แบบ 56-1 คือแหล่งข้อมูลที่สำคัญในการลงทุนหุ้น

แบบ 56-1 หรือแบบสรุปลักษณะการดำเนินธุรกิจของกิจการ คือ แบบที่บริษัทจะเขียนอธิบายข้อมูลของบริษัทตัวเองอย่างละเอียดตามที่ตลาดหลักทรัพย์กำหนด โดยตรงเนื้อหาสำคัญจะอยู่ตรงแบบลักษณะการประกอบธุรกิจ ตรงนี้หากใครสะดวก ลงทุนศาสตร์แนะนำให้พิมพ์เป็นกระดาษออกมาเพื่อที่จะขีดเขียนและสรุปได้โดยง่าย

ใครจะพิมพ์ออกมาก็แนะนำ HP Printer

ยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่า HP Printer เป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการในการผลิตความรู้ชุดนี้ออกมา แต่ HP Printer ไม่ได้มีแค่ความใจดี เพราะ HP Printer เป็นผู้นำด้านระบบ Security ที่ดีด้วย ซึ่งหัวใจของ Security นี้ คือความปลอดภัยตั้งแต่ภายใน โดยที่ตัวเครื่องพิมพ์สามารถที่จะป้องกันตัวเองได้ โดยดูแลได้ทั้ง Bios บนเมนบอร์ดที่เปรียบเสมือนสมอง, หน่วยความจำของเครื่องที่รองรับไฟล์เอกสาร และFirmware ที่เป็นส่วนของการควบคุมการทำงาน ซึ่งถ้าทั้งสามส่วนนี้ปลอดภัยแล้ว จะไม่ใช่แค่เฉพาะแค่ตัวเครื่องพิมพ์เท่านั้น แต่จะส่งผลต่อเนื่องไปถึงความปลอดภัยของระบบเครือข่ายภายในสำนักงานด้วย

นอกจากนี้ยังสามารถเลือกลักษณะการพิมพ์ จำนวนการพิมพ์ ลักษณะความปลอดภัยเพื่อปรับใช้ให้เข้ากับแต่ละองค์กรได้อย่าง HP MPS หรือความปลอดภัยของ HP JetAdvantage Pull Print ที่พนักงานในองค์กรจะต้องทำการยืนยันตัวตนก่อนเพื่อให้เอกสารออกจากเครื่องพิมพ์ด้วยบัตรพนักงาน QR Code หรือหรือโทรศัพท์มือถือ โดยระบบความปลอดภัยเหล่านี้จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการพิมพ์เอกสารไม่ให้บุคคลที่อยู่นอกแผนกหรือบุคคลอื่นมาข้องเกี่ยวกับเอกสารที่เป็นความลับได้

มาเริ่มต้นอ่านแบบ 56-1 กัน

ก่อนอื่นแนะนำให้เราสร้างหลักขึ้นมาในใจก่อนว่าเรากำลังมองหา “อะไร” ในแบบ 56-1 ไม่ใช่แค่อ่านไปเรื่อย ๆ ตามที่แบบเขียน บางบริษัทเขียนละเอียด บางบริษัทเขียนน้อยมาก เราจำเป็นจะต้องหาข้อมูลสำคัญมาเข้าใจธุรกิจให้ได้โดยยึดหลักเดียวกันทุกบริษัทเพื่อให้เห็นภาพเดียวกัน โดยหลักที่ผมแนะนำให้ยึดและใช้ให้เป็นประโยชน์ คือ Business Model Canvas ใครสนใจสามารถหาข้อมูลได้เพิ่มเติม หรือจะลองไล่เรียงหัวข้อคำถามไปตามหัวข้อด้านล่างนี้ก็ได้

1. โครงสร้างรายได้

บริษัทนี้มีโครงสร้างรายได้อย่างไร มีรายได้มาจากทางไหนบ้าง แบ่งได้กี่ประเภท กี่ลักษณะ ตรงนี้สำคัญมาก เพราะจะนำไปใช้ในการวิเคราะห์กิจการได้ต่อ โดยเฉพาะวิเคราะห์การเติบโต และแนวโน้มของธุรกิจในอนาคต

2. โครงสร้างค่าใช้จ่าย

บริษัทมีโครงสร้างค่าใช้จ่ายอย่างไร ค่าใช้จ่ายไหนสำคัญ ต้นทุนไหนสำคัญ ตรงนี้ก็สำคัญเช่นกัน เพราะนำไปใช้ในการทำนายงบในอนาคตได้ ว่ากำไรในอนาคตมีแนวโน้มมากน้อยอย่างไร

3. คุณค่าหลัก

บริษัททำธุรกิจอะไรเป็นสำคัญ และธุรกิจนั้นส่งมอบคุณค่าอะไรให้กับผู้บริโภค อะไรเป็นเครื่องมัดใจให้ผู้บริโภคต้องใช้สินค้าและบริการของบริษัท

4. ช่องทาง

บริษัทมีช่องทางในการทำธุรกิจหรือติดต่อกับลูกค้าอย่างไรบ้าง ส่งมอบสินค้าและบริการอย่างไร ช่องทางตรงนี้จะบอกถึงความสนิทแนบแน่น ไปจนถึงความสามารถในการต่อรองด้วย

5. ลูกค้า

บริษัทมีลูกค้าคือใคร ตรงนี้เราต้องพยายามหาข้อมูลให้ลึกและละเอียดที่สุด ยิ่งรู้ไปถึงรายได้ ที่อยู่กว้าง ๆ ลักษณะรสนิยม อาชีพ เชื้อชาติ ยิ่งรู้เท่าไหร่จะยิ่งดี เพราะเราจะยิ่งเข้าใจได้ว่าลูกค้าแบบไหนจะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์เศรษฐกิจแบบไหน และจะไปส่งผลต่อรายได้บริษัทอย่างไร

6. ความสัมพันธ์กับลูกค้า

บริษัทมีความสัมพันธ์กับลูกค้าอย่างไรบ้าง มีช่องทางการสร้างความสนิทสนมอย่างไร มีแคมเปญอย่างไร และลูกค้ามีความภักดีต่อบริษัทมากแค่ไหน ตรงนี้สามารถบอกถึงความมั่นคงของรายได้ และแนวโน้มรายได้ในอนาคต

7. กิจกรรมหลัก

บริษัทมีกิจกรรมหลักคืออะไร ทำธุรกิจอย่างไร มีขั้นตอนในการทำธุรกิจอย่างไรบ้าง ลักษณะกิจกรรมเป็นแบบไหน ผลิตหรือบริการ ตรงนี้จะเจาะเข้าไปในลักษณะการประกอบธุรกิจของบริษัท ยิ่งเราเข้าใจมาก เราจะยิ่งเห็นภาพว่าปัจจัยอะไรบ้างส่งผลต่อบริษัท  

8. ทรัพยากรหลัก

บริษัทมีทรัพยากรหลักคืออะไรและสัมพันธ์กับภาพรวมขององค์กรอย่างไร ทรัพยากรหลักเป็นจุดแข็งหรือจุดอ่อนของบริษัท บริษัทป้องกันความเสี่ยงจากการสูญเสียทรัพยากรอย่างไร หรือบริษัทใช้ประโยชน์อย่างไรจากทรัพยากรที่มี

9. พาร์ทเนอร์หลัก

บริษัทมีพาร์ทเนอร์สำคัญคือใคร ส่งผลอย่างไรต่อธุรกิจบ้าง ทั้งในแง่ผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัทพันธมิตร คู่ค้าสำคัญ ลูกค้าสำคัญ ตรงนี้จะทำให้เห็นภาพธุรกิจชัดขึ้น และตอบโจทย์บางอย่างได้ โดยเฉพาะความสามารถในการแข่งขันที่มาจากการสนับสนุนของพาร์ทเนอร์

สรุป 56-1 ให้ได้ 9 ประเด็นหลักตามนี้

ไม่ว่า 56-1 ที่อ่านจะเป็นธุรกิจอะไร ทำมาหากินแบบไหน เขียนละเอียดหรือไม่ละเอียดอย่างไร เราก็ต้องตอบคำถาม 9 ข้อนี้อย่างชัดเจนในใจให้ได้ ในกรณีที่แบบ 56-1 ที่ได้รับมาไม่ได้มีใจความละเอียดมากเพียงพอ เราก็จำเป็นต้องไปเสาะหาแหล่งข้อมูลอื่นต่อ เพื่อช่วยให้เข้าใจภาพรวมของกิจการมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องจุดแข็งจุดอ่อนของกิจการ

สำคัญคือสร้างแบบแผนในการอ่านให้ดี

อย่าอ่าน 56-1 แบบอ่านไปเรื่อย ๆ แต่อ่านแบบมีหลักการว่าเราต้องการรู้อะไร อะไรที่ไม่ได้สำคัญก็ตัดทิ้งไปเสีย เราจะใช้เวลาในการอ่านแบบ 56-1 น้อยลง และได้เนื้อหาที่เป็นประโยชน์มากขึ้น นอกจากนี้การอ่านด้วยการใช้โครงสร้างแบบเดียวกันจะช่วยทำให้เราเปรียบเทียบกิจการกับกิจการง่ายขึ้นอีกด้วย เพราะมีหลักหรือหัวข้อให้เปรียบเทียบ

ใครที่ถนัดขีดเส้นหรือจดบันทึก

การพิมพ์แบบ 56-1 ออกมาก็เป็นทางเลือกที่ดี เราอาจจะทำการจดบันทึกหรือทำการสรุป Business Model Canvas ลงไว้ในกระดาษและเย็บรวมเป็นเล่มเพื่อกลับมาอ่านย้อนหลัง หรือเพิ่มเติมข้อมูลย้อนหลังก็ได้

อย่าลืม ถ้าจะพิมพ์อย่าลืมพิมพ์ด้วย HP Printer

ขอบคุณ HP Printer อีกครั้งที่ช่วยสนับสนุนลงทุนศาสตร์ให้ทำเนื้อหาข้อมูลเพื่อการลงทุนดี ๆ แบบนี้ออกมา พูดไปนะ กระดาษที่พิมพ์ออกมาเขียนสรุปเรื่องนี้ก็พิมพ์ออกมาจาก HP Printer เหมือนกัน

ลงทุนศาสตร์

บทความนี้เป็น Advertorial