ในยุคที่ข้าวของแพงมากขึ้น แต่รายได้ของเรากลับโตไม่ทันตามราคาของไปด้วย แม้ว่าเราจะขยันตั้งใจทำงานเพื่อให้ชีวิตเราดีขึ้น และมีวินัยการเงินที่ดี ทั้งในเรื่องการแบ่งบัญชีเงินออมเพื่อใช้ในยามฉุกเฉิน หรือ แบ่งบัญชีที่เราไว้ใช้ในอนาคต แต่การออมเพียงอย่างเดียวนั้นแม้จะทำให้ชีวิตเราปลอดภัย แต่ก็ยังไม่เพียงพอหากเราต้องการความมั่งคั่งในชีวิต

ดังนั้นในยุคนี้ นอกจากจะต้องทำงานเก่งแล้ว เราก็ควรที่จะต้องมีความรู้ในเรื่องการเงินอีกด้วย ว่าจะจัดวางเงินเก็บของเราไปที่ไหน ที่ไหนที่ทำให้เงินงอกเงยขึ้นได้มากกว่าเดิม ซึ่งเป็นการต่อยอดจากเงินออมที่เราออมไว้ในบัญชีนั่นเอง การลงทุนเองก็เป็นอีกแนวทางหนึ่งที่น่าสนใจ แต่ข้อจำกัดของมนุษย์เงินเดือนอย่างพวกเราก็คือ “มักไม่คอยมีเวลา” ทำให้บางครั้ง ไม่มีเวลาในการหาข้อมูล หรือ ติดตามการลงทุน

ส่วนบางคนที่มีความรู้ และก็อยากลงทุนเอง บางคนก็อยากจะออกมาเป็นนักลงทุนเพื่อจะหารายได้เพิ่มขึ้น อยากได้รายได้เยอะ ๆ แบบที่นักลงทุนมืออาชีพเขาทํากัน แต่หารู้ไม่ว่ามีความเสี่ยงสูง และบางครั้งเมื่ออยากได้กำไรสูงๆ ก็ทำให้เริ่มลงทุนแบบเสี่ยงเกินตัว กลายเป็นเหมือนนักพนันเสียอย่างนั้น

ด้วยความยุ่งยากแบบนี้ จะดีกว่าไหม ถ้าหากมีคนมาคอยดูแลและจัดการเรื่องลงทุนให้ !! เพราะถ้าอยากได้ผลตอบแทนแบบมืออาชีพ ก็ฝากมืออาชีพลงทุนให้สิ

ใช่ครับ ผมกำลังพูดถึง “กองทุนรวม” ที่ที่ รวมคนเก่งๆ เข้าไว้ด้วยกัน และทำการบริหารเงินของเราให้งอกเงย แบบทั้งวัน-ทั้งคืน เพราะเป็นอาชีพของผู้จัดการกองทุนอยู่แล้ว ซึ่งเขาเพียบพร้อมด้วยเครื่องมือ และประสบการณ์อีกด้วย

เราสามารถเริ่มต้นง่าย ๆ เพียง 2 ขั้นตอน คือ

1. ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจนก่อนลงทุน

บางคนอยากเก็บเงินไปเที่ยว หรือกินอยู่ดีขึ้น จึงเอาเงินมาลงทุน โดยฝันไปต่าง ๆ นา ๆ นึกว่าจะไดเที่ยวดีขึ้น กินอยู่ดีขึ้น กลับกลายเป็นเจ๊งติดลบไปซะอีก อดเที่ยว อดกินอาหารเหลา

ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะว่า ตั้งเป้าหมายผลตอบแทนไม่เหมาะสมกับความเสี่ยงที่รับได้นั่นเอง เช่น เราตั้งเป้าหมายเก็บเงินเพื่อการท่องเที่ยวด้วยการเก็บเงินระยะสั้น แทนที่เราจะลงทุนในสินทรัพย์ที่เสี่ยงน้อยๆ เรากลับไปลงทุนในการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงแทน แล้วแบบนี้จะบรรลุเป้าหมายได้อย่างไรกัน

ดังนั้น ถ้าต้องการเก็บเงินระยะสั้น หรือว่าต้องการเก็บเงินเพื่อเป้าหมายที่แน่นอน เราก็ควรที่จะเก็บเงินในที่ที่ ปลอดภัย และยังได้ผลตอบแทนที่ดีด้วย ถึงแม้จะมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นมานิดหน่อย แต่ก็ให้ผลตอบแทนก็ดีกว่า ทั้งนี้อย่าลืมว่าเราต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจนนะครับ

2. เริ่มต้นลงทุนจากกองทุนที่ความเสี่ยงต่ำ ๆ ก่อน

คนส่วนใหญ่มักจะกระโดดเข้าลงทุนเพราะว่าอยากได้ผลตอบแทนที่สูง ๆ เสียเป็นส่วนใหญ่ ทำให้เวลาลงทุนผิดพลาดไปแล้ว ก็มักจะขาดทุนเยอะ บางคนถึงกับเลิกลงทุนไปเลย ดังนั้น ถ้าอยากเริ่ม ผมแนะนำว่าให้ลงทุนกับกองทุนที่มีความเสี่ยงต่ำๆ ก่อน เพื่อ ให้คุ้นเคยกับการลงทุน ซึ่งกองทุนที่มีความเสี่ยงต่ำๆ เอง ก็ให้ผลตอบแทนที่ดี อย่างน้อย ๆ ก็ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าการฝากเงินไว้เพียงอย่างเดียว แถมสภาพคล่องก็ยังดีอีกด้วย เพราะว่าถ้าขายกองทุน เพียงระยะเวลาไม่กี่วัน ก็จะได้รับเงินแล้ว พร้อมกับผลตอบแทนของกองทุนเช่นกัน ดังนั้นการออมในกองทุนที่มีความเสี่ยงต่ำก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจครับ

หลาย ๆ ท่านคงอยากจะรู้แล้วใช่ไหมว่า แล้วกองทุนเสี่ยงต่ำที่พูดถึงนั้น คือ กองทุนประเภทไหน กองทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ ก็ได้แก่กองทุนประเภท กองทุนตลาดเงิน และ กองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น นั่นเองครับ

โดยกองทุนเหล่านี้ จะไปลงทุนในตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล-หุ้นกู้ ระยะสั้นครับ

หลายๆ คนอาจจะงง ว่าพวกตั๋วเงิน พันธบัตร และหุ้นกู้ คืออะไร หากอธิบายสั้น ๆ ก็คือ เป็นสินทรัพย์ หรือ ตราสารหนี้ทางการเงินที่แสดงว่าเราเป็นเจ้าหนี้ของบริษัทเอกชนและรัฐบาล โดยถ้าพูดง่าย ๆ แล้วก็คือ บริษัทเอกชนและรัฐบาล มาขอกู้เงินเรานั่นเองครับ ซึ่งการกู้นี้ จะมีทั้งการกู้แบบระยะเวลาสั้น ๆ เช่น 3-6 เดือน จนไปถึงระยะกลาง ๆ เช่น 1-3 ปีครับ หรือว่า จะเป็นระยะยาว 5-10 ปีก็มี แน่นอนครับว่า ยิ่งกู้ยาว ๆ ก็ยิ่งมีความเสี่ยงมากขึ้นไปด้วย

โดยกองทุนตลาดเงินนั้น จะมีความเสี่ยงน้อยที่สุด คือ จะลงทุนกับเงินฝาก ตั๋วเงินคลัง และพันธบัตรระยะสั้น ๆ ครับ กองทุนเหล่านี้ที่น่าสนใจก็ได้แก่ KFCASH ที่เรียกได้ว่าปลอดภัยสูง และให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าการฝากออมทรัพย์ธรรมดาทั่วไป

ส่วนกองทุนตลาดเงินที่มีความเสี่ยงมากขึ้นเล็กน้อย ที่ลงทุนในเงินฝาก ตราสารหนี้ระยะสั้น ๆ บ้าง รวมกับตั๋วเงิน ที่น่าสนใจ ที่สำคัญคือ ให้ผลตอบแทนที่ค่อนข้างดี ใกล้เคียง หรือบางครั้งก็มากกว่าเงินฝากประจำ แต่สามารถซื้อขายได้อย่างมีสภาพคล่องที่ดีกว่า และความเสี่ยงไม่สูงจนเกินไป และถ้าเป็นนักลงทุนในกองทุนรวมอยู่แล้ว ผมเชื่อว่าหลาย ๆ คนต้องคุ้นหูกับกองทุนนี้ครับ คือ KFSPLUS

ส่วน กองทุนสุดท้ายที่น่าสนใจ เพราะว่ามีแนวโน้มที่ดี และให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า 2 กองทุนแรก ก็คือ กองทุน KFSMART ที่จะลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้น และมีการลงทุนในตราสารหนี้ในต่างประเทศอีกด้วย ทำให้มีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้นครับ

เห็นไหมว่า การออมเงินนั้นทำให้เราสามารถนำมาต่อยอดให้เงินของเรางอกเงยได้ เพียงแค่รู้จักทางเลือกในการบริหาร