ในปีนี้ 2563 ตัวช่วยลดหย่อนภาษีที่มาแรงคงไม่พ้น SSF กับ SSFX ที่มีนโยบายและสิทธิประโยชน์ในการลดหย่อนแตกต่างกันไป ซึ่งสรุปออกมาได้ดังรูปนี้ครับ

หมายเหตุ : SSF จะมีเงื่อนไขเมื่อรวมกับกลุ่มเกษียณอย่าง ประกันบำนาญ, RMF, กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และกองทุนการออมแห่งชาติแล้ว ต้องมีจำนวนไม่เกิน 500,000 บาทอีกด้วยครับ

ประเด็นสำคัญ คือ การถือยาว 10 ปี (แบบเต็มปี)

จากประสบการณ์ของผม พบว่าสาเหตุที่หลายคนลังเลไม่กล้าลงทุนนั้น อยู่ที่การถือครอง 10 ปีเต็มนั่นเองครับ เพราะมองว่าต้องใช้เวลานาน ไม่แน่ใจว่าจะรอไหว รวมถึงผลตอบแทนที่ได้รับนั้นจะคุ้มค่าหรือเปล่า

แต่ถ้าเราเปลี่ยนมุมมองให้มากกว่าเรื่องของการลดหย่อนภาษี เราจะเห็นว่าสิ่งที่สำคัญคือ “การเลือกลงทุน” ในกองทุน SSF หรือ SSFX ที่มีนโยบายการลงทุนที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของเราใน 10 ปีข้างหน้า ร่วมกับการสร้างผลตอบแทนในการลงทุนที่ดีมากกว่าการเก็งกำไรจากการลงทุน เพื่อให้มั่นใจว่าในอนาคตข้างหน้ากองทุนที่เราถือนั้น จะสามารถผ่านพ้นวิกฤตไปได้ ซึ่งหนึ่งในตัวอย่าง คือ การลงทุนตามแนวคิด ESG เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน

โดยแนวคิดเรื่อง ESG จะให้ความสำคัญกับความผิดรับชอบในด้าน 3 ด้านหลัก คือ 

  • สิ่งแวดล้อม (Environmental) 
  • ด้านสังคม (Social) 
  • ด้านบรรษัทภิบาล (Governance)

เพราะเชื่อว่าการมีแนวคิดในการรักษาสิ่งแวดล้อม ให้ความสำคัญกับสังคม และดำเนินธุรกิจอย่างโปร่งใส เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับธุรกิจ

กองทุน SSF และ SSFX ที่ยึดหลักการลงทุนในธุรกิจที่มี ESG

ทาง Aberdeen Standard เป็นหนึ่งในผู้ที่ยึดหลักแนวคิดลงทุนในธุรกิจที่มี ESG ได้ออกผลิตภัณฑ์กองทุนรวม 2 นโยบาย ได้แก่ ABTESSF - Aberdeen Standard Thai Equity SSF- Super Savings และ ABTESSFX - Aberdeen Standard Thai Equity SSF- Super Savings Extra ซึ่งทั้งสองกองทุนนี้เน้นลงทุนในหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ไม่น้อยกว่า 80% ของสินทรัพย์สุทธิ และเน้นลงทุนในธุรกิจกลุ่มพลังงาน การค้าเชิงพาณิชย์ อสังหาริมทรัพย์ การเงินและอื่นๆ ซึ่งเป็นกลุ่มที่ถือว่ามีความมั่นคงในวิกฤต ณ ตอนนี้

โดยจุดแข็งของทาง Aberdeen Standard นั้น มาจากการลงทุนที่ยึดหลักลงทุนในธุรกิจที่มีคุณภาพในราคาที่เหมาะสม รวมถึงยังมีทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนใน 40 กว่าประเทศทั่วภูมิภาคเอเชียและทั่วโลก

นอกจากนั้น ถ้าใครเคยติดตามปรัชญาการลงทุนของ Aberdeen Standard คงจะพอทราบว่า นโยบายการลงทุนอีกข้อหนึ่งที่น่าสนใจ คือ เน้นในประเด็นของการมีปฏิสัมพันธ์กับองค์กร โดยไม่ใช่แค่ทำความเข้าใจ แต่มองไปถึงการพัฒนาธุรกิจร่วมกันเพื่อให้มูลค่าการลงทุนของนักลงทุนได้ดีที่สุดในระยะยาว

แนวคิดนี้นับว่าเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการลงทุนสำหรับ SSF และ SSFX ที่เหมาะสมกับใครหลายคนที่มองเห็นถึงความสำคัญของการลงทุนในธุรกิจที่มีแนวคิด ESG ร่วมกับกลยุทธ์การลงทุนที่เน้นการคุณค่าในธุรกิจมากกว่าเก็งกำไร  เพื่อให้ได้รับผลตอบแทนที่เหมาะสมในอนาคตอีก 10 ปีข้างหน้าของเราครับ

สุดท้ายนี้ผมขอย้ำไว้อีกทีว่า การลงทุนที่ดีที่สุดนั้น ต้องไม่ได้เพียงแค่การประหยัดภาษี แต่ต้องได้ความมั่นใจในการลงทุนจากสินทรัพย์ที่เราเชื่อได้ว่ามีความมั่นคงและคุณภาพที่จะทำให้ได้รับผลตอบแทนในอีก 10 ปีข้างหน้าอย่างเหมาะสม

....เพราะเงินของเราทุกคนมีความสำคัญครับ

สำหรับผู้ลงทุนที่สนใจกองทุน SSFX และ SSF ของบลจ.อเบอร์ดีน สแตนดาร์ด สามารถขอรับหนังสือชี้ชวนและข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ 0-2352-3388 เว็บไซต์ www.aberdeenstandard.com/thailand หรือติดตามข่าวสารผ่านทาง LINE official account: @ASInvestmentsTH

คำเตือน ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนในกองทุนรวม

บทความนี้เป็น Advertorial