สวัสดีครับผม กลับมาเจอกันอีกแล้วนะครับ กับผมยอดมนุษย์กองทุน ผู้ชายหน้านุ่มที่จะทำให้คุณรู้จักกองทุนใหม่ ๆ เป็นประจำ กับหน้าที่เด่นหน้าที่เดิมที่คอยเสริมประเด็นประจำรายการกองทุนไหนดีอีกแล้วครับผม

สำหรับวันนี้ เป็นอีกกองทุนหนึ่งที่น่าสนใจเช่นเดียวกันครับ นั่นคือ KFGOOD หรือ กองทุนเปิดกรุงศรีชีวิตดีเว่อร์ สำหรับคนที่มีเป้าหมายลงทุนระยะยาว เก็บเงินสร้างครอบครัว เก็บไว้ให้ลูก วางแผนเกษียณ หรือตอบโจทย์ทางเลือกในการลงทุนที่หลากหลายและสบายใจแง่ของการใช้ชีวิตครับ เรียกว่า ง่าย ครบ และจบในกองทุนเดียวครับ 

ในส่วนของตอนนี้ ผลตอบแทนในการลงทุน ตอนนี้นั้นยังไม่สามารถบอกได้ครับ เนื่องจากกองทุนนี้เป็นกองทุนใหม่ IPO ที่เพิ่งเสนอขายไปเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2561 ที่ผ่านมา แต่ก็ได้เปิดขายหลัง IPO ไปตั้งแต่ 11 มิถุนายน 2561 นี้ครับ แต่เราจะไปดูกันที่เรื่องของนโยบายการลงทุนกันครับ กองทุนนี้จะมีการจัดนโยบายลงทุนในสินทรัพย์ที่แตกต่างกันไปดังนี้

จุดที่น่าสนใจของกองทุนนี้ คือ การลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลาย เพื่อสร้างโอกาสในการรับผลตอบแทนที่สูงกว่าครับ ทั้งตราสารหนี้คุณภาพดี ทั้งภาครัฐและเอกชน ทั้งในและต่างประเทศ อย่างน้อย 50% เพื่อรักษาความสม่ำเสมอของผลตอบแทน และลดความเสี่ยงยามตลาดผันผวน นอกเหนือจากนั้นจึงแบ่งสัดส่วนไปลงทุนในหุ้น กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ REITs และกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน ด้วยสัดส่วน 0 - 50% เพื่อให้เงินลงทุนมีโอกาสเติบโตได้เร็วขึ้นครับ

แนวคิดการบริหารสัดส่วนการลงทุนจะปรับให้สอดคล้องกับสภาวะตลาดจากการตัดสินใจของผู้จัดการกองทุน เพื่อสร้างผลตอบแทนรวมที่สูงขึ้น  ด้วยระดับความเสี่ยงที่เหมาะสมครับ

ตัวอย่างการปรับสัดส่วนผลตอบแทน จะเห็นว่าพื้นฐานนั้นจะอยู่ที่ตราสารหนี้ ส่วนที่เหลือจะปรับเปลี่ยนตามโอกาสที่เหมาะสมครับ และนอกจากนั้นทาง บลจ. เองยังมีการจัดสรรน้ำหนักการลงทุนในมุมมองของสภาวะตลาดที่แตกต่างกันไปครับ

จากรูปจะเห็นว่ากองทุนนี้โดยปกติ หากอยู่ในภาวะที่หุ้นไปได้ด้วยดี หรือมีแนวโน้มการเติบโตสูงก็จะให้สัดส่วนหุ้น และ REITs + INFRAs ประมาณ 50% ของพอร์ตครับ แต่ถ้าหากอยู่ในช่วงที่ตลาดผันผวนเป็นขาลงมาก ๆ กองทุนก็สามารถที่จะปรับสัดส่วนตราสารหนี้ไปได้ถึง 100% เลยล่ะครับ ถ้าพูดง่าย ๆ ภาพรวมของผลตอบแทนของกองทุนนี้น่าจะอยู่ที่ประมาณ 5 - 7% และถ้าหากในช่วงที่ตลาดผันผวนก็คาดว่าผลตอบแทนน่าจะชนะเงินเฟ้อได้ไม่ยากนักครับ

ทีนี้มาถึงเรื่องของ Investment Process กันบ้างครับ สำหรับกระบวนการลงทุนในหุ้นนั้น ทาง บลจ. กรุงศรีก็ยังมีแนวคิดตามรูปด้านล่างนี้ครับ

เห็นไหมครับว่าจริง ๆ แล้ว การลงทุนนั้นจะเน้นการคัดเลือกจากสินทรัพย์ที่มีพื้นฐานดีเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นการเข้าพบปะผู้บริหารของบริษัทฯ รวมถึงการวิเคราะห์งบการเงินต่าง ๆ ก่อนที่จะนำเข้าไปพิจารณาโดยคณะกรรมการการลงทุนอีกที เพื่อให้ได้หุ้นที่ดีที่สุดครับ

ค่าธรรมเนียม

สุดท้ายสำหรับค่าธรรมเนียมนั้น แนวทางการพิจารณาของยอดมนุษย์กองทุนอย่างผม มักจะดูที่ค่าธรรมเนียมรวม หรือ Total Expense Ratio เป็นหลักครับ โดยกองทุนนี้มีค่าธรรมเนียมรวมอยู่ที่ 1.42% ซึ่งถือว่าเป็นกองทุนที่มีค่าธรรมเนียมที่อยู่ในระดับค่อนข้างต่ำครับ แม้ว่าจะเป็นกองทุนแบบผสมก็ตาม แต่อย่างไรก็ดีกองทุนนี้มีการเก็บค่าธรรมเนียมการขายที่ 0.65% ด้วยครับ

ส่วนจำนวนเงินซื้อขั้นต่ำนั้น เรียกได้ว่าเป็นกองทุนสำหรับประชาชนเลยล่ะครับ เพราะครั้งแรกและครั้งต่อ ๆ ไป อยู่ที่ 1,000 บาทเท่านั้นครับ 

สรุปอีกที .. กองทุนนี้เหมาะกับใคร

ตามธรรมเนียมของรายการครับผม นอกจากรีวิวกองทุนแล้วเรายังต้องบอกว่า กองทุนนี้เหมาะกับใคร เพื่อที่จะได้เลือกซื้อได้ตามเหมาะสมครับ ซึ่งผมมองแล้ว กองทุนนี้เหมาะสำหรับคนที่ยอมรับความเสี่ยงจากการลงทุนในระดับปานกลาง เพราะมีการลงทุนในสินทรัพย์หลายประเภท และมีอายุในการลงทุนที่ยาวนานระดับหนึ่งหรือใช้เป็นกองทุนหลักในการวางแผนเกษียณก็ได้ครับ แล้วค่อยไปลงทุนในกองทุนอื่นเพิ่มเติมเพื่อให้เพิ่มผลตอบแทนตามที่ต้องการ

อีกกลุ่มหนึ่งที่ผมมองว่าเหมาะสมกับการลงทุนน่าจะเป็นวันที่กำลังสร้างเนื้อสร้างตัว ที่ต้องการเป้าหมายจากการลงทุนในระยาว อย่างน้อย 3 - 5 ปีขึ้นไปครับ 

อ้อ .. อีกประเด็นหนึ่งที่ลืมบอกไป กองทุนนี้ไม่มีการจ่ายปันผลนะครับ ดังนั้นอาจจะไม่เหมาะกับคนที่ต้องการกระแสเงินสดเรื่อย ๆ แต่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการให้กองทุนสร้างผลตอบแทนอย่างต่อเนื่องมากกว่าครับ

ถ้าหากใครสนใจกองทุน KFGOOD  หรือ กองทุนเปิดกรุงศรีชีวิตดีเว่อร์นั้น สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมคลิกที่นี่ KFGOOD หรือใครที่อยากฟัง Insight กองทุนจากทีมบริหารกองทุนจากทาง บลจ.กรุงศรี ดูรายการ กองทุนไหนดี Special Interview ตอน KFGOODได้ที่ https://youtu.be/WzVOJkIPKkw