“การไม่มีเงินมันไม่ใช่อุปสรรค แต่สำคัญที่ความคิดมากกว่า”

- แพรรินทร์ เรืองปัญญาวุฒิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท Maximus Estate จำกัด และ นิราวิลล์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เจ้าของเพจ “อสังหาพารวย by Palin” -

"เสื่อผืนหมอนใบ" เป็นประโยคติดปากที่คนมักจะพูดถึงชาวจีนที่ย้ายถิ่นฐานมาที่เมืองไทยในสมัยก่อน ถ้าเด็กๆ สมัยนี้ฟังอาจจะไม่ค่อยเข้าใจ แต่เพื่อนๆ อายุรุ่นเดียวกัน อาจจะคุ้นหูกันเป็นอย่างดีนะครับ (บ่งบอกถึงอายุผู้เขียนเลย) เสื่อผืนหมอนใบ เป็นสำนวนเนื่องมาจากสมัยก่อนครอบครัวชาวจีนที่เข้ามาตั้งถิ่นฐานในไทย โดยเรือสำเภาเข้ามาทำมาหากินในเมืองไทย โดยไม่มีทรัพย์สมบัติหรือข้าวของติดตัวมานอกจากเสื่อกับหมอนเท่านั้น แล้วสามารถตั้งเนื้อตั้งตัวได้

และนี่คือจุดเริ่มต้นครอบครัวของแขกรับเชิญคนพิเศษที่ให้โอกาส aomMONEY INSPIRED สัมภาษณ์ในวันนี้ครับ คุณแพรรินทร์ เรืองปัญญาวุฒิ หรือ คุณเอิง กรรมการผู้จัดการ บริษัท Maximus Estate จำกัด และ นิราวิลล์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด , เจ้าของเพจ อสังหาพารวย by Palin

จากเด็กสาวจากครอบครัวชาวจีนที่ย้ายรกรากมาเมืองไทย ไม่มีทักษะอะไรเป็นพิเศษ เริ่มทำงานจริงจังตั้งแต่ ม.6 ก้าวสู่การเป็นเจ้าของอสังหาฯ ร้อยล้าน เราลองมาดูกันครับว่าคุณเอิง เธอก้าวขึ้นมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร ทั้งๆ ที่อายุเพียง 29 ปี

แนะนำตัวเองให้ผู้อ่านรู้จักหน่อยครับ

เอิง : แพรรินทร์ เรืองปัญญาวุฒิ นะคะ อายุ 29 ปี เป็นกรรมการผู้จัดการบริษัท Maximus Estate จำกัด แล้วก็นิราวิลล์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ทำเพจนะคะ ชื่อเพจว่า “อสังหาพารวย by Palin” ให้ความรู้ด้านการลงทุนอสังหาฯ ค่ะ

ชีวิตวัยเด็กที่สู้มากับคุณพ่อคุณแม่

เอิง : เล่าพื้นฐานครอบครัวนะคะ คุณพ่อ คุณแม่ เขาเริ่มต้นจากอาชีพคนใช้ก็ค่อยๆ เก็บเงินแอบมาซื้อเครื่องจักรตัวหนึ่ง แล้วก็รับเย็บงานทีละตัว สองตัว สามตัว จากนั้นก็ลาออกจากอาชีพคนใช้หลังจากเก็บเงินมาได้สักปีกว่า ซึ่งจริงๆ ก็ไม่ได้เยอะหรอกเพราะอาชีพคนใช้มันไม่ได้ตังเยอะอยู่แล้ว

จากนั้นเขาก็มาซื้อเครื่องจักรเพื่อมาผลิตงาน พอผลิตไม่ทันเขาก็เริ่มที่จะจ้างทีมงาน จ้างทีมงานจาก 1 เป็น 2 จาก 2 เป็น 4 ค่อยๆ ขยายจนสามารถที่จะทำโรงงานได้ ซึ่งระยะเวลาจากอาชีพคนใช้ไปเป็นเจ้าของโรงงานเนี่ยมันใช้เวลาเป็น 10 ปี มันไม่ได้รวดเร็วขนาดนั้น เขาอยู่เมืองไทยมา 30 ปี มันก็เลยมีระยะเวลาที่เขาจะพิสูจน์ตัวเอง 

“สิ่งที่เอิงเห็นนะคะ จากบทเรียนของคุณพ่อคุณแม่ ถ้าเกิดคุณคิดเล็กมันอะเป็นเรื่องใหญ่ แต่ถ้าเกิดคุณไม่มีเงินมันเป็นเรื่องเล็ก เพราะว่าการไม่มีเงินมันสามารถแก้ได้หลายทาง ถ้าคุณไม่มีแต้มต่อในชีวิตคุณก็ขยันมากขึ้น แล้วก็รู้จักประหยัดใช้สอย รู้จักลงทุนมันก็ทำให้ชีวิตคุณเปลี่ยนได้แล้ว”

จุดเริ่มต้นชีวิตวัยเรียนและการทำงาน

เอิง : เริ่มทำงานตั้งแต่ ม.6 หลังจากจบ ม.6 เราก็เริ่มที่จะหาเงินแล้วก็ส่งตัวเองเข้ามหาวิทยาลัย ตอนช่วง ม.6 ทำอะไรเยอะไม่ได้ เราก็ต้องเรียนหนังสือด้วยใช่ไหมคะ นั่นคืออาชีพหลักคือเรียนหนังสือ มันก็เลยไปจบขายตรงซึ่งมันเป็นอาชีพที่ฝึกในเรื่องของการพูด การนำเสนอ มันก็เลยทำให้เราอาจจะมีทุกวันนี้ด้วยก็ได้คะ

มีโอกาสร่วมงานที่คลินิก

เอิง : ด้วยความที่เราไปรักษาสิวเราก็เลยได้มีโอกาสได้รู้จักกับคุณหมอ ด้วยความที่เราเรียนมาด้านบริหารอยู่แล้วเราก็เลยให้คำแนะนำในเรื่องของการตลาดและการบริหาร จนสุดท้ายก็เลยได้กลายเป็นว่าได้ไปช่วยเขาทำคลินิกความงามนั่นเอง ซึ่งภายในระยะเวลา 1 ปี คลินิกนั้นก็ขึ้นมาอยู่อันดับบนๆ ของประเทศได้

เริ่มมองธุรกิจอสังหาฯ

เอิง : คือจุดที่เลิกเนี่ยมาจากแม่ คุณแม่ก็พยายามที่จะแบบ เอ๊ะ ไปช่วยคนอื่นให้ประสบความสำเร็จ แล้วทำไมไม่มาช่วยที่บ้านบ้าง หันกลับมามองธุรกิจอสังหาฯ ซึ่งเปลี่ยนพื้นฐานครอบครัวคะ จากที่แบบไม่มีอะไรเลยจนมาถึงทุกวันนี้ โอเค มันต้องมีบางอย่างที่เราไม่รู้นั่นก็เลยทำให้ตั้งใจที่จะศึกษาอสังหาฯ จริงๆ จังๆ

มีคำพูดหนึ่งที่กลับมานั่งฉุกคิดก็คือ “ถ้าวันนี้เรามัวแต่ทำงานให้คนอื่น เราก็ไม่มีทางที่จะเป็นเจ้าของธุรกิจได้”

นับ 1 ใหม่กับงานอสังหาฯ

เอิง : มันก็ทำให้เราคิดเยอะนะ ว่าเราจะทิ้งโอกาสที่เราเห็นอยู่ตรงหน้าอยู่แล้ว แล้วไปลุ้นโอกาสอันใหม่ที่เรายังไม่มี เรายังไม่เห็น เราจะไปถึงจุดนั้นได้จริงรึเปล่า ก็อยากลองเลยลองทำเต็มที่ดูแล้วถามว่าจุดแรกเนี่ยไปทำของที่บ้าน ก็ไม่น่าจะตอบโจทย์ อยากได้อะไรที่มันท้าทายมากกว่าก็เลยตัดสินใจไปสมัครงานบริษัทมหาชนที่เป็นท็อป 3 ประเทศ โดยที่เราไม่มีความรู้ด้านอสังหาฯ อยู่เลย

จากรายได้เดิมที่ 6-7 หลัก เราต้องกลับมาเริ่มต้นใหม่ แบบศูนย์เลยจริงๆ คะ เงินเดือน เดือนแรกก็ตามเรทเด็กจบใหม่ค่ะ วันแรกที่รับสลิปเงินเดือนมือก็สั่นทอนนิดนึง แต่ว่าเราก็มองสิ่งที่มากกว่าเงินเดือน นั่นก็คือความรู้และก็ประสบการณ์ที่ได้

ที่ผ่านมาเจออุปสรรคอะไรบ้าง

เอิง : ปัญหาหลักของเอิงมันเป็นปัญหาชีวิตส่วนตัวมากกว่า เรียนหนังสือก็ไม่เก่งไงเพราะว่าตั้งแต่ตอนเด็กเนี่ยเป็นคนมีโรคประจำตัว เวลามีโรคประจำตัวเนี่ยจะอ่านหนังสือได้ไม่เกิน 2 ชั่วโมง เราก็น็อคละ ที่บ้านก็ไม่เคยคาดหวังกับตัวเอิงนัก เราก็รู้สึกว่าเราก็ยิ่งอยากจะพิสูจน์ให้เขาเห็น นั่นก็เลยทำให้แต่ไหนแต่ไรเราก็ฝืนทำทุกอย่างเกินขีดจำกัด เราเริ่มที่จะเรียนรู้ รู้จักดูแลตัวเอง มันเครียดนะช่วงนั้นทั้งเรียนด้วยบริหารเงินยังไงด้วย แต่มันก็ผ่านมาได้ค่ะ

ทำไมถึงสร้างเพจ “อสังหาพารวย by Palin”

เอิง : คือเพจเนี่ยเริ่มต้นจากวันแรกที่เราจะเริ่มต้นเข้ามาทำอสังหาฯ ต้องย้อนกลับไป 4 ปีที่แล้ว ข้อมูลในอินเทอร์เน็ตมันไม่ได้เยอะเหมือนวันนี้ บางข้อมูลมันก็ผิดๆ ถูกๆ เรารู้สึกว่าเราอยู่ในพื้นที่เราก็เลยอยากจะเล่า อยากจะสอนเรื่องของการลงทุนในอสังหาฯ มันก็เหมือนบันทึกการลงทุนในอสังหาฯ ที่อยู่บนเส้นทางของเอิงเอง

มีเงินน้อยทำธุรกิจอสังหาฯ ได้ไหม

เอิง : ส่วนตัวไม่ได้จำเป็นว่าจะต้องมีทรัพย์สินหรือที่ดินที่เป็นของตัวเอง คือถ้ามีอันนั้นคือแต้มต่อ แต่ถ้าเราไม่มีเงินเราก็ไม่ร่วมกับคนที่มีเงิน หรือไปทำอาชีพนายหน้าก็เป็นตัวเลือกหนึ่ง สิ่งสำคัญคือไอเดียและความคิดทางธุรกิจมากกว่า

ตลาดอสังหาฯ กับฟองสบู่

เอิง : คืออย่างตอนนี้เนาะ ทุกคนก็จะวิตกกังวลกับตลาดภาคอสังหาฯ มาก ก็ต้องบอกว่ามันจริงบางส่วนคือในบางทำเลมันเป็นฟองสบู่แล้ว อย่างคอนโดเกิดเยอะมากแต่ถามว่าทำเลที่ยังเป็นทำเลทองและความต้องการมันก็ยังมีอยู่ 

ถ้าถามว่าทำไมเอิงถึงมาเปิดธุรกิจในตอนนี้นะคะ ก็รู้สึกว่าเหรียญมันก็มี 2 ด้านเนาะ คือถ้าช่วงนี้ไม่มีใครเปิดเราเปิดก็ไม่มีใครมาแย่งเรา การทำ Product เราต้องมั่นใจว่าสินค้าเราดีตั้งแต่ทำเลที่ดินต้องมั่นใจว่าขึ้นมาแล้วมันต้องมีคนชอบมันนะคะ

ฝากแชร์แรงบันดาลใจถึงผู้อ่าน

เอิง : เอิงมีแรงบันดาลใจก็คือคุณแม่ จริงๆ คุณแม่ไม่ได้มานั่งสอนแต่ “ตัวอย่างที่ดีมันมีค่ามากกว่าคำสอน” คือสิ่งเดียวที่เขาเป็นก็คือเขาเป็นนักสู้ชีวิตจากอาชีพคนใช้กรรมกรก่อสร้างแล้วไต่เต้าจนขึ้นมาเป็นเจ้าของธุรกิจอสังหาฯ ได้  ถ้าใครที่อยากจะแบบประสบความสำเร็จคือคุณไม่ต้องรอพร้อมแล้วคุณถึงจะลงมือทำนะคะ วันนี้คือลงมือทำไปเลยคะ 

และนี่คือเรื่องราวความสำเร็จของ “คุณเอิง แพรรินทร์ เรืองปัญญาวุฒิ” กรรมการผู้จัดการบริษัท Maximus Estate จำกัด แล้วก็นิราวิลล์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เจ้าของเพจ “อสังหาพารวย by Palin” ที่เริ่มทำงานตั้งแต่เด็ก ด้วยความที่มีโรคประจำตัวที่เป็นอุปสรรคใหญ่ในชีวิต ทำให้เธออยากจะเปลี่ยนแปลงตัวเองและพิสูจน์กับครอบครัวของเธอ

เธอคือผู้หญิงที่ประสบความสำเร็จด้วยวัยเพียง 29 ปี 

และสร้างแรงบันดาลใจให้อีกหลายคน ลุกขึ้นออกมากล้าสสรรค์สร้างชีวิตของตัวเอง

สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัด คือ ความกล้าหาญของเธอ คุณเอิงกล้าที่จะออกจาก Comfort Zone คิดและกล้าลุกขึ้นมาทำจริงๆ และในวันนี้เธอได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ความกล้าหาญของเธอ ได้ทำให้เธอกลายเป็นหญิงสาวเจ้าของอสังหาฯ ร้อยล้าน...

ชมบทสัมภาษณ์ในรูปแบบวีดีโอ

https://youtube.com/watch?v=qjqjiJWvwBo%3Fwmode%3Dopaque

วัชรินทร ศิระวัฒนานนท์ (ผู้เขียน)

รฐาพัชร ตุลยพิทักษ์ (บรรณาธิการ)

ทีมงาน aomMONEY Inspired