีจากภายในโดยการปลูกฝังค่านิยมเรื่องของการประหยัดพลังงานเพื่อสิ่งแวดล้อม และมีจิตสำนึกที่ดีในการอยู่ร่วมกัน

ทีนี้นอกจากการปลูกฝังจิตสำนึกของพนักงานแล้ว อีกหนทางหนึ่งที่อาจจะช่วยให้กิจการประหยัดทรัพยากรและพลังงานอย่างมีคุณภาพ นั่นคือ การเลือกใช้เครื่องถ่ายเอกสาร พรินเตอร์ สแกนเนอร์ ฯลฯ ที่ช่วยในการประหยัดพลังงาน เช่น มีระบบ Power Saving Mode ต่างๆ ทีช่วยให้ค่าไฟลดลงครับ หรือแม้แต่การเลือกใช้อุปกรณ์สำนักงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมก็เป็นอีกหนทางหนึ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กันครับ

เห็นไหมครับว่า จริงๆแล้วการประหยัดนั้น ประโยชน์ของมันไม่ได้อยู่ที่การลดรายจ่ายในกระเป๋า หรือเพียงแค่การเพิ่มกำไรเพียงเท่านั้น แต่มันยังส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง ต่อยอดไปถึงการประหยัดพลังงาน และการลดการบริโภคทรัพยากรได้อีกด้วย

ออฟฟิตยุคนี้กำลังเปลี่ยนเป็น Eco Office กันมากขึ้น ปัจจุบันก็มีเครื่องใช้สำนักงานแบรนด์ใหญ่ๆ ที่ตอบโจทย์แนวคิดนี้ได้อย่างน่าสนใจ เช่น แคนนอน  แบรนด์ชั้นนำระดับโลกที่เน้นเรื่องนี้มาโดยตลอด เริ่มกันตั้งแต่กระบวนการผลิตพรินเตอร์ เครื่องถ่ายเอกสารเลยทีเดียว  รู้ไหมครับว่าแคนนอน เค้าดีไซน์ตัวเครื่อง และกล่องบรรจุภัณฑ์ให้มีขนาดที่เล็กลง ช่วยให้ผู้ใช้ไม่เปลืองพื้นที่ใช้สอย และลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และการใช้น้ำมันจากการขนส่งสินค้าได้อย่างน่าทึ่ง หรือการเริ่มใช้พลาสติกชีวภาพ (Bio Based) มาผลิตเป็นแป้นปุ่มกดที่ยืดหยุ่นเหมือนพลาสติกทั่วไป แต่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าแยะ ไปจนถึงการคิดค้นโหมดต่างๆ ในเครื่องที่ทำให้การพิมพ์งานทำได้สะดวก ลดขั้นตอน ลดการพิมพ์เสียทิ้งขว้าง  ลดการใช้หมึก/กระดาษ ประหยัดพลังงานไฟฟ้า ปราศจากสารตะกั่ว ฯลฯ   ซึ่งนอกจากจะช่วยให้ออฟฟิตประหยัดค่าใช้จ่ายได้อย่างมากแล้ว ยังปลอดภัยต่อสุขภาพของผู้ใช้ด้วย

สุดท้ายนี้ ผมเชื่อว่ากิจการที่ดีควรให้ความสำคัญกับแนวคิด ECOLISM เหล่านี้ไว้ด้วยครับ เพราะการเริ่มต้นด้วยแนวคิดที่ดีนั่น ย่อมจะส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อสังคมที่เราอยู่ ทั้งการใช้พลังงาน การส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ไปจนถึงความพร้อมในการใช้ชีวิตของพนักงานทุกคนด้วยครับ

บทความนี้เป็น Advertorial