สถานการณ์ปัจจุบัน ปัญหาด้านสุขภาพเริ่มทวีความเสี่ยงสูงขึ้น ไม่ว่าจะจากโรคระบาดต่างๆ โดยเฉพาะจากเชื้อไวรัส COVID-19 แพร่ระบาดกันอยู่ทั่วโลกในขณะนี้ รวมถึงโรคร้ายแรงอื่นๆ อย่างโรคหัวใจ หรือโรคมะเร็ง ที่มีปัจจัยเสี่ยงจากมลภาวะทางกาศอย่างฝุ่น PM2.5 เป็นตัวเร่งการสะสม อีกทั้งยังมีโอกาสบาดเจ็บจากอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝัน

นั่นคือสาเหตุที่ทำให้ aomMONEY มองว่าเราทุกคนควรใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังในการคอยดูแลรักษาสุขภาพ เพื่อลดความเสี่ยงเหล่านั้น รวมไปถึงการวางแผนรับมือกับค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลจำนวนมาก ที่อาจเกิดขึ้นจากการเจ็บป่วยแบบไม่คาดฝัน

“ประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายค่ารักษา” เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ

แนวทางหนึ่งในการรับมือกับค่ารักษาพยาบาลได้อย่างอุ่นใจ คือการทำประกันสุขภาพ เพื่อให้บริษัทประกันมารับผิดชอบค่ารักษาแทนเรา ซึ่งถ้าจะให้ดี ก็ควรเป็นแบบที่มีวงเงินคุ้มครองค่ารักษาก้อนใหญ่ หรือที่เรียกว่าแบบ “เหมาจ่ายค่ารักษา” นั่นเอง

เนื่องจากแบบนี้มีข้อดีตรงที่ ไม่จำกัดวงเงินค่ารักษาพยาบาลในแต่ละรายการหลักๆ ทำให้มีโอกาสครอบคลุมค่ารักษามากกว่าแบบทั่วไป จึงเหมาะสำหรับทำไว้เพื่อคุ้มครองกรณีเจ็บป่วยทุกกรณี ตั้งแต่เจ็บป่วยเล็กน้อยไปจนถึงเป็นโรคติดต่อ โรคร้ายแรงต่างๆ หรือแม้แต่ไวรัส COVID-19 ก็คุ้มครอง

“ประกันสุขภาพ แมนูไลฟ์ ฟินชัวรันส์” ในมุมมองของ aomMONEY

aomMONEY เล่าถึงประกันสุขภาพเหมาจ่ายแบบใหม่ตัวนึงแล้วกันครับ นั่นก็คือ “แมนูไลฟ์ ฟินชัวรันส์” ซึ่งเป็นประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายค่ารักษาแบบใหม่ มีความน่าสนใจตรงที่มีวงเงินความคุ้มครองสูงกว่า และมีรายการค่ารักษาในวงเงินเหมาจ่าย มากกว่าแบบประกันสุขภาพเหมาจ่ายทั่วไป และคุ้มครองทั้งผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก

และนี่คือ รายละเอียดความคุ้มครองของ “ประกันสุขภาพ แมนูไลฟ์ ฟินชัวรันส์” เมื่อเทียบกับประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายอื่นๆ ตามข้อมูลด้านล่างครับ

จุดเด่นและข้อจำกัดของประกันสุขภาพแมนูไลฟ์ ฟินชัวรัส์ ในมุมมอง aomMONEY

1. วงเงินเหมาจ่ายค่ารักษาที่สูงกว่าและครอบคลุมกว่า โดยแผนเริ่มต้นมีความคุ้มครองสูงสุดต่อปีถึง 3 ล้านบาท ถึงแผนสูงสุดที่ 10 ล้านบาทต่อปี

2. วงเงินค่าห้องและค่าอาหาร เริ่มต้นที่ 5,000 บาท ถึง 9,000 บาทต่อวัน ส่วนค่าบริการพยาบาลและค่าธรรมเนียมโรงพยาบาล สามารถเบิกได้จากวงเงินเหมาจ่ายต่อปีได้เลย

3. ค่ารักษาพยาบาลอื่นๆ กรณีเป็นผู้ป่วยในสามารถเบิกได้ตามค่ารักษาที่เกิดขึ้นจริงได้ทุกรายการ โดยไม่เกินวงเงินเหมาจ่ายค่ารักษาต่อปี ขณะที่ประกันสุขภาพเหมาจ่ายทั่วไป ถูกกำหนดวงเงินบางรายการ เช่น ค่าแพทย์ตรวจเยี่ยมไข้ 

4. ค่าเคมีบำบัด ค่ารังสีบำบัด และค่าล้างไต (กรณีทำคีโมเมื่อเป็นมะเร็ง หรือต้องฟอกไต) เมื่อไม่ต้องนอนโรงพยาบาล สามารถเบิกได้ตามค่ารักษาจริง ไม่เกินวงเงินเหมาจ่ายต่อปี ขณะที่ประกันสุขภาพเหมาจ่ายทั่วไป มีกำหนดวงเงินเอาไว้

5. คุ้มครองค่ารักษาอื่นๆ ที่ประกันสุขภาพเหมาจ่ายทั่วไปไม่คุ้มครอง ได้แก่ ค่ารักษาผู้ป่วยนอกกรณีทั่วไป (OPD) ที่มีวงเงินให้เลือกได้สูงสุดถึง 50,000 บาท สามารถใช้รักษาได้ไม่จำกัดจำนวนครั้งในปีตามวงเงินที่เลือก 

ข้อจำกัดอย่างหนึ่ง ของแมนูไลฟ์ ฟินชัวรันส์ 

1. ค่าเบี้ยประกันสุขภาพเริ่มต้น อาจจะสูงกว่าแผนขั้นต่ำของประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายทั่วไป

2. มีความคุ้มครองกรณีเสียชีวิตทุกกรณีน้อยกว่าประกันสุขภาพเหมาจ่ายทั่วไป เนื่องด้วยเน้นในส่วนความค้มครองสุขภาพมากกว่าประกันชีวิต

แมนูไลฟ์ ฟินชัวรันส์ จึงเป็นแบบประกันสุขภาพเหมาจ่ายค่ารักษา ที่ให้เพื่อนๆ ฟินกว่าประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายทั่วไป เพราะให้วงเงินค่ารักษาที่ครอบคลุมในทุกกรณี

ครอบคลุมการเจ็บป่วยจากโรคติดต่อร้ายแรงอย่างเช่นการติดเชื้อไวรัส COVID-19 อีกด้วย

นอกจากนั้น ยังมีส่วนลดเบี้ยประกันต่อเนื่อง หากไม่มีเคลม และสามารถขอข้อมูลเพิ่มเติม หรือสมัครทำประกันได้ง่ายทางออนไลน์ เพียงเข้าไปที่ https://www.manulife.co.th/finsurance/ พร้อมกรอกรายละเอียด และตอบคำถามสุขภาพ ก็สามารถทำประกันได้ทันที

ก่อนทำประกัน ผู้ทำประกันควรศึกษาเงื่อนไขและข้อยกเว้นในการทำประกันให้เข้าใจนะครับ เช่น การมีระยะเวลารอคอยสำหรับโรคทั่วไป 30 วัน และโรคเฉพาะ 120 วัน การไม่คุ้มครองโรคที่เป็นมาก่อนการทำประกัน และโรคยกเว้นอื่นๆ  โดยสามารถศึกษารายละเอียดเงื่อนไขในจากในเว็บไซต์ https://www.manulife.co.th/finsurance/  เพื่อให้เราสามารถตัดสินใจทำประกันสุขภาพได้ตามที่เราต้องการ อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด

ในครั้งหน้า aomMONEY จะนำเรื่องราวดีๆ และมีประโยชน์เรื่องไหนมาฝากเพื่อนๆ อีก โปรดติดตามครับ